จุดอ่อนที่สุดของความเชื่อมั่นคือการไม่กล้าตัดสินใจอะไรไม่กล้าที่จะเลิกรัก
แต่กล้าที่จะทนเพื่อความเจ็บปวด หากวันนี้เรากำลังทนอยู่กับความรักลองกล้าที่จะหักอกตัวเอง
บอกลาความรักที่เต็มไปด้วย บอกลาความรักที่เต็มไปด้วยปัญหาเลือกที่จะมีความสุขกับการอยู่คนเดียว
หรือกลับมา ออกแบบความรักครั้งใหม่ จากที่เราเคยมีใครสักคนที่เราสามารถเรียกได้เต็มปากว่าคนรัก
....
มีความทรงจำที่ดีกับคนรักของเราแม้ตอนนี้ความทรงจำที่ดีมันจะเหลือน้อยเต็มที
แต่บางคนก็ยังอยากจะรักษา สภาพของคำว่า คนรัก อยู่ต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ขอหนีไปไหน
จะเจ็บยังไงก็ทนขอแค่ได้อยู่เป็นคนรักต่อไปเรื่อยๆตัวเองมีความสำคัญเหลืออยู่แค่
มีความทรงจำที่ดีกับคนรักของเราแม้ตอนนี้ความทรงจำที่ดีมันจะเหลือเจ็บยังไงก็อดทนๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถฉุดรั้งเขาไว้ได้
นั่นอาจเป็นเพราะจริงๆแล้ว เรากลัวมากกว่า กลัวว่าจะต้องคอยตอบคำถามคนนี้คนโน้นคนนี้ว่าแฟนไปไหน
ทุกคนต่างเกิดมาด้วยตัวคนเดียวทั้งนั้น ต่างคนต่างมา โตขึ้นค่อยมารู้จักกัน ก่อนหน้าที่จะมีเขาเราอาจเคยมีคนอื่นมาก่อน-หรืออาจไม่มีแต่ทั้งสองก็เหมือนกันคือเขาก็ไม่มีในชีวิตแล้วค่อยมาคบ มารู้จักแล้วก็เอาตัวไปผูกไว้ตั้งแต่นั้นก็เลยทำให้เข้าใจผิดว่าถ้าไม่มีเขาเราอยู่ไม่ได้ ลืมนึกไปว่านานแสนนานมาแล้ว ไม่มีเขาเราก็อยู่จนโต จนมารู้จักเขานี่แหละ นั่นไงอยู่ไม่ได้ตรงใหน ลองเอาความทุกข์กับการที่มีเขาแต่ไม่มีความสุขเลย มาเปรียบเทียบกันดูว่า หากไม่มีเขาเราจะมีความสุขมากไหม แต่หลายคนเอามาเปรียบเทียบกันแล้วบอกว่าถ้าเลิกกับเขาไปคงมีความสุขแต่สุดท้ายก็เลือกเขาเพราะว่าเลิกไม่ได้
นั่นแหละคือความหวาดกลัวการอยู่คนเดียวแต่จะต้องกลัวไปทำไมเพราะจริงๆแล้วมนุษย์ทุกคนเป็น!
ที่หอบหิ้วเอาความเหงาความโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เกิด นามมาแล้วที่เราเหมือนอยู่ในโลกคับแคบที่มีเพียงความทุกข์
ความเศ้ราดวงตาของเราไม่เคยมองเห็นภาพอะไรเลยนอกจากห้องแคบๆที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่เก่าเก็บ กับวันคืนที่มีเพียงความทุกข์ทนและเผลอ
ให้หัวใจล่องลอยวนเวียนอยู่กับเพียงความเจ็บช้ำซ้ำซาก
ปล่อยให้หัวใจตัวเองหล่นคว้างไปตามทางที่เขาอาจจะ
เดินผ่านเผื่อเขาจะได้รับรู้ว่าเราต้องเป็นทุกข์สักแค่ไหนทั้งๆที่เขาไม่เคยผ่านมา
และก็มีเพียงความทุกข์ทน วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาแต่เรื่องของคนเพียงคนเดียว และ
ดวงใจก็ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกอื่นใดนอกจากความเจ็บปวด ที่ตรึง
อยู่ในใจมาจนชินชา ไม่มีดวงตาที่จะมองเห็นความงามใดๆ ในโลก
ไม่มีดวงใจที่จะรับความรู้สึกดีๆจากที่ใดได้อีก ถึงวันนี้จงบอกใจตัวเองซะว่าเจ็บแค่
ไหนจงเจ็บให้พอ ลองคิดดูนะว่าตอนเรายังเป็นเด็กเล่นซุกซนจนได้รับบาดแผลตามร่างกาย มันอาจทำให้เราเจ็บปวดร้องไห้หรืออาจมีเลือดไหล แต่
ไม่กี่วันบาดแผลก็หายดีเพราะร่างกายมันรักษาตัวเองตามธรรมชาติ บาดแผลในใจก็เช่นเดียวกันวันเวลาจะเป็นยาขนาดดีที่จะดูดซับความขมขื่นที่อยู่
ภายในใจของเราให้ค่อยๆจางหายไป เชื่อซิว่าในนาทีที่เราหวังจะเอื้อมมือขึ้นปาดน้ำตาที่เคย
ไหลเอิ่ออยู่บนใบหน้ามันกลับแห้งโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว และ
ถึงแม้บาดแผลเหล่านั้นมันอาจจะบาดลึกซะจนร่างกายไม่สามาถรักษาได้หมดอาจจะต้องแผลเป็น ก็เพื่อที่จะทำให้เราได้นึกถึงเรื่องราวของมัน แต่ก็
ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอีกต่อไป
ถึงแม้นว่าความสัมพันธ์ ระหว่างคนสองคน สุดท้ายแล้วจะต้องกลายเป็นแค่ทางผ่านของกันและกัน
แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าในตัวเองแต่ละคนลดน้อยลงไป ไม่ได้แปลว่าใครดีกว่าหรือ
ใครกันที่แย่กว่า
แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น คือ ความจริงที่ทั้งสอง
ฝ่ายจะต้องยอมรับ เพื่อที่จะก้าวผ่านและเดินต่อไปข้าง หน้าให้ได้เท่านั้นเอง
.............เรียบเรียงเนื้อเรื่องโดย ร้อยตรีภาสกร(ก้อฟ) บันทึกรักโดยสาวหนองหาน.........
Bookmarks