เช้านี้อากาศเย็นสบาย สายหมอก

บาง ๆ ปกคลุมทั่วท้องทุ่งนา นกกาเหว่าส่งเสียงปลุกสมาชิกชาวหอแต่เช้ามืด อีกไม่กี่

วันฉันจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านแล้ว ครึ่งปีแล้วที่ไม่ได้กลับบ้าน เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่

สุดที่เคยจากบ้านมา เวลานี้ที่บ้านแม่คงง่วนอยู่กับการทอเสื่อ ปอกมะขาม ปอกนุ่น

ตามแต่ที่แกจะนึกสรรสร้างงานให้ตัวเองได้ แม่เป็นบุคคลพิเศษหางานให้ตัวเองทำ ให้

คนอื่นทำได้ตลอดเวลา ร่ำ ๆ อยากปลูกครามแล้วทำหม้อย้อมครามเอง ฉันไม่ค่อย

เห็นด้วยกับความคิดนี้สักเท่าไหร่ แต่พอแม่พูดถึงหม้อคราม หรือหม้อนิน ทำให้ฉันอด

คิดถึงยายไม่ได้ ภาพยายตื่นแต่เช้าตรู่มาโจกหม้อนิน กลิ่นครามเคล้ากลิ่นน้ำปูน

เหมือนจะฟุ้งขึ้นมาในความรู้สึกอีกหน ยายมีหม้อดินเผาภายในมีน้ำครามสีเข้ม วางไว้

ใต้ถุนบ้านหลายใบ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉัน

ได้อ่านบทความเกี่ยวกับสรรพคุณของต้นครามว่าสามารถป้องกันรังสี UV ได้ดี ฉันนึก

ถึงเสื้อผ้าฝ้ายย้อมครามตัวเก่งที่ยายเคยเย็บให้ ตั้งแต่เก็บดอกฝ้ายสีขาวสะอาดมาปั่นเป็น

เส้นด้าย ทอเป็นผืนผ้า ตัดเป็นเสื้อแขนยาว แล้วย้อมสีคราม จากหม้อนินใต้ถุน

บ้าน ฉันสวมเสื้อตัวนั้นเลี้ยงควายหลายปี ยิ่งสวม ยิ่งซัก ผ้าฝ้ายยิ่งอ่อนนุ่มใส่

สบาย เห็นทีกลับบ้านคราวนี้ต้องไปรื้อตู้เสื้อผ้าบ้านยายเผื่อจะเจอเสื้อตัวเก่งตัวเก่า แต่

คงใส่อีกไม่ได้แล้ว อนิจจา..