แกนปฏิกรณ์สีเหลืองๆ ถูกแช่อยู่ในน้ำ
ถ้าไม่มีน้ำแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนครับ ปฏิกริยานิวเคลียร์มันคายความร้อนออกมา ถ้าไม่มีน้ำเป็นตัวพาออกความร้อนออกไป แกนมันก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อร้อนถึงจุดหนึ่งมันก็จะละลาย นี่เป็นที่มาของคำว่า Meltdown
บอกตรงนี้ชัดๆ อีกครั้ง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่มีการระเบิด ครับ
แต่สิ่งที่มันจะเกิดจะเป็นดังรูป มันจะหลอมละลาย และทำให้สารรังสีแพร่กระจายออกมา
เมื่อเราเข้าใจการ meltdown แล้ว คราวนี้ จะมาเริ่มอธิบายแล้วว่าเหตการณ์มันเป็นยังไง
หลังจากเกิดแผ่นดินเหตการณ์แผ่นดินไหว
ระบบหยุดทำงานอัตโนมัต จะเริ่มทำงานทันที เพื่อยุติปฏิกริยานิวเคลียร์ภายในรีเอคเตอร์โดยการใส่ตัวหน่วงปฏิกริยาลง
ดัง รูปจะให้ได้ว่า แท่งปฏิกรณ์นั้นร้อนแล้วเลยกลายเป็นสีแดงเลย ส่วนสีดำที่เข้ามาขั้นตรงกลางนั้นคือตัวหน่วงปฏิกริยา เพื่อทำให้ปฏิกริยาค่อยๆหยุดลง
การหยุดของรีเอคเตอร์ จะไม่ได้หยุดทันทีทันใด แต่จะค่อยหยุดๆดังนั้นแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีน้ำหล่อเย็นอยู่ตลอดเวลาไม่ให้แกนปฏิกรณ์ร้อนจนละลาย ดังที่กล่าวมาแล้ว
เมื่อเริ่มทำการหยุดปฏิกริยา
cooling system - 1 (ระบบระบายความร้อนที่ 1) ก็เริ่มทำงานทันที เพราะเป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อระบายความร้อนออกจากแกนปฏิกรณ์
แต่เนื่องจากผลจากแผ่นดินไหว ทำให้ระบบได้รับความเสียหาย
ระบบที่หนึ่งหยุดทำงาน
ระบบระบายความร้อนสำรองเริ่มทำงานทันที เมื่อความร้อนในแกนมีค่ามากกว่าที่กำหนดไว้
แต่เหตการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวสิบนาที คลืนซึนามิความสูงสิบเมตร ได้โถมเข้าใส่โรงไฟฟ้า
ทำให้ระบบ-2 ได้รับความเสียหาย หยุดทำงานในทันทีอีกเช่นกัน
ระบบฉุกเฉินระบบสุดท้าย คือระบบที่สามทำงานทันที
เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ได้เกิดขึ้นเมื่อระบบน้ำในระบบที่สามนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว ตรงนี้แหละที่อธิบายว่าทำไมถึงเกิดการระเบิดของอาคาร
ปริมาณ น้ำที่ลดลง เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้น้ำทำปฏิกริยากับเซอโคเนีย (Zr) ซึงทำให้น้ำ H2O ถูกแยก เป็น H2 และ O ไปจับกับเซอโคเนียเป็น ZrO2 และ O2
จึงทำให้มีก๊าซไฮโดรเจนในปริมาณมาก น้ำได้กลายเป็น H2 และ ทำให้ความดันในอาคารสูงขึ้น H2 ซึ่งไวต่อการลุกไหม้และการะเบิด ได้เกิดการระเบิดขึ้น ทำให้อาคารเกิดความเสียหาย
และนี่คือจุดเริ่มต้นของความวิตกกังวล
เพราะ H2 ที่หลุดออกมา ได้พา ไอโซโทบของไอโอดีน และ ซีเซียมออกมาด้วย
นี่เป็นเหตุผลทำไมถึงแจกไอโอดีน เพราะเพื่อป้องกันการสะสมของไอโซโทบของไอโอดีนนั้นเอง
ในรูปแสดงให้เห็นว่าระดับน้ำนั้นลดลง (ได้กลายสภาพเป็น H2)
ที่มา Maki Roll : http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10342781/X10342781.html และ NHK
Bookmarks