- เห็ดเผาะ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เห็ดถอบ เป็นเห็ดที่มีรสเย็น หวาน โดยมากให้เป็นอาหารบำรุงร่างกาย ช่วยความสึกหรอในร่างกายที่ชำรุดไปให้เป็นปกติ และกระจายโลหิต เป็นธาตุโปรตีนที่ดี อาจเป็นเพราะคุณสมบัติเหล่านี้ เห็ดเผาะจึงเป็นเห็ดที่ได้รับความนิยมมากและมีราคาแพง
..................................................................
- เห็ดตับเต่าหรือเห็ดผึ้ง (Boletus colossusHeim) เห็ดตับเต่าขนมปังกระโหลก (Boletus edulis Bull. ex Fr.) เป็นเห็ดที่มีกรดอะมิโนที่สำคัญ 8 ชนิด ได้แก่ isoleucien, leucine, lysine เป็นต้น ช่วยบำรุงสุขภาพ บำบัดอาการปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเส้นเอ็นและกระดูก ป้องกันการชักกระตุก คนจีนใช้เป็นสมุนไพร แก้เคล็ดคัดยอก ปวดกระดูก เห็ดข่า เป็นเห็ดที่มีรสเผ็ดขม สรรพคุณใช้แก้อาการปวดหลัง ปวดหลัง ปวดขา บำรุงเส้นเอ็น กระดูก และป้องกันการชักกระตุก
...................................................................
- เห็ดมันปู ประกอบด้วยวิตามินเอ และกรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายชนิด อาทิเช่น isoleucine, leucine เป็นต้น เห็ดหล่มกระเขียว (Russula virescens Fr.) มีสารที่มีคุณค่าทางอาหาร รวมทั้งธาตุอาหารหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก กำมะถัน วิตามิน B1และอื่น ๆ ใช้ในการบำรุงสายตา บำรุงตับลดไข้ บำรุงร่างกาย และบำรุงเลือดลม
...................................................................
- เห็ดหลินจือ Ganoderma lucidum(W. Curt : Fr.) Karst. เห็ดชนิดนี้มีกรดอมิโน หลายชนิด steroid, triterpene, alkaloids, glucoside, ไขมัน อิออนของเหล็กและโพแทสเซียม น้ำมันหอมระเหย วิตามินบี 2 และวิตามินซี เป็นยาสมุนไพรรักษาโรค มีการเพาะเลี้ยงพัฒนาสกัดเป็นยาสมุนไพรหลายรูปแบบ ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจบางชนิด เม็ดเลือดขาวต่ำ หวัดเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ หืดหอบ เป็นต้น
...................................................................
- เห็ดโคน (Termitomyces fuliginosus Heim) ภาคอีสาน คือ เห็ดปลวกนั่นเอง มีสรรพคุณช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ได้ จึงเป็นที่นิยมกันมาก
...................................................................
- เห็ดข่า Lactarius piperatus (Scop. ex Fr.) S. F. Gray
รับประทานได้มีรสเผ็ดขม สรรพคุณใช้แก้ อาการปวดหลัง ปวดหลัง ปวดขา บำรุง เส้นเอ็น กระดูก และป้องกันการชักกระตุก
...................................................................
- เห็ดกระเป๋า [Cryptoporus volvatus (Pk.) Shear.] น้ำต้มจากเห็ดชนิดนี้มีรสขม มีฤทธิ์ลดอาการอักเสบ ช่วยรักษาโรค หลอดลมอักเสบและหอบหืด
...................................................................
- เห็ดฟานเหลืองทอง (Lactarius hygrophoroidesBerk. et Curt. เห็ดกินได้
...................................................................
- เห็ดหล่มกระเขียว (Russula virescens Fr.) บำรุงสายตา บำรุงตับลดไข้ บำรุงร่างกาย และบำรุงเลือดลม
...................................................................
- เห็ดไข่เหลือง เห็ดระโงกเหลือง [Amanita hemibapha (Berk. et Broome) Sacc. subsp. javanica Corner et Bas]
...................................................................
- เห็ดหน้าม่วง (Russula cyanoxanthaSchaeff.ex Fr.)
...................................................................
- เห็ดพุงหมู Russula foetens (Pers.) Fr.
ช่วยบำบัดอาการปวดหลัง ปวดตามขา แขนขาชา บำรุงเส้นเอ็นและกระดูก และแก้อาการชักกระตุก
...................................................................
เห็ดกระด้าง หรือ เห็ดบด (Lentinus polychrous Leveille) แก้โรคลม แก้พิษงู และแมลงป่อง เห็ดบดมักขึ้นเป็นดอกเดี่ยวหรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ โคนก้านดอกติดกัน 3 - 5 ดอก ตามขอนไม้หรือตอไม้เนื้อแข็ง เช่น ต้นเต็ง ต้นรัง หรือต้นแต้ ฯลฯ ในป่าเบญจพรรณหรือป่าเต็งรังในช่วงไม่ชุ่มชื้นมาก คือระยะปลายฝนจนถึงต้นหนา ในตำรายาพื้นบ้านอีสานบอกว่าเห็ดบดใช้แก้พิษงูและแมลงป่องได้ด้วยนอกจากนี้ งานวิจัยของอเมริกาและจีนระบุว่าเห็ดนี้ยังใช้แก้โรคลม โดยนำไปต้มกับฝอยลม
...................................................................
เห็ดโคนญี่ปุ่น หรือ เห็ดยานางิ (Agrocybe cylindracea) มีรสชาติดีคล้ายเห็ดโคน มีดอกสีน้ำตาล มีคุณสมบัติในการต้านหรือป้องกันมะเร็ง ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเส้นเลือ
...................................................................
เห็ดหอม ชาวจีนยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารตำรับ “ อมตะ ” เพราะมีคุณสมบัติความเป็นยาบำรุงกำลังและบรรเทาอาการไข้หวัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี ปวดกระเพาะอาหาร รวมทั้งอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย มีสารต้านมะเร็ง ลดไขมันในเส้นเลือด ซึ่งเห็ดหอมจะให้โปรตีนได้มากกว่าเห็ดแชมปิญองถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี ซีลีเนียม และธาตุอื่นๆ ที่ร่างกายต้องการ
เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดสามอย่างนี้อยู่ในตระกูลเดียวกัน เจริญเติบโตเป็นคล้ายพัด ซึ่งเห็ดเป๋าฮื้อจะ มีลักษณะเหนียวหนากว่าเห็ดสองชนิดแรก ซึ่งเห็ดเป๋าฮื้อสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือด และโรคกระเพาะอาหาร
...................................................................
เห็ดฟาง เป็นเห็ดยอดนิยมของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้างชื้นๆ โคนมีสีขาว ส่วนหมวกมีสีน้ำตาลอมเทา มีวิตามินซีสูง และมีกรดอะมิโนสำคัญอยู่หลายชนิด เชื่อกันว่าหากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อต่างๆ แต่ก็ไม่ควรรับประทานสดๆ เพราะมีสารยับยั้งการดูดซึมอาหาร ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก และลดอาการผื่นคันต่างๆ
...................................................................
Bookmarks