ณ วันนี้ครวญหาใจ..
การได้พบกันของคนสองคนไม่ใช่”ความบังเอิญ” หากเป็นเรื่องของ”โชคชะตา”
เราไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเราจะต้องผูกพันกับใครบางคนเสียนักหนา
ทั้งที่ใครคนนั้นดูเหมือนจะผ่านเข้าในชีวิตเรา…เพียงเพื่อจะจากไปเท่านั้น
เราไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเราต้องรักเขา…ทุ่มเทให้เขามากมายอย่างนี้ ในเมื่อรักแล้ว….
ก็ต้องมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดอย่างที่เป็นอยู่โดยไม่มีทางหลุดพ้น
เพราะโชคชะตาเท่านั้นเองล่ะหรือ คนเราจึงต้องมาพบกัน เกื้อกูลกัน ทำร้ายกัน
เพราะพรหมลิขิตกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าเท่านั้นเองใช่ไหม
เราจึงไม่อาจหลบพ้นจากใครบางคนที่มีความหมายต่อเรา
แม้จะจะมีเวลาอยู่ด้วยกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะพลัดพรากจากกันไป
บางครั้งพรหมลิขิตก็ละเอียดอ่อนเสียเหลือล้ำ สายใยแห่งชีวิตโยงใยให้คนสองคนได้กลับมาพบกัน
ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางเดียวกัน แต่กลับไม่เปิดทางสว่างให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างมีความสุขง่ายๆ
หากใครคนหนึ่งสัมผัสได้ถึงความผูกพันอันลึกซึ้ง…แต่ใครอีกคนหนึ่งกลับปฏิเสธ
การเดินทางข้ามเวลาเพื่อกลับมาพบกันครั้งนี้จะมีประโยชน์อะไร…
นอกจากจะก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานให้กับคนที่ต้องกลายเป็นฝ่ายรอคอย
“…รักคือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก รักเติบโตและผลิบานได้ แม้ในคืนที่หนาวเยือก
กลางสถานภาพที่โหดร้ายที่สุด รักเกิดได้ในทุกหนแห่ง และทุกเวลา …”
เราไม่มีสิทธิ์เลือกรับหรือปฏิเสธใครที่ก้าวผ่านเข้ามาในชีวิต
และเราก็ไม่มีทางที่จะรู้ล่วงหน้าเลยว่าการที่ใครซักคนก้าวเข้ามาในชีวิตเรา
จะมีผลกระทบให้ชีวิตเราทุกข์หรือสุขมากน้อยเพียงใดในอนาคต
สายสัมพันธ์ทางวิญญาณโยงใยให้เราต้องพบ ต้องรู้จักกับใครต่อใครในหลากหลายรูปแบบ
แม้จะมีความสัมพันธ์ต่อกันเพียงระยะเวลาสั้นๆ และอาจไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วตลอดชาตินี้
หากเราและคนๆนั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเวทีชีวิตแห่งพรหมลิขิตไปแล้วอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ในเมื่อทุกๆย่างก้าวที่เราเหยียบเท้าลงไปมันก็ล้วนเต็มไปด้วย สิ่งที่ผู้คนเรียกกันว่า "สัจธรรม"
Bookmarks