ลมหนาวของวันปีใหม่พัดแรงอย่างบ้าครั่ง แต่
ไม่แรงเท่าลมรักที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของตำรวจหนุ่มเมื่อวานเขาช่วยพี่สาว ลนใบ
พลับพลึงประคบรอยช้ำให้ครูสาว ดวงหน้าจิ้มลิ้ม แก้มแดงปลั่งยังตามหลอกหลอนเขาทั้ง
ยามหลับและตื่น เขาจากบ้านไปนานปี กลับมาเยี่ยมบ้านครานี้แม่ของเขาแก่ตัวลงมาก พี่
น้องก็ออกเหย้าออกเรือนที่เรือนใหญ่มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้น พอรู้ว่าเขามาเยี่ยมบ้าน
ญาติพี่น้องต่างมาชื่นชม กินข้าวแลง จบลงด้วยเหล้าโรงรสชาติบาดคอ ก่อนจะแยกย้าย
กันกลับบ้าน หากเขายังข่มตาหลับไม่ลง ลุกมาก่อกองไฟผิงกลางลานบ้าน เสียงสะนูว่าว
ดังแว่วมาจากที่แสนไกล วันนี้พระจันทร์เต็มดวง เหลือบมองพระจันทร์คราใดเหตุใดห้วง
คำนึงจึงกระหวัดถึงดวงหน้าขาวผ่อง ทุกครั้งไป ป่านนี้เธอจะนอนหลับฝันดีหรือไม่นะ แล้ว
รอยฟกช้ำที่น่องของเธอจะสร้างความเจ็บปวดให้เธอสักเพียงใด ตำรวจหนุ่มครุ่นคิดถึงครู
สาว
ครูสมพรนอนพลิกตัวไปมาข่มตาหลับไม่ลง ลมหนาวของคืนนี้เหตุใดจึงหนาวนัก พอจะ
หลับตาลงสายตาพราวระยับที่แฝงด้วยความห่วงใยนั้นก็ยังแจ่มชัดในห้วงคำนึง จะไปนึก
ถึงด้วยเรื่องใด เธอยังคงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จวบจนไก่โต้งลุงภารโรงโก่งคอขัน เธอ
จึงลุกไปเตรียมของตักบาตรวันขึ้นปีใหม่
ที่วัดมีผู้มาทำบุญขึ้นปีใหม่มากหน้าหลายตา สีดามาพร้อม แม่กับน้องชายของเธอ เรือน
ใหญ่ พ่อใหญ่ แม่ใหญ่ มากับน้าหมี ทุกคนหน้าตาผ่องใส หลังจากกรำงานหนักตลอด
หน้านา หลังฤดูการเก็บเกี่ยววันปีใหม่เป็นการฉลองสิ่งใหม่ ๆทั้งข้าวใหม่ เสื้อผ้าใหม่ ครู
สมพรแต่งตัวสวยเดินมาพร้อมกับภรรยาภารโรง บังอรมาพร้อมแม่ของเธอ ปีนี้ข้าวน้ำอุดม
สมบูรณ์ผู้คนมาทำบุญกันหนาตาจนศาลาการเปรียญแคบไปถนัดตา จนต้องมายืนต่อแถว
กันนอกศาลาให้พระสงฆ์เดินรับบิณฑบาตแทน “สีดา กูว่าน้าหมีมึงอยากเว้านำครูสมพร
เด้” บังอรพูดกับสีดายิ้ม ๆ สีดาหันไปมองสีหน้าน้าบ่าวของเธอ เห็นว่าเขากำลังอมยิ้ม
ชำเลืองมองครูสมพรบ่อยครั้ง “กูว่าเฮาไปต่อแถวไกล้ ๆ ครูสมพรป่ะอร” สีดาเอ่ยชวน
บังอร แล้วพากันวิ่งไปยืนข้าง ๆ ครูสมพร “สวัสดีค่ะคุณครู” เด็กหญิงทั้งสองยกมือไหว้ครู
ของเธอ “สวัสดีจ๊ะ สีดา บังอร” ครูสมพรกล่าวทักทาย สีดาเหลือบไปเห็นน้าหมีของเธอ
สะพายกระติบข้าวเหนียวออกมาจากศาลากำลังมองหาที่ยืนรอใส่บาตร เธอหันไปยิ้มกับ
บังอรอย่างรู้กัน แล้วกวักมือเรียกน้าบ่าวของเธอ “น้าหมี มาพี้ ๆ หม่องนี่มีหม่องยืนอยู่” น้า
หมียิ้มเต็มหน้า รีบเดินมาหาเด็กทั้งสอง “สวัสดีครับครู” เขากล่าวทักทายครูสมพร ที่ก้ม
หน้า ผิวหน้าแดงระเรื่อ “สวัสดีค่ะ” ครูสมพรทักทายเสียงเบา ในใจเต้นโครมครามจนน่า
กลัวว่าลูกศิษย์ตัวน้อยทั้งสองจะได้ยิน “น้าหมีมายืนหม่องข่อยกะได้ข่อยสิไปอยู่ข้างอี
อร” สีดารีบบอกคล้ายกับจะรู้ใจน้าบ่าวของเธอ “เอ่อ..ครูยังเจ็บขาอยู่หรือเปล่าครับ” นาย
ตำรวจหนุ่มถามอาการบาดเจ็บของเธอ “ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ต้องขอบคุณว่านซนของหนูสีดา
ช่วยได้มากเลยค่ะ” เธอตอบเบา ๆ ใจยังเต้นแรงไม่หยุด ตลอดการตักบาตร สายตานาย
ตำรวจหนุ่มลอบชำเรื่องมองเธอด้วยสายตาชื่นชม เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่า กิริยาของเขา
ไม่ได้ลอดพ้นไปจากสายตาแสนซน ของสีดาหลานรักกับบังอรเพื่อนของเธอ ระหว่างเดิน
กลับบ้าน “กูว่าน้ามึงมักครูสมพรคัก ๆ สีดา” บังอรพูดยิ้ม ๆ “แก่แดดแก่ลมแท้สู่นี่” แม่ของ
บังอรหันมาเอ็ดเธอ สีดากับบังอรยิ้มให้กัน...
Bookmarks