นทีมองบ้านใต้ร่มเงาครึ้มหลังนั้น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะบางทีเขาก็ว่าเขาทำถูกหรือผิดที่มายืนอยู่ที่นี่เวลานี้ ตอนนี้หวานละไมคงไปทำงานแล้ว
เสียงแคนหวานแกมเศร้าลอยตามสายลมมา เสียงผู้หญิงสี่ห้าคนพูดกันดังขรม เอาน่าคงไม่มีอะไรหรอก เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านภาพหญิงวัยกลางคนกำลังย้อมผ้าโดยมีบิดาของหญิงสาวกำลังเป่าแคน ทำนองเศร้าสร้อย เขาอดไม่ได้ที่บันทึกภาพเหล่านั้นไว้ ร่างของชราคนหนึ่งในห้วงควาทรงจำกลับเข้ามาเหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคออยู่ดีเขาก็นึกอยากร้องไห้
มาหยังหล่า ใครคนหนึ่งในจำนวนนั้น เอ่ยทัก มือของเธอยังไม่ละจากการย้อมสีผ้าในกะละมัง เสียงแคนหยุดชั่วขณะสายตาคูู่นั้นจ้องมองมาที่เขา
ครับ ผมเอ่อ อยู่ๆดีเขาก็รู้สึกพูดไม่ออกวงศ์์อินเดินออกมาที่ข้างนอกตัวเรือน ได้มองแคนในมืือผูู้สููงวัยกว่า
ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณอาครับ คุณอายุ่งมั้ยครับ ชายหนุ่มพููดหัวใจเต้นระรัวเมื่อวาน หลอดบอกเขาว่า พ่อของหวานละไมเป็นอดีตอาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป์ ซึ่งคนในหนองส่องแมวให้ความยำเกรงพอๆกับกำนันสมานพ่อของจ้อน และวงศ์อินก็เป็นคนดุมากเขาไม่ชอบให้ใครมาเกาะแกะกับุตรสาว แม้จะรู้ดีว่าจ้อนหมายปองในตัวบุตรสาว แต่วงศ์อินก็ไม่ได้ยินดีในตัวจ้อนเพราะชอบทำตัวเป็นอันธพาลไปวันๆ ที่ที่จ้อนไม่กล้าไปก็คือที่ๆมีวงศ์อินอยู่
ในศาลาริมคลองขุดในตัวบ้านดูร่มรื่นแต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกหนาวเข้าไปในกระดูก เพราะสายตาคนที่อยู่ตรงหน้ามองมาที่เขาราวกับอ่านใจออก
มีอะไร หรือพ่อหนุ่ม
เรียนเป่าแคนยากมั้ยครับคุณอา
ยาก แต่ถ้าจะเรียนก็เรียนได้ ทำไมอยากเรียนเหรอ อาว่าคุณเรียนเป่าแซกโซโฟนจะดูเท่กว่านะ
ผมอยากเป่าให้ได้สักเพลง ถ้าผมเป่าได้ ผมจะได้เป่าให้แม่ฟังบ้าง เสียงแคนเป็นเสียงที่แม่ผมอยากฟัง
นทีคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งร้องไห้กอดรูปตาไว้อกเขาในตอนนั้นทำได้ดีทีสุดคือการปลอบแม่ว่า ไม่เป็นไรฮะแม่ หรือแม้แต่บางครั้งการตื่นขึ้นมากลางดึกภาพแม่ลูบคลำแคนที่ไร้เสียง เกืือบทำให้ใจเขาร้องไห้ตาม ครั้นเขาถาม แม่บอกสั้นๆว่า แม่คิดถึงตา คิดถึงบ้าน คิดถึงเสียงแคน คิดถึงแม่น้ำสายที่แม่จากมา ชื่อลูกๆแม่มีความหมายเดียวกันหมดนั่นก็คือน้ำ แม่หวังจะให้มันเป็นน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงหัวใจแม่นั่นเอง
สอนผมเป่าแคนสักเพลงได้ไหมครับ ถ้าวันหนึ่งแม่ผมเกิดอยากฟังผมจะได้เป่าให้เธอฟังได้ นทีพูดพลางจ้องมองผู้สูงวัยกว่า อีกฝ่ายมองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน
ดูคุณรักแม่คุณมากนะ เป็นลูกครึ่งที่หัวใจเต็มไทย อดปลื้มใจแทนไม่ได้ ก็็ได้ แต่ต้องมาเรียนทุกวันนะห้ามหยุด อยู่เมืองไทยนานมั้ยกว่าจะกลับ
ประมานเกือบสองเดือนได้ครับ ผมจะตั้งใจเรียน ชายหนุ่มยิ้มหมดไปอีกเรื่องแล้วเขาคิด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเเรื่องนี้แหละที่ชี้ชะตาหัวใจของเขามันเสี่ยงมากถ้าพ่อของหล่อนไม่พอใจเขา แต่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่
มีอีกเรื่องที่ผมอยากจะขออนุญาติคุณอาครับ
ว่ามา มีอะไรล่ะ
พรุ่งนี้ ผมจะไปทำงานที่เขื่อนจุฬาภรณ์ ผมอยากให้คุณไมไปด้วย ผมก็เลยมาขออนุญาติคุณอาครับ
มึึงกล้าหลายบักหัวแดง วงศ์อินคิดในใจเขามองชายหนุ่มไม่วางตา แม้แต่จ้อนก็ยังไม่กล้าที่จะมาเหยียบประตูบ้าน ไอ้ที่จะนั่งคุยกันแบบนี้ก็ไม่มีเลย
เพราะอะไร ล่ะคุณไปกับบักหลอดก็ได้นี่ ทำไมอาต้องให้ลูกสาวไปกับคุณด้วย
เพราะผมอยากให้เธอไปกับผมครับ นทีพููดมันเสี่ยงมากแต่ก็ดีกว่าไม่พูดอะไรไป
แล้วไมเขาอยากไปมั้ย คุณไม่ไปถามเขาล่ะ มาขออนุญาติอาทำไม
เพราะผมรักลูกสาวคุณอาจริงๆนะสิครับ และที่ผมมาก็เพราะว่ามันคงดีกว่าถ้าคุณอาจะรู้ เพราะคุณอาเป็นพ่อของผู้หญิงที่ผมรัก เุรื่องที่เธอจะรักผมไหมมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเธอไม่ได้รักผม ผมก็จะเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่เวลาที่มีอยู่ผมอยากให้เธอรู้ว่าเธอมีค่ากับหัวใจของผม
เสียงหัวเราะออกมาจากลำคอผู้สูงวัยกว่า คิ้วหนาเข้มเลิกขึ้นสูง ดวงตาฉายแววน่ากลัว นทีนั่งนิ่งไม่ใช่เขากินดีหมีหัวใจเสือแต่เพราะเขากลัวจนก้าวขาไม่ออกต่างหาก
ให้โอกาสผมด้วยเถิดครับ ถ้าเธอไม่รักผม ผมก็จะไปโดยที่ไม่มีห่วง แต่ถ้าหากเธอรักผม ผมก็จะได้ทำให้ลูกสาวคุณอาได้มีความสุขเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้คนรักของเขามีความสุขได้
คุนเป็นคนแรกนะที่พูดแบบนี้กับอา ก็ได้ เมื่อคุณมาขอแบบลูกผู้ชาย อาก็จะให้โอกาส
แสดงว่าคุณอา อนุญาติให้คุณไมไปกับผมเหรอครับ สีหน้าของนทีเปลี่ยนไปดวงตาบ่งบอกประกายความสุขออกมาชัดนักเขาอยากเข้ากอดวงศ์อินเหลือเกิน
แต่ว่าอาและครอบครัวลุงสีต้องไปด้วย สีหน้านั้นชะงักเล็กน้อย ไม่เป็นไรมันแค่ขั้นแรกในหัวใจเขาตอนนี้เหมือนมีใครมาตีกลองหรือเต้นระบำออกศึกเพราะความดีใจนั่นเอง
...........................
เย็นวันนั้นหลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จแล้วหวานละไม ได้รับคำตอบจากปากบิดาว่าพรุ่่งนี้จะพาแม่ เเละเธอไปเที่ยวที่เขื่่อนจุุฬาภรณ์ทั้งนี้จะมีครอบครัวลุงสีีไปด้วย แน่นอน นทีเป็นหนึ่งในนั้น หญิงสาวนั่งอยูู่ที่ศาลาริมน้ำ ฟังเพลงจากวิทยุเครื่องเล็ก เธอถือปิ่่นที่นทีให้ในมือ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมักจะฉายแววตาเเห่งรักออกมาเสียทุกครั้ง แต่หวานละไมเองก็ได้แต่บอกตััวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นทีเป็็นนักเดินทางถ้าหากเขาเดินทางต่อบางทีเธออาจจะเป็นเพียงเศษเสี้้ยวหนึ่งของบันทึกของเขาก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นหัวใจเธอล่ะ มันจะเป็นยังไง และเธอก็็ไม่คิิดว่่าเขาจะกล้้า แม้แต่จ้อนนักเลงประจำถิ่นที่เฝ้่าหมายปองในตัวเธอ ก็ยังไม่กล้าที่จะเขาใกล้รัศมีที่บิดาเธออยู่ แต่นทีกลับเข้ามาแม้จะรู้ว่าบิดาเธอดุุขนาดไหนแต่เขาก็็ยังมา
เสีียงขิมของแแม่แววหวานไปกับแแคนของพ่่อมัันทำให้ใจของเธอนั่นลอยไปหาใครบางคน แม่กับพ่่อก็ต่างกันแต่เพราะรักให้คนได้้มารักแและอยู่ด้วยกัน พ่อเป็นลูกอีสานขนานแท้ส่วนแม่เป็นสาวชาวกรุง ดููๆแแล้วท่านทั้งสองไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยแต่คงมีหัวใจเท่านั้นมั้งที่ตรงกันเธอเผลอท่องกลอนออกมาเบาๆคลอเสียงดนตรีที่พ่อกับแม่เล่น
O งามปีกผีเสื้อลาย..บินว่าย..วน
ฤๅ- ต่างหัวใจคน..เฝ้าค้นหา-
ความอ่อนหวานอ่อนไหว..แวว-นัยน์ตา
เพื่อยกยอคุณค่าสู่อารมณ์
O พลิ้วปีกบางโบกบินล้อมกลิ่นมาลย์
เสพรสหวานเรณู..เข้าสู่สม
วูบไหวพลิ้วแผ่วมา..แววตาคม-
ราวรอล่มความคิดอีกจิตใจ
O กี่รสหวานกลิ่นหอมแวดล้อมที่-
ฤๅ- เท่าหอมหวานนี้..เขามีให้
ปีกผีเสื้อบอบบางที่กลางไพร-
ฤๅ-อาจโบกปีกไหว..เท่าใจคน
เสียงแคนหยุุดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ หวานละไมเองก็แทบไม่รู้ตัวเพราะกำลังอยู่ในห้วงความคิดอยู่จนกระทั่่งเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
มานั่่งตากยุงเฮ็ดหยังลูก ไปไปนอนได้แล้ว ค่ำแล้วยุงมันหลาย วงศ์อินเอาผ้้าขาวม้าพัดไล่ยุงไปมา
มันฮ้อนไมนอนบ่หลับเลย
บ่ทันฮอดยามคือฮ้อนไวแท้ เป็นอีหยัังลูก หือ...ผู้เป็นพ่อถามหวานละไมช้อนตามองพ่อ
เธอปิดความหมายในดวงตานั้นไม่มิดกับบิดา วงศ์อินเลือกที่จะไม่บอกเรื่องทั้งหมดที่คุยกับนที การที่เลือกมือซักคู่เพื่อวางหัวใจทั้งดวงของเขามันเป็นเรื่องยากสำหรับ ''พ่อคนหนึ่ง'' สิ่งที่เขาชอบในตัวนทีก็็คือ ความกล้าที่จะรัก มันทำให้บุตรสาวที่อยู่ตรงหน้าเขามีค่ามากมายพอที่ใครคนหนึ่งจะรักได้ รอยยิ้มจุดอยู่ที่มุมปาก
บ่อยากไปเที่ยวล่ะม้างนี่ มานั่งขัดปานเด็กน้อย
บ่แม่น ไมกำลังคิิดบาดอ้ายจ้อนขี่รถผ่านหน้าบ้านพ่อกะเคียดให้เลา แต่กับ....หญิงสาวหยุดอยู่เพียงครู่มือข้างหนึ่งลูบที่เส้นผมยาวเพียงแต่เบามือเหมือนครั้งที่เธอเป็นเด็กเล็กๆ
ไม มื้อหนึ่งพ่อสิบอกลูกดอก เอ...สิบ่ไปแม่นบ่นี่ืหือ....
จ้าไปๆ ไมไปดอกอีพ่อนี่แมะ หวานละไมยิ้มก่อนเดินไปในบ้านดวงหน้าแดงก่ำเพราะความเขินอาย
เธอสวนกับมารดาเพียงครู่ มณีมัยทำหน้้างงๆก่อนที่จะเอ่ยกับบสามีที่เพิ่งเดินตามหลังมา
วงศ์คะ ลูกเป็นอะไรไม่สบายรึปล่าวหน้าแดงเชียว
อ๋อ..ลูกเป็นโรครักษาไม่หายต้องใช้ยาใจรักษาแทนน่ะมณี วงศ์พูดพลางยิ้มก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป
เป็็นอะไรอีกล่ะนี่สองคนพ่อลูก เฮ้อ ผู้เป็นแม่ถอนหายใจเบาๆ
ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=SJExZvakGKM
Bookmarks