นานนับเดือนที่สาวกานไม่ได้ข่าวคราวจากทิดแดงเลย ตั้งแต่วันที่เธอไม่ต้องรับผิดชอบ
งานเลี้ยงวัว และออกไปนาดุเหมือนความสัมพันธ์ของเธอกับทิดแดงจะจบลงไปด้วย
สาวน้อยยังมีความหวังอยู่ลึกๆว่าสักวัน เธอคงจะได้ข่าวทิดแดงบ้าง

" นาง ค้นหูกแนวได๋เดวนิ เบิ่งส่งสิใจลอยเดะนั่น ลายมุ่นเมิดหละบาดนิ " เสียงยายมะนะเอดตะโรเสียงดังลั่น

" ลืมๆแม่ เดวแก้ออกคราวเดียวดอก " เสียงแก้ตัวกลบเกลือนรอยเศร้าหมองจากใบหน้าของลูกสาว

'นางเมิงไปเอาข้าวไปส่งพ่อมึงไป ไปส่อยหลวงพ่อยุวัด สานกะบุงกะต่า
มื้อขึ้นสิบห้าค่ำ หลวงพ่อเพิ่นสิพาเอาบุญเดือนสี่ แม่ว่าเมิงเอาข้าวไปส่งพ่อ
แล้วกะส่อยงานยุวัดกะได้เด้อ เพิ่นบ่มีคนเก็บถ้วยเก็บชามล้าง "
เสียงยายมะระสั่งลูกสาว ลึกๆแล้วนางมีแผนอยู่ในใจที่จะให้สาวกานเอาข้าวไปให้พ่อ เพราะรู้ดีว่าทิดล้าน ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ก็กำลังขะมี้ขะมันช่วยงานพ่อที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน
และหลวงพ่อที่วัด

"จ้า เดวข้อยเอิ่นอิเขียวไปเป็นหมุ่เด้อแม่ " สาวกานหมายถึงน้องสาวคนเล็กอีกคน เธอรู้สึกเขินๆเมื่อต้องเดินเข้าวัดคนเดียว

สาวกานในเสื้อสีชมพุ ลายลูกไม้เล็กๆปักฉลุ ตรงแขนและคอ เล็กน้อย เธอซื้อมาจากตลาดนัดในหมุ่บ้าน และสวมผ้าถุงยาวแค่คุมเข่า เดินถือตะกล้ากะติ๊บข้าวและกับข้าวสองอย่างเดิน ลัดทุ่งนา มุ่งหน้าไปที่วัดที่ห่างจากบ้านประมาณไม่ถึง สามร้อยเมคร น้องสาวคนเล็กถือกระติกน้ำเย็นเล็กๆวิ่งตามมา

" พ่อ อิแม่ให้เอาข้าวมาส่ง" สาวกานเดินเข่ามาบนศาลาวัด เพื่อบอกกล่าวผู้เป็นพ่อ
โดยไม่ทันได้สังเกตุ ว่ามีทิดล้านนั่งมองเธออยู่ในกลุ่ม ชายอาวุโสหลายๆคน
หนุ่มหล่อลูกชายผุ้ใหญ่บ้านที่เป็นที่หมองปองของสาวๆในหมุ่บ้าน โดยเฉพาะสาวฝน
ลูกอดีตกำนันย้อย ที่เธอชอบประกาศตัวว่าเป็นคนรักของทิดล้าน แต่ทิดล้านห่า
ได้สนใจไม่ เขาคิดเพียงว่า สาวฝนคือน้องสาวคนนึงที่เขาเห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

"อินาง บ่ได้ไปไสกะไปหัดเย็บดอกไม้นำสุมแม่ออกเพิ่นนั่นไป๊ หัดไว้แน่
เด็กน้อยสุมสูบ่มีไผ่เฮดเป็น สมัยนิ" เสียงพูดปนบ่นนิดๆ แต่ไม่ได้จริงจัง จากผุ้เป็นพ่อ

สาวกานนั่งหัดเย็บดอกไม้ เพื่อประดับศาลาวัดได้เริ่มจะคล่อง กะต้องลุกไปเก็บ ถาดข้าวจากกลุ่มชายอาวุโสเพือจะนำไปชำระล้าง

"เดวอ้ายยกเอง " ทิดล้านเอ่ยขึ้นเมือสาวน้อยทำท่าจะยกสำรับเพื่อนำไปชำระล้าง

"เดวอ้ายล้างดอก " ทิดล้านพูดหลังจากที่เห็นสาวกาน
กำลังจะหากาละมังเพือชำระล้าง

" ให้ข้อยล้างกะได่ดอกอ้ายล้าน ข้อยบ่เคยเห็นผู้ชายล้างถ้วย " สาวน้อยพูดตามประสบการณ์ที่เคยเห็นมา

" ผู้ชายกะกินข้าวเป็น ปะสาล้างถ้วยมันบ่ยากดอก ยุเฮือนอ้ายกะล้างส่อยอิแม่ยุ กานไปเอาตะกล้ามาใส่ไป๋ " เสียงสั่งจากทิดล้าน
สาวกานก็ทำตามอย่างไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร

''กานเย็บดอกไม้เก่งแล้วติ มื้อหลังกะออกมาส่อยเพิ่นอีกเด้อ " ทิดล้านเริ่มบทสนทนา

"ผุสาวกะออกมาส่อยกันหลายยุเดะหละอ้าย สาวฝนทางคุ้มใต้กะมายุเดะหละ " สาวกานตอบตามที่เธอเห็น

''กาน มื้อแลงคั่นอ้ายไปเล่นทางส่งเฮือนเจ้า อย่าอู้หมาใส่อ้ายเด้อ ''
ชายหนุ่มพูดหยั่งเชิง
'' เอ๋า หมามันกะอยู่แต่มันหละเนาะ สิไปย่างให้มันกัดกะแล้วตะอ้ายแหล่ว ''
สาวกานดูไม่ค่อยแยแสนัก เพราะในใจของเธอยังเฝ้ารอข่าวจากทิดแดงด้วยหวังสักวันเขาคงส่งข่าวให้เธอรุ้บ้าง

...... จากหลายวัน ผ่านเป็นเดือน จากเดือนผ่านเป็นหลายเดือนแล้ว ทิดแดงไม่เคยส่งข่าว
มาหาสาวกานให้รู้ถึงความเป็นอยู่เลย เขามุ่งมั่นทำงาน และเรียนรู้การทำงาน
จากน้าชาย จนลืมนึกไปว่ามีใครบางคนรอข่าวจากเขาอยู่

ข้าวในนาที่ปักดำเมื่อเดือนหก กำลังเริ่มตั้งท้อง อีกไม่ถึงสองเดือน
ก็จะพอเก็บเกี่ยว
แต่ปีนี้ตาเพ็ง พ่อของสาวกานดูจะอ่อนแรงลงไปมาก ดูจากการเดินเหิน
ไม่ค่อยคล่องแคล่วเหมือนเมือนก่อน

'' นาง มานั่งใกล้ๆให้แม่ถามแน่ลูก " เสียงยายมะระถามขึ้น หลังจากที่มีโอกาส
อยู่สองต่อสองกับลูกสาวคนโต ซึ่งนั่งทอผ้าใต้ทุนบ้าน

"แม่นหยังหละแม่ " สาวกานละสายตาจากหูกทอผ้าลุกมาหาแม่

" พ่อใหญ่บ้าน เพิ่นว่าเพิ่นอยากให้ลูกชายเลามาเป็นเขยแม่
เลาว่าทิดล้านมันมักโตเดะนาง ทิดล้านเลาไปรบเร้าให้พ่อใหญ่มาต่อโตเบิ่ง''
ปีนี้พ่อโตกะอย่างทีเห้นหละนางเอ้ย จักสิหาไผมาส่อยเกี่ยวข้าว
เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
แม่กะว่าทิดล้านกะคนผุ้นึงยุเดะหล่า รึโตว่าจั่งได๋ " สิ้นเสียงแม่

น้ำตาเจ้ากรรมของสาวกานไหลรินอาบแก้ม โดยไม่ทันตั้งตัว
" แม่บ่บังคับดอกลูก บ่มักแม่กะบ่ว่าหยังดอก " เสียงนางมะระเริ่มสั่นเคลือเมือเห็นน้ำตาลูกสาว เพราะนางรุ้อยู่เต็มอก ว่าลูกส่าวหามีใจให้ทิดล้านไม่
ใจทั้งใจของเธอยกให้ทิดแดงไปหมดแล้ว