เคล็ดอาหารอร่อย...สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ตามปกติ มนุษย์เราจะรับประทานอาหาร 3 มื้อ คือ มื้อเช้า มื้อกลางวัน
และมื้อเย็น และตามหลักที่ถูกต้องคือหลังเที่ยงคืน ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารแต่ด้วยภาวะโภชนาการของคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนเมืองที่มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน ได้มากขึ้นจากรูปแบบ การใช้ชีวิตที่เลียนแบบตะวันตก ตั้งแต่การรับประทานอาหาร แบบฟาสต์ฟูด ต่างๆ ที่อุดมไปด้วยแป้ง ไขมัน โปรตีน และนำตาล ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงและน้ำหนักตัวมากนั้น ดูจะเป็นการเร่งให้กระบวนการทำงานของตับอ่อนและอินซูลินเสื่อมสภาพเร็วขึ้นจากการใช้งานหนักจนเกินไป
และส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานตามมาในที่สุด
ถ้าเป็นคนปกติ น้ำตาลที่เราได้รับในแต่ละมื้ออาหารก็จะถูกนำไปใช้หมด ซึ่งเมื่อไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก็พบว่าจะอยู่ในระดับหรือปริมาณไม่เกิน 126 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือหมายความว่าไม่เป็นเบาหวาน แต่คนที่ป่วยเป็นเบาหวาน ระบบการนำน้ำตาลไปใช้จะมีปัญหา คือน้ำตาลที่ได้รับในแต่ละมื้ออาหารจะมีตกค้างอยู่ในกระแสเลือด เมื่อไปตรวจระดับน้ำตาลในตอนเช้า ก็จะพบว่าเกินมาตรฐานที่ควรจะเป็น
ดังนั้น การรักษาเบาหวานให้ได้ผลคือ จะต้องทำให้อาหารทุกมื้อมีน้ำตาลไม่สูงเกินไป ซึ่งมีเทคนิคและกรรมวิธีที่จะควบคุมได้ และไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานจะห้ามรับประทานน้ำตาลเด็ดขาด รับประทานได้ แต่ต้องเป็นน้ำตาลที่ได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ไม่ใช่น้ำตาลเชิงเดี่ยวที่แปรรูปออกมา ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลอะไรก็แล้วแต่ เพราะน้ำตาลเชิงเดี่ยวนั้นเป็นน้ำตาลที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายและรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า การควบคุมระดับน้ำตาลให้ได้ผลนั้นจะต้องพิจารณาทั้งปริมาณและชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานเข้าไป เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าไกลซีมิกซ์อินเดกซ์ต่างกันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นไม่เท่ากัน เช่น ข้าวเหนียวทำให้ระดับน้ำตาลสนเลือดสูงกว่าข้าวต้มและข้าวสวยตามลำดับ หรือแม้แต่ผลไม้บางอย่างที่ให้รสหวาน เช่น ลิ้นจี่ มะม่วงสุก ก็อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าน้ำตาลทรายได้
ถ้าไม่อยากเป็นเบาหวาน สิ่งหนึ่งที่พวกเราพอจะทำได้เพื่อตัวเราเองก็คือ การลดปริมาณการรับประทานน้ำตาล โดยเฉพาะขนมที่หวานจัดๆ ประเภททองหยิบ ทองหยอด ถ้าจำเป็นก็ให้หันกลับมารับประทานจำพวกข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ถั่ว เพราะอาหารจำพวกนี้ต้องอาศัยกระบวนการย่อยและดูดซึมที่นานกว่า ทำให้ระดับน้ำตาลเฉลี่ยในเลือดไม่แกว่งขึ้นสูงทันทีหลังจากที่รับประทานเข้าไป เมื่อค่าเฉลี่ยโดยรวมของน้ำตาลในเลือดไม่สูง ก็ย่อมมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานน้อยกว่า
ที่สำคัญ การรับประทานผักใบเขียวให้มาก และรับประทานผลไม้ในจำนวนที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ช่วยในเรื่องนี้ได้
นอกจากนี้ อาหารไทยก็เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีการกระจายตัวของสารอาหารหลักที่เหมาะสมและครบถ้วน ขณะเดียวกัน พลังงานที่มีอยู่ในอาหารก็ไม่สูงเกินไป ซึ่งจัดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งคนปกติและคนที่เป็นเบาหวาน
ที่มา : Manager.co.th
ขอบคุณพื้นที่บอร์ดบ้านมหาดอดคอม
Bookmarks