กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน

  1. #1
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
    ช่างภาพอิสระ
    สัญลักษณ์ของ ฅนภูค่าว
    วันที่สมัคร
    Feb 2010
    ที่อยู่
    นครโคราช บ้านเกิดกาฬสินธุ์
    กระทู้
    1,206

    เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน

    เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน วิธีชราอย่างมีคุณภาพ

    เคยได่ยินลูกหลานบ้านเฮาจ่ม(บ่น)ให้พูเฒ่าบ่ครับ..หึ๋ย เฒ่าแล้วกะบ่อยู่ซือๆ เฮ็ดไปอีหยังกะด้อกะเดื้อแท่เวียกนั่น บ่ย้านเมื่อยตี้ .....ลองอ่านเบิ่งครับ อาจสิเป็นคือจัง ลี กวน ยู ว่ากะได่ เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน

    เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน

    เพราะเคยมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตผิดมานาน เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี กวน ยู จึงหยุดพฤติกรรมทำร้ายตัวเองทั้งหมด และหันมาออกกำลังกายพร้อมกับใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขและสุขภาพดี ปัจจุบันท่านอายุ 87 ปีแล้ว

    อดีตนายก ฯ สิงคโปร์ ลี กวน ยู ปีนี้อายุ 87 แต่สุขภาพยังฟิตเปรี๊ยะ เพราะดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเคร่งครัด

    แกเล่าว่า ครั้งหนึ่งตอนยังหนุ่มแน่นและเป็นนักการเมืองเต็มตัว ก็เคยใช้ชีวิตที่เป็นโทษกับสุขภาพของตนอย่างยิ่งเช่นกัน กินเหล้า สูบบุหรี่ อย่างหนักหน่วงมาก่อน

    ลีเล่าว่า ตอนอายุ 34 ต้องหาเสียงอย่างร้อนแรง คืนที่ชนะเลือกตั้ง ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งดื่มเบียร์เต็มอัตรา

    พอจะขึ้นเวทีปราศรัยขอบคุณประชาชน ปรากฏว่าเสียงหาย ได้เสียงมากพอที่จะชนะเลือกตั้ง แต่เสียงจากลำคอแห้งเหือดไปหมด เพราะบุหรี่และเหล้าตัวดี (แปลว่าตัวร้าย) นี่แหละ

    “ผมหลอกตัวเองด้วยการซื้อบุหรี่ซองละ 10 มวน...แต่ผมต้องปราศรัย 3 แห่งในคืนเดียวกัน ก็จึงสูบไป 30 มวนอยู่ดี....” นายลีเล่าให้สมาคมผู้สูงอายุฟังเมื่อไม่นานมานี้

    มาถึงจังหวะหนึ่งของชีวิต นายลีบอกว่าสุขภาพของเขาย่ำแย่ถึงขั้นที่เขาต้องตัดสินใจว่าจะเป็นนักการเมืองและทนายความที่ดีต่อไปได้หรือไม่ สองอาชีพนี้ต้องใช้เสียงด้วยกันทั้งนั้น

    “ผมบอกตัวเองว่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือทนาย ผมก็ต้องรักษาเสียงผมไว้ ผมจึงตัดสินใจเลิกบุหรี่...” นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะลีสารภาพว่าเขาติดบุหรี่งอมแงม บางคืนฝันร้ายว่ากลับไปสูบบุหรี่อีก ตกใจตื่นขึ้นมากลางดึกก็บ่อย ๆ

    แต่พลังของความเด็ดเดี่ยวที่จะต้องเลิกบุหรี่นั้นมาจากการตอบคำถามตัวเองว่า จะทำอาชีพของตัวเองให้ได้ดีต่อไปหรือไม่ ถ้าจะทำงานให้ดีต้องหยุดบุหรี่ และต้องหยุดอย่างเด็ดขาด ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ได้

    ตอนนั้น ลียังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งกับการสูบบุหรี่ จึงยังไม่มีความกลัวตายนัก

    แต่แปลกมากที่หลังจากนั้น ลี ก็เกิดอาการแพ้ควันบุหรี่อย่างหนักหน่วง เรียกว่าใครสูบบุหรี่ใกล้ ๆ ไม่ได้เลย

    “ผมต้องขอให้รัฐมนตรีไม่สูบบุหรี่ในห้องประชุม ถ้าจะสูบก็ขอให้ไปสูบนอกห้อง เพราะผมแพ้มันจริง...”

    วันหนึ่ง ลี อยู่ที่บ้านของเพื่อนซี้ชื่อราชารัตนัม และกำลังพูดคุยกับนักข่าวต่างประเทศกลุ่มหนึ่งซึ่งรวมถึงนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ ลอนดอนไทมส์

    พอถ่ายรูปร่วมกัน ลี เห็นรูปของตัวเองพร้อมกับพุงที่ยื่นออกมาอย่างน่าเกลียด
    “ผมบอกตัวเองทันทีที่เห็นรูปนั้นว่า ไม่ไหว เพราะมันเป็นพุงที่ยื่นออกมาด้วยฤทธิ์ที่ดื่มเบียร์มากเกินไป”

    ลี กวน ยู ตัดสินใจปฏิบัติการ “ลดพุง” ด้วยการหันไปเล่นกอล์ฟ...เริ่มด้วยการหวดลูกกอล์ฟเป็นร้อย ๆ ครั้งต่อวัน

    แต่พุงก็หาได้ลดลงไม่ แกจึงบอกตัวเองอีกรอบว่า ถ้าจะให้หุ่นดี ต้องลดการบริโภค และต้องเผาผลาญจากร่างกายให้มากกว่านี้

    วันหนึ่งหลังการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 1976 ลี บอกว่ารู้สึกเหนื่อย จึงไปยืนที่สนามของทำเนียบนายก ฯ พยายามหายใจลึก ๆ ยาว ๆ

    ลูกสาวลีคนหนึ่งที่เพิ่งจบวิชาแพทย์มาเห็นเข้าก็ถามว่า “พ่อทำอะไรอยู่”
    แกตอบว่า “พ่อพยายามจะสูดออกซิเจนเข้าไป”

    ลูกสาวตอบสวนกลับมาทันทีว่า “ถ้างั้น พ่อต้องไม่เล่นกอล์ฟ ต้องหันไปวิ่ง ต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิก...”

    ตอนแรก ลี ใช้วิธีเดินเร็ว ๆ ระหว่างหลุมกอล์ฟ ต่อมาก็วิ่งระหว่างหลุม รู้สึกร่างกายจะตอบสนองดี หลังจากนั้นไม่นาน ลี ก็ตัดสินใจออกกำลังกายด้วยการวิ่งหลังการตีกอล์ฟ

    อีกไม่กี่ปีต่อมา ลี ก็ได้คำตอบกับตัวเองว่า การตีกอล์ฟกินเวลายาวนานเกินไป ออกกำลังกายด้วยการวิ่งกินเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น แกจึงเลิกตีกอล์ฟ หันมาวิ่งอย่างเดียว

    ลีบอกว่า ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะมีอายุถึง 84 หรือ 85 คุณแม่เสียตอนอายุ 74 แต่คุณพ่อจากไปตอน 94 เพราะคุณพ่อว่ายน้ำทุกวันและหาเรื่องทำตลอดเวลา

    “ดังนั้น ผมจึงคำนวณเอาเองว่า ผมควรจะมีอายุยาวนานถึงตรงกลางระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ “

    ตอนอายุ 73 ขณะที่ขี่จักรยาน ลี รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นไปถึงคอ วันรุ่งขึ้น ถีบจักรยานอีก อาการหนักขึ้นหลังจากเริ่มต้นได้ 5 นาที

    แกให้หมอตรวจก็พบว่า เส้นโลหิตบางเส้นตีบ ต้องใส่บอลลูนหัวใจ “ถ้าผมไม่รีบไปให้หมอหัวใจตรวจ สงสัยอาจจะม่องเท่งตอน 74 แล้วก็ได้ เหมือนแม่ผม...”

    เส้นตายเส้นต่อไปคืออายุ 84 ซึ่งเป็นปีที่คุณพ่อหกล้มจนต้องนั่งรถเข็น
    “ผมต้องระวัง เพราะบางทีถ้าผมหมุนตัวเร็วไปหน่อย จะเกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด จึงต้องทำอะไรช้าลง เพราะประสาทของคนวัยทองเริ่มจะเสื่อมถอยลง”

    ลี กวน ยู แนะนำคนชราแห่งสิงคโปร์ว่า จะต้องไม่แยกตัวเองไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องการมีอะไรมากระตุ้นตลอดเวลา และต้องพบปะผู้คน ต้องคอยติดตามเรื่องราวของสังคมและโลก

    “ผมไม่ค่อยชอบเดินทางเท่าไร แต่ผมก็บังคับตัวเองให้ไปโน่นมานี่ในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของหลายบริษัท เช่น ธนาคารและบริษัทน้ำมัน ผมไปจีน ไปอินเดีย...ได้พบปะ ได้ประชุม ได้ฟังคำบรรยายสรุป จะได้รู้ว่าโลกไปถึงไหนแล้ว...มิฉะนั้น ผมว่าเราจะเหี่ยวเฉาแน่หากนั่งนอนอยู่กับบ้านและไม่คบหาผู้คน...”

    ลีบอกว่า ที่สำคัญสำหรับคนอายุมากขึ้นคือ ต้องมีความสนใจอะไรเป็นพิเศษ
    “ถ้าคุณอายุ 55 และบอกตัวเองว่าจะเกษียณเพื่ออ่านหนังสือ เล่นกอล์ฟ และดื่มไวน์ ผมว่าคุณเสร็จแน่ ๆ เพราะหลังจากสองสามเดือน คุณจะเริ่มเบื่อ ไม่มีอะไรทำ ไม่มีเป้าหมายในชีวิต คุณจะเริ่มเหี่ยวทั้งร่างกายและหัวใจ...”

    ดังนั้น คำแนะนำจากท่านผู้อาวุโสของสิงคโปร์ก็คือ ต้องหาเรื่องที่ตนเองสนใจมาทำ และต้องหาอะไรท้าทายตัวเองตลอดเวลา

    “ทุกวันนี้ พอใครมาบอกผมว่า อายุ 60 แล้ว กำลังจะเกษียณ จะไม่ทำอะไรแล้ว ผมถามเขาว่า คุณอยากตายเร็วหรือไง”

    แกฝากบอก สว. หรือคนสูงวัยทั้งหลายว่า “ถ้าคุณต้องการเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้ คุณต้องหาเหตุผล ต้องมีอะไรมากระตุ้นให้คุณต้องการจะใช้ชีวิตที่สนุกสนานต่อไปเรื่อย ...ไม่ใช่พักผ่อนนอนหลับอย่างเดียว...

    อย่างนี้เท่ากับรอวันตายเท่านั้น

    (โดย สุทธิชัย หยุ่น ชีพจรสุขภาพ นิตยสาร ชีวจิตรายปักษ์ 1 ธันวาคม 2553)



    ขอขอบคุณเจ้าของ FWM

    เกษม เถาพุทธา



    อ้างอิงจาก; เมื่อท่านผู้เฒ่า “ลี” สอน วิธีชราอย่างมีคุณภาพ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ฅนภูค่าว; 30-03-2011 at 16:06. เหตุผล: แก้คำผิด

  2. #2
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    กระทู้
    1,212
    ขอบคุณสาระดีๆเด้อจ้า ต้องนำไปบอกพี่น้องผุเพิ่นมักกิน มักสูบ อยุ่บ้านนำ

  3. #3
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ เเมงสะดิ้ง
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    ที่อยู่
    ที่ชอบ
    กระทู้
    1,025
    บล็อก
    24
    อืมม์...เป็นบทความที่ดีมากๆ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
    รู้อย่างนี้ ก็พร้อมที่จะแก่อย่างมีคุณภาพแล้วล่ะ
    เป็นคนชราอย่างมีเป้าหมายปลายทาง
    อิอิ...
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เเมงสะดิ้ง; 30-03-2011 at 20:43.
    สะดิ้งคือน้องได้ยินเสียงฆ้องกะแล่นตำ

  4. #4
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ ลุนนี ศรีเกษ
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ที่อยู่
    ศรีสะเกษ กรุงเทพ จอมเทียนชลบุรี
    กระทู้
    789
    บล็อก
    1
    ขอบคุณที่ขึ้นหัวเรื่องได้น่าอ่าน บทความดีๆอีกหลายยยยเรื่องแต่จั่วหัวเรื่องบ่อน่าสนใจ ทำให้ขะน้อยพลาด อิอิ ดีเนาะจ้าเถ่าแบบมีคุณค่า บ้านเฮาว่าคันสมบัติหลายลูกหลานกะเบิ่งแยงดี คันสมบัติบ่อมีพี่น้องกะตีจาก อย่าไปหมายว่าสมบัติคือเงินทองท่อนั้น ความรู้ความสามารถกะเป็นสมบัติชั้นดี
    (โจรกะปล้นไปบ่อได้) แต่ แต่ แต่ ไผแน่นอที่เห็นในจุดนี้ ลายหูกลายไหม เบิดแม่ไหย่แล้วกะมัดบ่อเป็น วิชาปลูกบักหมากบักพร้าวเบิดบุญพ่อแล้ว กะปลูกบ่องาม อ้าวเว่าไปหลายสิหาว่าเถ่าแล้วจ่ม

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ pcalibration
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    เมืองฉะเชิงเทรา(แปดริ้ว)
    กระทู้
    1,883
    บล็อก
    1
    ขอบคุณสาระดีครับ..
    แหม่นควมป้าแดงหว่า..(ถ้าลูกหลานมันเห็นแก่โต)
    สิพยายามเฒ่าคือบักพร้าว..ยิ่งแก่ยิ่งมันส์..แต่บ่แหม่นกะโหลกกะลาซื่อๆครับ
    คงสิมีหลายแนวทางสำหรับการเตรียมโตเป็น.สว.ในโอกาสอันใกล้

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •