กำหนดพิธีวันพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2554
วันพืชมงคล 2554: พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นงานพระราชพิธีที่กระทำในตอนเช้าของรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ณ บริเวณมณฑลพิธีสนามหลวง ที่มีแจ้งไว้ในกำหนดการดังนี้
วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 07.30 น.
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนาพร้อมด้วยเทพีขึ้นรถยนต์หลวงที่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดารามออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูสวัสดิโสภา ถนนสนามไชยไปยังมณฑลพิธีสนามหลวง
เมื่อเดินทางมาถึงจะได้ตั้งกระบวนแห่อิสริยยศ แล้วเดินกระบวนแห่อิสริยยศไปส่งที่โรงพิธีพราหมณ์ พระยาแรกนาจุดธูปเทียนถวายสักการะเทวรูปสำคัญแล้วจะได้ตั้งสัตยาธิษฐาน หยิบผ้านุ่งแต่งกายไว้พร้อม เมื่อพระยาแรกนาตั้งสัตยาธิษฐานหยิบได้ผ้านุ่งผืนนั้นทับผ้านุ่งเดิมอีกชั้นหนึ่งนุ่งอย่างบ่าวขุนเตรียมออกแรกนา
ครั้นเวลาประมาณ 08.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ไปยังพลับพลาที่ประทับบริเวณมณฑลพิธีสนามหลวงเพื่อเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ฤกษ์พิธี ไถหว่าน ระหว่างเวลา 08.19-08.59 น. นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนา จะได้ยาตราพร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและพราหมณ์นำผ่านพลับพลา หน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละออกธุลีพระบาทถวายบังคมแล้วไปยังลานแรกนา
เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและไถแล้วไถดะไปโดยรี 3 รอบ เพื่อพลิกดินให้เป็นก้อน ไถโดยขวาง 3 รอบ เพื่อย่อยดินให้ละเอียดพร้อมหว่านเมล็ดธัญพืช พนักงานประโคมฆ้องชัยเครื่องดุริยางค์แล้วไถกลบอีก 3 รอบ เพื่อกลบเมล็ดธัญพืชลงในดินเสร็จแล้วพนักงานปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยัง โรงพิธีพราหมณ์
พราหมณ์เสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค เมื่อพระโคกินของสิ่งใดโหรหลวงจะได้ถวาย คำพยากรณ์เสร็จแล้วจะได้เบิกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาต่างๆ ตัวแทนสถาบันเกษตรกรดีเด่น สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติสาขาต่างๆ และผู้รับรางวัลสมทบ เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณ หลังจากนั้นจะได้แห่พระยาแรกนา เป็นกระบวนอิสริยยศออกจากโรงพิธีพราหมณ์พระยาแรกนากราบถวายบังคม แล้วเข้ากระบวนไปขึ้นรถยนต์หลวงพร้อมด้วยเทพีไปรอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่แปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จ พระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพลับพลาพิธีไปยังแปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระยาแรกนาได้เข้ากราบถวายบังคม พระยาแรกนาและเทพีนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปหว่านในแปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อปลูกไว้ใช้ในพระราชพิธีฯ ในปีต่อไป
เมื่อพระยาแรกนาหว่านข้าวเสร็จแล้ว เข้าไปกราบถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นอันเสร็จพระราชพิธี
พระยาแรกนา
นายเฉลิมพร พิรุณสาร
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนา
ประวัติส่วนตัว
เกิดวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๙๓ สมรสกับนางอรทัย พิรุณสาร มีบุตร-ธิดา ๒ คน
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๑๗ ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา Civil Engineering จาก Adamson University
ประเทศฟิลิปปินส์
พ.ศ. ๒๕๑๙ ปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา Agricultural Engineering จาก Araneta University Foundation ประเทศฟิลิปปินส์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
มหาปรมาภาณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ
เทพีคู่หาบเงิน เทพีคู่หาบทอง
เทพีคู่หาบทอง
นางสาวเดือนเพ็ญ ใจคง ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน
สังกัดศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯ มุกดาหาร กรมหม่อนไหม
ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย
นางสาวสรชนก วงศ์พรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายช่างโยธาชำนาญงาน ฝ่ายโยธา ส่วนวิศวกรรมประมง สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการประมง กรมประมง
ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย
เทพีคู่หาบเงิน
นางสาวสิริลักษณ์ สมสกุล ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ
กองการเงินและบัญชี กรมชลประทาน
ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย
นางสาวเจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์
ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย
พระโคแรกนา 2554 .....
พระโคฟ้า มีความสูง ๑๗๑ เซนติเมตร ความยาวลำตัว ๒๓๐ เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอก ๒๒๕ เซนติเมตร อายุ ๘ ปี
พระโคใส มีความสูง ๑๗๓ เซนติเมตร ความยาวลำตัว ๒๔๐ เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอก ๒๑๕ เซนติเมตร อายุ ๘ ปี
พระโคแรกนาประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นพระโคพันธุ์ไทยมีชื่อประจำพันธุ์ว่า "พันธุ์ขาวลำพูน” ซึ่งเป็นโคที่นิยมเลี้ยงกันในหมู่เกษตรกรภาคเหนือ มีผิวสีขาวอมชมพู ขนสีขาวสะอาด ทั้งลำตัวไม่มีจุดด่างดำ หรือสีอื่นบนลำตัว เขามีสีขาว ลำเขาเป็นลำเทียน เขาทั้งสองข้างมีลักษณะโค้งสวยงาม ดวงตาแจ่มใสสีน้ำตาลอ่อน ขนตาสีชมพู บริเวณจมูกขาว กีบสีขาว ขนหางเป็นพวงสีขาวยาว ลำตัวช่วงขาหลังและกีบมีความสมบูรณ์แข็งแรง เวลายืนและเดินสง่า
การเสี่ยงทายของกิน ๗ สิ่ง
ของกิน ๗ สิ่งที่ตั้งเลี้ยงพระโคนั้นมี ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเขียว งา เหล้า น้ำ และหญ้า ถ้าพระโคกินสิ่งใดก็จะมีคำทำนายไปตามนั้นคือ
ถ้าพระโคกินข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
ถ้าพระโคกินถั่วหรืองา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
ถ้าพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควรธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
ถ้าพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับ ต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
พันธ์ข้าว
บัญชีรายชื่อพันธุ์ข้าวและน้ำหนัก ฤดูนาปี ๒๕๕๓ โครงการนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ที่นำเข้าในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี ๒๕๕๔
ข้าวนาสวน
พันธุ์ข้าว / น้ำหนัก (กิโลกรัม)
๑. สุพรรณบุรี ๑ น้ำหนัก ๒๒๙(กิโลกรัม)
๒. ปทุมธานี ๘๐ ( กข๓๑ ) น้ำหนัก ๒๕๐ (กิโลกรัม)
๓. ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ น้ำหนัก ๓๐๒ (กิโลกรัม)
๔. กข ๔๕( หอมปราจีนบุรี ) ๗๖ (กิโลกรัม)
๕. พิษณุโลก ๒ น้ำหนัก ๑๕๐ (กิโลกรัม)
๖. กข ๖ น้ำหนัก ๒๓๙ (กิโลกรัม)
๗. ปทุมธานี ๑ น้ำหนัก ๓๗๖(กิโลกรัม)
ข้าวไร่
๑. ซิวแม่จัน น้ำหนัก๔๖(กิโลกรัม)
๒. ดอกพะยอม น้ำหนัก๘๓
๓. ลืมผัว(ข้าวเหนียว) น้ำหนัก ๔๘(กิโลกรัม)
รวม ๑,๗๙๙
ขอบคุณ
ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา กรมการข้าว
moac.go.th
....................................................
Bookmarks