ตอนนี้บ่มีจ้า เมือบ้านปีหน้าสิหาแจ่มๆๆมาสู่เบิ่งดอก อิอิอิ (ผักหรือผุสาวน้อคือแจ่ม)กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ♥♥-สาวธาตุเชิงชุม-♥♥
ตอนนี้บ่มีจ้า เมือบ้านปีหน้าสิหาแจ่มๆๆมาสู่เบิ่งดอก อิอิอิ (ผักหรือผุสาวน้อคือแจ่ม)กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ♥♥-สาวธาตุเชิงชุม-♥♥
ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเด้อจ้า :) (คั่นเป็นผัก ถ่าเป็นผุ้สาวงามกว่าข่อยกะบ่ไหว )
เอารูปมาให่เบิง
[*] สื่อบันเทิงที่นำมาให้รับชม รับฟังเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น หากท่านชื่นชอบ สื่อใด โปรดซื้อสินค้าลิขสิทธิ์
[*] เกี่ยวกับลิขสิทธิ์
[*] ทำเนียบกองทุนเว็บไซต์ บ้านมหา
ปาดหนามคือหลายแท้ สิกินได้บ่ละบ่าวพรรณา ขอบคุณเด้อสำหรับภาพที่นำมาฝาก 8)
ข่อยไปถ่ายมา บู๋ป่าหนามมันแขนขาลายเหมิดหนามมันเกาะกระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ♥♥-สาวธาตุเชิงชุม-♥♥
[*] สื่อบันเทิงที่นำมาให้รับชม รับฟังเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น หากท่านชื่นชอบ สื่อใด โปรดซื้อสินค้าลิขสิทธิ์
[*] เกี่ยวกับลิขสิทธิ์
[*] ทำเนียบกองทุนเว็บไซต์ บ้านมหา
กินกับแกงหน่อไม้คักขนาดเลยขอบอก.....
ผักกาดหย่าต้องกินกับลาบปลา แล้วกะซุปหน่อไม้ครับ เข้ากันดีอิหลีเด้อ
+v,kdbodyåÆ6xsojvw,h0yddecsoj
อ๊ากกกก......เป็นภาษาผีบ้าเฉยเลย เซ็งแป้นพิมพ์อะ
มีซุปหน่อไม้แล้วพ่อน้องพลอย ขอจักกำแหน่ผักกาดหย่าหั่น บ่เอาหนามนำเด้อ ซังมันปักปาก อิอิ
คนที่กล้าจะพ่ายแพ้เท่านั้น...ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
บ้านข่อยกะหลาย แต่ว่าข่อยบ่มัก เพราะมันส้มจักใดกะบ่ฮู้
ชื่อ "ผักปู่ย่า" วงศ์ "LEGUMINOSAE"
ชื่อวิทยาศาสตร์ "Caesalpinia mimosoides Lamk."
ชื่อพื้นเมือง"ผักปู่ย่า หนามปู่ย่า(เหนือ) ช่าเลือด(กลาง)
ทะเน้าซอง(เหนือ) ผักกาดย่า(ปราจีนบุรี) ผักขะยา(นครพนม) ผักคายา(เลย) ผักกาดย่า(อุดรธานี-อีสาน)"
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผักปู่ย่าเป็นชื่อพื้นเมืองทางเหนือจากการศึกษาพบว่าผักชนิดนี้ชาวเหนือและชาวอีสานรับประทานเป็นผัก ชาวบ้านนิยมรับประทาน และมีจำหน่ายในตลาดสดชาวเหนือมีตำนานเล่าเรื่องสั้นต่อกันมาว่ามีสองเฒ่าสามี
และภรรยาเดินไปทำนาระหว่างทางทั้งสองได้พักรับประทานหลังจากรับประทานผักนี้เข้าไปรู้สึกว่ามีแรงมีพละ
กำลังเพื่มขึ้นจึงทำให้เรื่องนี้เล่าลือกันต่อมาทำให้คนรุ่นหลังรู้จักและเก็บผักนี้มารับประทานต่อกันเรื่อยมาและ
ชาวบ้านจึงเรียกผักนี้เพื่อการระลึกถึงผู้ที่เริ่มรับประทานก่อนว่า"ผักปู่ย่า"ส่วนชาวอีสานเรียกผักนี้ว่า"ผักกาด
ย่า" ผักปู่ย่าเป็นไม้เถา ลำต้นตั้งตรงหรือเลื้อยพันต้นไม้อื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ลำต้นมีหนามแหลมมากมาย
ทั้งลำต้นใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเป็นคู่ข้ามกัน ก้านใบยาว 25-40 ซม. ใบย่อยมี 10-30คู่และแตก
ออกไปอีก 10-20 คู่ กว้าง 4 มม. ก้านใบสีแดง มีหนามแหลมตามกิ่งก้านทั่วไป ดกเป็นดอกช่อยาว 20-40 ซม. ดอกสีเหลืองดอกบานในช่วงฟดูหนาวดอกยาว1.2-2 ซม. กว้าง1-1.5-8ซม.ลักษณะเป็นแผ่นแบนและ
ปลายเรียวแหลม ผลเป็นฝักขนาดเท่าหัวแม่มือภายในมีเมล็ด 2 เมล็ด ใบและช่อดอกมีกลิ่นฉุนรุนแรงคล้าย
กลิ่นแมงกะแท้หรือแมงดา ชาวบ้านว่าผักปู่ย่ามีกลิ่นหอมหอมนวลน่ารับประทาน
การปลูก
ผักปู่ย่าพบขึ้นในแหล่างธรรมชาติ บริเวณป่าละเมาะ ป่าเต็งรัง ป่าผสม ผลัดใบและปริเวณชายป่า ทีรกร้าง
ชอบขึ้นรวมกับต้นไม้อื่น ๆ ขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์ทางยา
ไม่มี
ประโยชน์ทางอาหาร
ส่วนที่เป็นผัก/ฤดูกาล ยอดอ่อนใบอ่อนและดอกของผักปู่ย่ารับประทานเป็นผักได้ ยอดอ่อนและใบอ่อนผลิออก
ในช่วงฤดูฝนส่วนดอกพบในฤดูหนาว(เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์)การปรุงอาหารชาวเหนือรับประทานยอด
อ่อนใบอ่อนของผักปู่ย่าเป็นผักสดกับน้ำพริกหรือซอยใส่กับลาบส่วนดอกและยอดอ่อนำไปปรุงเป็น"ส้มตำ"ได้ โดยปรุงร่วมกับมะเขือแจ้ยอดมะม่วงและเครื่อปรุงรสหลายชนิด
รสและประโยชน์ต่อสุขภาพ
รสของยอดอ่อนและดอกมีรสเปรี้ยวฝาดเผ็ดร่วมกัน
Bookmarks