เช้านี้ท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกเมฆสีดำทะมึนก่อตัวบดบังแสง
อาทิตย์แต่เช้าตรู่ เมื่อคืนอากาศร้อนอบอ้าวตลอดคืน ปีนี้ฝนมาเร็วกว่าปีที่แล้ว หลังวัน
สงกรานต์ไม่กี่วันฝนตกหนักตลอดคืนจนน้ำนองทั่วลานบ้าน หญ้าแห้งกรอบถอดยอด
อ่อนสีเขียวสด มองคล้ายผ้าสีเขียวที่แผ่คลุมลานบ้านของฉัน ฝนเริ่มลงเม็ดแม่กุลีกุจอ
เตรียมเมล็ดแตงไทย ถั่วฝักยาว บอกว่ากินข้าวเช้าเสร็จให้ฉันพาไปนาทีจะรีบเอาเมล็ด
แตงไทยไปปลูกตามกองขี้เถ้าที่สุมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ฝนตกกลัวดินจะเย็นซะก่อน
แล้ววันนี้ก็เป็นวันพฤหัสบดีด้วย เป็นวันปลูกวันฝัง เป็นความรู้ใหม่อีกแล้ว ว่าปลูกแตง
ต้องปลูกตอนดินกำลังร้อนแล้วต้องหาฤกษ์หายามด้วย เช้านี้ที่บ้านเรามีน้ำพริกแมงจินูน
ใส่มะม่วง รสชาติเผ็ดเปรี้ยวกำลังดี มีข่าอ่อนต้ม ลวกดอกกระเจียวเป็นผักเคียงจาน
ใหญ่ พ่อเจริญอาหารเป็นพิเศษฉันสังเกตว่าอาหารโปรดของพ่อเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มา
เป็น แมลง น้ำพริกผักต้มแทนนานแล้ว ด้วยวัยที่มากขึ้นหรืออย่างไรอาหารการกินจึง
ได้เปลี่ยนไป ตลอดเช้ามีเพื่อนบ้าน ญาติ ๆ แวะเวียนมาคุยกับพ่อแม่ไม่ขาด บ้าง
มาขอซื้อรำ เอากบ เขียดที่ออกส่องมาได้เมื่อคืนมาแบ่งให้ บ้างก็มานั่งคุย แม่จะแบ่ง
พริกที่เก็บจากสวนให้ติดมือกลับไปด้วย กว่าแขกคนสุดท้ายจะกลับ ก็สายมากแล้ว
ไปถึงโรงนาแม่ไม่รอช้าแบกจอบลงทุ่ง ลงมือขุดดินเอง ฉันสังเกตสีหน้าแม่เวลาหย่อน
เมล็ดแตงไทยลงหลุมเป็นสีหน้าที่เปี่ยมสุข หลุมแล้วหลุมเล่า ระหว่างนั้นฉันเดินสำรวจ
คันดินที่ทางการ ส่งรถมาขุดลอกลำห้วยให้ลึกและกว้างขึ้น แล้วยกคันดินให้สูง คิด
ในใจว่าจะหาต้นไม้อะไรมาปลูกรักษาหน้าดินไม่ให้พังเมื่อน้ำหลาก สักพักได้ยินเสียง
รถไถนาดังกระหึ่มมาใกล้ ผัวบ่าวเมียสาวที่ตกลงใช้ชีวิตร่วมกันเมื่อเดือนสี่ที่ผ่านมา
ขนต้นไม้มาเต็มคันรถ หน่อกล้วย ลำมันสำปะหลัง หน่อสับปะรด พอรถมาหยุดที่
โรงนาอีกฟากของลำห้วยดับเครื่องรถผู้ผัวแบกจอบลงจากรถเดินมาริมห้วยฝั่งตรงข้ามที่
ฉันยืนอยู่กับแม่ “ปลูกหยังแหน่ละเอื้อย” สามีที่อายุอ่อนกว่าฉันหลายปีเอ่ยถาม “พา
เฒ่าแม่มาปลูกหมากแตงดอก โตเด้..แก่หยังมาเต็มรถ” ฉันถามบ้าง “กล้วย มัน
หมากนัด จักสิขึ้นบ่ดอก” เขาตอบพรางลงมือขุดดิน ขณะที่ภรรยาขนต้นไม้มากอง
ข้าง ๆ “เกี่ยกันปลูกเด้อกล้วยหั่น มันจั่งดกจั่งแผ่” แม่ฉันร้องแซวให้ขี่หลังกันขณะ
ปลูกกล้วย ภรรยาสาวแรกรุ่นก้มหน้ายิ้มเอียงอาย “หนักกะด้อเกี่ยบ่ไหวดอกแม่ใหญ่”
ฝ่ายผัวตอบแทนยิ้มเต็มหน้า ฉันรู้ว่าเขาก็คงสะเทิ้นอายด้วยเช่นกัน ฉันมองดูภาพที่
ทั้งสองช่วยกันทำงาน เป็นภาพความสุขเล็ก ๆ ของครอบครัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะก่อ
ขยายเป็นครอบครัวใหญ่ในอนาคต ฉันนึกเสียดายที่ไม่ได้หยิบกล้องติดมือไปด้วย ฉัน
อยากบันทึกภาพน่ารักนี้เก็บไว้ ครอบครัวนี้ทำให้ฉันนึกถึงครอบครัวอีกหลายครอบครัว
ที่ดั้นด้นเข้าเมืองใหญ่เพื่อขายแรงงาน อะไรคือความสุขในแง่คิดของพวกเขา ครอบ
ครัวนี้แสดงให้ฉันเห็นว่าความสุขไม่เคยอยู่ไกลเกินเราจะไขว่คว้า บางครั้งความสุขก็
แฝงมากับสายฝนที่พร่างพรม และสายลมที่พัดเพียงแผ่วเบาเช่นเช้าวันนี้.....
Bookmarks