กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: โปรดอย่าคาดหวังให้ลูกฟังทุกสิ่งที่เราบอก

  1. #1
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23

    โปรดอย่าคาดหวังให้ลูกฟังทุกสิ่งที่เราบอก



    โปรดอย่าคาดหวังให้ลูกฟังทุกสิ่งที่เราบอก

    คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคะ โปรดอย่าคาดหวังให้ลูกๆ ของเรารับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพร่ำบอก... แต่ว่า จงอย่าเบื่อที่จะบอก...


    เพราะนั่นฉันเชื่อว่า มันเป็นหน้าที่ของเราโดยตรงเลยนะคะ
    ไม่เช่นนั้น พ่อแม่จะมีไว้ทำไมหลังจากคลอดลูกมาแล้ว??
    แน่นอนที่สุด นอกเหนือจากมีไว้คอยเลี้ยงดูแล้ว เรายังมีหน้าที่ต้องอบรมบ่มสอนให้ลูกๆ เติบโตไปเป็นคนที่ดีของสังคมของประเทศและของโลกต่อไป เพราะเรื่องเหล่านี้หากพ่อแม่ไม่ได้ทำแล้วใครจะทำ??
    ดังนั้น เราต้องสอน ต้องเตือน ต้องห้าม ต้องชี้สิ่งดีสิ่งไม่ดี ให้ลูกรับรู้อยู่ตลอดเวลา...อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พูดไปแสดงออกไปเถอะค่ะ ทั้งหมดที่เราคิดว่าจะเป็นสิ่งดีหรือไม่ดีสำหรับลูก หรือคิดว่าลูกจะได้รับผลดี หรือเป็นอันตราย เพราะนั่นมันออกมาจากใจ จากความห่วงใย จากความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของเราที่มีต่อเขา
    ส่วนลูกนั้นก็อาจจะเบื่อ ไม่อยากรับฟัง ก็เป็นธรรมดา หรือดื้อรั้น ไม่ฟังเรา นั่นก็เป็นธรรมดาอีก หรือแอบดื้อเงียบ ต่อหน้าเราอาจจะแสดงว่าฟังๆๆๆ เข้าใจแล้วๆๆๆ รู้แล้วๆๆๆๆ แต่พอลับตาเราก็พยายามจะทำในสิ่งที่เค้าอยากจะทำ...ก็แสนจะธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะนั่นเป็นการแสดงออกของมนุษย์ในช่วงอายุหรือขั้นตอนต่างๆ ของการเจริญเติบโต การสื่อสารจากพ่อแม่ ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำอีก

    หากว่าเค้าเกิดไปทำพลาดพลั้งในเรื่องที่เราเตือนไว้แล้ว ก็จงอย่าพูดว่า “เห็นมั๊ย..บอกแล้วไม่เชื่อ” หรือ “บอกแล้วไง ทำไมไม่เชื่อ” “เบื่อแล้วนะ...พูดแล้วไม่ฟัง” ฯลฯ เพราะลูกบางคนเค้าอาจจะเสียใจอยู่แล้ว ก็จะทำให้ยิ่งเสียใจมากขึ้น สิ่งที่เราต้องทำคือ โอบอุ้ม ปลอบขวัญ ให้กำลังใจ ช่วยให้หายเจ็บโดยเร็วที่สุด

    และเมื่อใดก็ตามที่เค้าเกิดค้นพบถึงความ “เยี่ยมยอด” ของสิ่งที่เราได้เคยบอกเค้าไว้แล้ว (แต่ไม่ได้ฟัง) และเค้าแสดงออกหรือบอกให้เรารับรู้ ก็จงยิ้มแสดงความยินดีกับเค้า ที่เค้าค้นพบด้วยตัวเอง จงอย่าพูดอย่างทวงบุญคุณว่า “เห็นไหมล่ะ บอกแล้วไม่เชื่อ ...” เก็บถ้อยคำไว้ค่ะ เค้าจะรู้สึกได้เอง

    สิ่งที่พ่อแม่จะคาดหวังได้จากการพร่ำสอนลูกๆ ก็คือ เมื่อลูกเกิดพลาดพลั้ง เจอเรื่องร้าย เค้าก็จะได้รู้ และแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้อย่างรวดเร็วค่ะ... นั่นเป็นความคาดหวังที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่ที่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดชีวิต จนบางครั้งเกือบกลายเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาของลูก

    ไม่ต้องกลัวที่จะทำหน้าที่ของพ่อแม่
    แล้วลูกจะรับรู้ได้เองไม่ช้าก็เร็วว่าเราได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่รักลูกอย่างแท้จริง...
    โชคดีนะคะ


    ขอบคุณผู้เขียนเมลนี้ค่ะ/ ที่มา.. fw.mail
    มองต่าง..อย่างปลง

  2. #2
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    จริง ๆ แล้วการอบรมสั่งสอนลูกก็เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เหมือนกันนะครับ

    ผมเคยอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก แต่พอปฏิบัติจริง ๆ มักฟิวส์ขาดตลอด

    พอกลับมาคิดทบทวนภายหลังแล้ว รู้สึกเสียใจ แต่ผมเชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ ความเป็นเด็กดี

    ที่มีมาในตัวของเด็ก ก็มีส่วนที่จะทำให้เด็กเติบโตเป็นคนดี แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อม

    ที่ไม่ดีก็ตาม อันนี้ก็มีส่วนจริงอยู่บ้างครับ

  3. #3
    ครีเอทีพ โปรดิวเซอร์ สัญลักษณ์ของ บ่าวข้าวจี่
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    กระทู้
    1,008
    บล็อก
    7
    ..ลูก..มีเรา..อยู่เกือบครึ่งในตัวเขา การคาดหวังในเรื่องให้เขาเอาตัวรอดและหยัดยืนได้เหมือนเรา..ก็พอใจแล้วหละครับ บั้นปลายเขาอาจไม่ได้อยู่กับเรา หรือ เราอาจไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของเขา....ขอให้ในกายและใจเขายังมีเรา(พ่อแม่)...แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •