ฝ่ายโหรเมื่อได้เวลาเกิดและยามตกฟากของกุมารผิวถ่านแล้ว ก็ทำทีขีดเขียนกระดานเพื่อคำนวณถึงชะตาราศรี เขาจึงทำนายไปตามที่ได้รับสินบนตามต้องการของหญิงผู้เป็นแม่
“โธ่…กุมารน้อยตัวดำเกิดมาในฤกษ์เป็นกาลกิณีแท้ ๆ จะนำภัยพิบัติมาสู่พ่อแม่ ขืนเลี้ยงไว้มีแต่จะทำให้ทุกข์ยากถึงขนาดพ่อแม่จะอายุสั้นต้องพรากจากกันเลยทีเดียว กุมารน้อยช่างเกิดมามีกรรมน่าสงสารแท้ ๆ” ตอนท้ายโหรแกล้งบีบเสียงให้สมจริงสมจัง
“นี่…โหรคำนวณไม่ผิดพลาดแน่นะ” ผู้เป็นพ่อสงสัย สงสารและเป็นห่วงลูกชายตัวดำ
“รับรองว่าตรวจทานตามวันเวลาเกิดและเวลาตกฟากถูกต้องทุกประการ” โหรยืนยัน
ท้าวก่ำกาดำ ลำเรื่องยอดฮิตแห่งแดนอีสาน ตอนที่ 2
ผู้เป็นพ่อถึงจะรักและสงสารลูกน้อยตัวดำมากมายขนาดไหนก็มิอาจจะเลี้ยงได้แล้ว คำว่า “ภัยพิบัติ” และ “กาลกิณี” หมายถึงสิ่งชั่วร้ายจะต้องเกิดกับครอบครัว ไหนอายุพ่อแม่จะต้องสั้น ลูกอัปมงคลอย่างนี้คงเลี้ยงไว้ไม่ได้แล้ว กุมารน้อยตัวดำปี๋จึงลูกลอยแพทิ้งให้ลอยไปตามสายน้ำ แล้วแต่บุญกรรมนั่นแล้ว…
ร้อนถึงเทวดาทิพยอาสน์เคยอ่อนนุ่มกลับแข็งกระด้าง ท่านจึงสอดส่องลงมายังเบื้องล่างก็เห็นกุมารน้อยถูกลอยแพตามกระแสน้ำจึงบันดาลให้แพลอยไปเกยตื้นใกล้อุทยานของพระราชา
บ่ายวันนั้นคนเฝ้าอุทยานลงมาอาบน้ำที่ท่าน้ำพบแพลอยน้ำใกล้เข้ามา ครั้นมองในแพเห็นกุมารน้อยนอนดินกระแด่วอยู่ก็ดีใจ เพราะเขาเองยังไม่มีลูกทั้งที่อยู่กินกับภรรยามาหลายปี
“โอ้…เจ้านี่เกิดมาตัวดำ ดำเหมือนอีกา พ่อจะตั้งชื่อให้นะ” ชายเฝ้าอุทยานนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ควรจะตั้งชื่ออย่างไรจึงจะสมรูปสมร่าง ในที่สุดก็คิดได้จึงร้องออกมาว่า….
“เออ…ข้าคิดออกแล้ว เข้าเกิดมาตัวดำ ดำเหมือนกา ดำเหมือนถ่าน ชื่อว่า ท้าวก่ำกาดำ ก็แล้วกัน”
ท้าวก่ำกาดำ ลำเรื่องยอดฮิตแห่งแดนอีสาน ตอนที่ 2
โปรดติดตามตอนต่อไป


credit:ขอขอบคุณเรื่องราวต้นเรื่องจาก Blog
นายมานะ ศรีวิคำ โรงเรียนบ้านท่าวัด คุรุราษฎร์บำรุงวิทย์ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
และ www.esanclick.com