หมอเตือนใช้มือถือนาน 10 ปีเสี่ยงคลื่นกระตุ้นมะเร็งสมอง


แพทย์เผยคลื่นมือถือกระตุ้นมะเร็งสมอง พกในกระเป๋ากางเกงเสี่ยงเป็นหมัน หากใช้นาน 10 ปี เสี่ยงสูงกว่าปกติ 3.2 เท่า

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ข้อมูลทางวิชาการพบว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สร้างความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งในสมองได้ โดยเฉพาะในผู้ที่โทร.สะสมมากกว่า 2,000 ชั่วโมง หรือใช้มานานกว่า 10 ปี จะมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติถึง 3.2 เท่า อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีข้อสรุปถึงกลไกการเกิดโรคมะเร็งว่าเป็นเพราะสาเหตุใด แต่จำเป็นต้องเตือนผู้บริโภคเพื่อความปลอดภัย

นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า การถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมอง โดยในสมองเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า และไขกระดูกกะโหลกศีรษะจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 10 เท่า นอกจากนี้ยังพบว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของอสุจิ ดังนั้นผู้ชายที่พกโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมีโอกาสเป็นหมันได้

สำหรับพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นนาฬิกาปลุกและวางใกล้ศีรษะ แม้จะไม่มีผู้โทร.เข้าแต่เครื่องโทรศัพท์จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กระดับอ่อนออกมาตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังพบว่าคลื่นจะส่งสัญญาณแรงขณะที่ผู้ใช้อยู่ในมุมอับ เช่น ลิฟต์ หรือในพื้นที่ปิด จึงเสนอให้หลีกเลี่ยงแวดล้อมดังกล่าว พร้อมกันนี้มีข้อมูลยืนยันว่าการแชตผ่านแป้นพิมพ์หรือปุ่มกดจะปลอดภัยต่อสมองมากกว่าการโทร. และการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะไม่เป็นอันตรายใดๆ หากอยู่ห่างจากหูและสมอง

นพ.ประวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า โทรศัพท์บางยี่ห้อเขียนคำเตือนไว้ในคู่มือว่าควรใช้ให้ห่างจากหูประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร แต่ข้อเท็จจริงคือผู้บริโภคไม่ได้ปฏิบัติตาม และเจตนาของผู้ผลิตเป็นไปเพื่อให้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบทางกฎหมายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้เลิกใช้โทรศัพท์ แต่อยากให้ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

"ผลการทดลองพบว่า โทรศัพท์ 15 นาทีจะเกิดความร้อนที่ใบหน้า 50 นาที กลูโคสในสมองมีความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าโทร.นานเท่าใดจึงจะปลอดภัย เนื่องจากลักษณะความเสี่ยงมะเร็งในสมองเป็นการสะสมคลื่นเรื่อยๆ" นพ.ประวิทย์ กล่าว


หมอเตือนใช้มือถือนาน 10 ปีเสี่ยงคลื่นกระตุ้นมะเร็งสมอง

news center/thaipost/AFP
ภาพประกอบจากกู้เกิล