สวัสดีครับพี่น้องชาวบ้านมหา.Com ทุกท่าน
มื้อนี้ดีเจเต็มฯมีเมนูของหวานมาอ้างพี่น้อง อ้างว่าตะของเฮ็ดกินเองกะเป็นครับ ฮ่าๆๆ
พอดีผมไปได้เผือกรสเลิศ คุณภาพดีมาจากแม่ใหญ่สอน ดินแดนเมืองดอกลำดวนพู้นละครับ
เฮ็ดกินหัวหนึ่ง จ่งไว้ปลูกเอาแนวอีกหัวหนึ่งครับ ของเพิ่นดีจริงว่าซ๊านเถาะครับ
เมนูกะบ่ได้ยากอิหยังครับ ตอนแรกว่าสินึ่งกินกะง่ายโพด หมกกะบ่มีเถ้า เลยต้องบวดนี่ละครับ
ปอกเปลือกเผือกออกให้เกลี้ยงครับ ตามวิธีที่ท่านถนัดครับ ได้มาแล้วครับสวยงามปานลูกสาวแม่ใหญ่สอนเลยละ
ต่อมากะผ่าออกมา เพื่อสิมาหั่นเป็นต่อน (ชิ้นๆ)ตามสมควรครับ ถ้าต่อนน้อย กะสิเปื่อยเร็วครับ สุกไวนำละ อิอิ
แต่ว่าดีเจเต็มฯเป็นคนปากกว้าง เลยหั่นพอดีคำตะของครับ
ได้ต่อนงามแฮงครับ สะออนฝีมือการหั่นเด้พี่น้อง ฮ่าๆๆ
จากนั้นกะมาถึงขั้นตอนการแช่น้ำเกลือครับ
หลายท่านอาจสิสงสัยว่า เป็นหยังต้องแช่น้ำเกลือ คำตอบง่ายๆเลยครับว่า ย้านไปคือสูตรผู้อื่นเพิ่นครับ ฮ่าๆๆ
บ่แม่นครับ แช่น้ำเกลือก็เพื่อ ..........
พร้อมแล้วกะนำเผือกที่หั่นเสร็จแล้วลงแช่น้ำเกลือได้เลยครับ
ระหว่างที่แช่น้ำเกลือไว้นั้น เฮากะมาเบิ่งเครื่องปรุงกันเลยเนาะครับว่ามีหยังแหน่ ซั่นเถาะไป๊
บ่มีหยังหลายครับ นอกจากน้ำตาล กับน้ำกะทิ และความตั้งใจเนาะครับ
ต่อมากะเอาน้ำกะทิมาแบ่งเป็นสองส่วนครับ ส่วนที่หนึ่งเป็นหางกะทิครับ (บ่อยากให้คือไผอีกละครับ)
ส่วนที่สองเป็นหัวน้ำกะทิครับ เอาไว้เติมขั้นตอนก่อนยกลงจากเตาเนาะครับ เพราะว่าจะได้ราดด้วยน้ำหัวกะทิ
สาเหตุที่ดีเจเต็มฯกล่าวถึงหางกะทิก่อนกะเพราะว่า จะได้ใช้ก่อนนั่นเองครับ
นำหางน้ำกะทิลงในหม้อที่จะต้มครับ แล้วเติมน้ำให้เหมาะสมกับวัตถุดิบ(เผือก)ของเฮาครับ
แล้วนำขึ้นข้างเตาครับ อย่าลืมเปิดแก๊สเด้อละครับ ถ้าผู้ใด๋ใช้เตาแก๊สกะดาย ฮ่า
หม้อเริ่มฮ้อนแล้ว กะเอาน้ำตาลมาเติมครับ เลือกน้ำตาลแดงเพราะว่าเป็นชื่อหนังครับ
เติมน้ำตาลตามใจชอบครับ แต่บ่ควรหวานจนเกินไปครับ เพราะว่าจะทำให้สิ้นเปลือง ฮ่าๆ คนขี่ถี่เนาะดีเจเต็มฯกะดาย
เติมน้ำตาลเสร็จแล้ว กะมนุษย์(คน)ไปทางซ้าย มนุษย์ไปทางขวาครับ เพื่อบ่ให้หม้อไหม้ครับ
จากนั้นขั้นตอนต่อไปครับ นำเผือกที่แช่น้ำเกลือไว้มาลงหม้อได้เลยครับ
ต้มไปจนกว่าเผือกจะสุกครับ สังเกตง่ายๆครับ ถ้าเผือกสุกจะมีการขยายตัวเล็กน้อย ส่งกลิ่นหอม แล้วน้ำลายเฮากะสิไหล
นั่นละครับแสดงว่าเผือกสุกแล้ว ฮ่าๆ
นี่ครับเผือกสุกแล้วครับ เพราะว่าน้ำลายผมไหลแล้ว และที่สำคัญอยากตักออกมาชิมแล้วครับ
ขั้นตอนนี้ปิดแก๊สได้แล้วครับ และตามด้วยนำน้ำหัวกะทิมาราดในหม้อได้เลยครับ
พร้อมแล้วก็ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้เลยครับ
สุดท้ายนี้ ขอฝากไปยังผู้ให้เผือกมาเด้อครับ อยากบอกว่าเผือกหัวนี้แซบหลาย ขอบคุณครับ
ขอบคุณเว็บบ้านมหา.com
ขอบคุณผู้อ่านจนจบ สวัสดีครับ
Bookmarks