ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีครอบครัวหญิงม่ายคนหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ชายป่า หญิงม่ายมีลูกสายสองคน ฐานะความเป็นอยู่ของนางยากจนมาก แต่หญิงม่ายก็อดทนเลี้ยงดูลูกให้ได้รับความสุขเสมอมา
วันหนึ่ง หญิงม่ายเข้าป่าไปเก็บผัก หาหลัวหาฟืน นางก็ถูกงูกัดและตายที่ในป่าแห่งนั้นเองฝ่ายลูกสาวทั้งสองคนรอจนมืดค่ำไม่เห็นแม่กลับมาบ้าน จึงได้ออกติดตามถามหาจนได้ไปพบศพแม่อยู่ในป่า นางทั้งสองคนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจกับการจากไปของแม่ในครั้งนี้ แล้วก็ช่วยกันนำร่างไร้วิญญาณของแม่กลับมาบ้าน จัดงานตามประเพณีตามกำลังความสามารถของตนแล้วนำเอากระดูกของไปฝังไว้
ด้วยความรัก ความห่วงใย และความผูกพันที่มีต่อลูกทั้งสองคน หญิงม่ายก็ได้กลับชาติมาเกิดเป็นหมาสีขาว ซึ่งมีลักษณะพิเศษกว่าหมาทั่วไปคือ สามารถพูดจาสื่อสารได้เหมือนกับคน และสามารถตระหนักระลึกชาติได้ว่าในชาติก่อนนั้นนางเกิดเป็นหญิงม่ายมีลูกสาวสองคน คนทั้งหลายเรียกหมาสีขาวตัวนั้นว่า “นางหมาขาว” ด้วยความคิดถึงลูกนางหมาขาวได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้นางได้พบกับลูกบ้าง ด้วยกุศลจิตและแรงอธิษฐาน จึงทำให้นางหมาขาวรู้ข่าวคราวของลูกสายทั้งสองคน ซึ่งในเวลานี้ลูกสาวคนโนได้แต่งงานกับเศรษฐีอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง ส่วนลูกสาวคนเล็กได้แต่งงานกับหนุ่มชาวนาและอาศัยอยู่ชานเมืองเดียวกันนั่นเอง
นางหมาขาว มุ่งหน้าเดินทางหวังจะไปพบลูกสาวคนโตก่อน เมื่อไปถึงบ้านของลูกนางหมาขาวก็เข้าไปพบลูกสาวแล้วเล่าเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้ลูกสาวคนโตฟัง เมื่อได้ฟังตามความที่เล่ามาทั้งหมดลูกสายคนโตก็เชื่อว่าเรื่องที่เล่ามาเป็นความจริง แต่ก็ไม่กล้ายอมรับว่านางหมาขาวเป็นแม่ของตน ด้วยเกรงว่าสามีเศรษฐีจะไม่ยอมรับและนางก็มีความอายที่จะบอกแก่คนทั่วไปว่านางหมาขาวเป็นแม่ของตน จึงได้ไล่ให้นางหมาขาวรีบหนีไปที่อื่นก่อนที่สามีของนางจะกลับมา แต่นางหมาขาวก็พูดและอ้อนวอนให้ลูกสายเชื่อว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นความจริง ในที่สุดลูกสาวคนโตก็เอาไม้ไล่ทุบตี และเอาน้ำร้อนมาราดตัวนางหมาขาว จนได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส และนางหมาขาวเดินทางจากลูกสาวคนโตไป
นางหมาขาวเดินทางซมซานไปจนถึงบ้านของลูกสาวคนเล็ก เมื่อลูกสายเห็นว่านางหมาขาวได้รับบาดเจ็บมาก ก็รีบหายามารักษาและให้พักรักษาตัวจนอาการของนางหมาขาวทุเลาลง นางหมาขาวจึงได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นให้ลูกสาวคนเล็กฟัง ลูกสาวคนเล็กเสียใจที่พี่สาวก็กระทำกับแม่เช่นนี้ และบอกว่านางจะเป็นผู้เลี้ยงดูนางหมาขาวให้มีความสุข แต่ด้วยความเจ็บปวดที่นางหมาขาวได้รับนั้นทำให้นางต้องสิ้นใจในเวลาต่อมา
ลูกสาวคนเล็กได้นำซากศพของนางหมาขาวไปเผา และนำกระดูกมาบรรจุไว้ในไห เก็บไว้บนหิ้งบูชา เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณของแม่ที่เคยเลี้ยงดูมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อถึงวันพระครั้งใดนางก็จะเอากระดูกนางหมาขาวมาล้างชำระแล้วประพรมด้วยเครื่องหอมทุกครั้งไป วันหนึ่งนางก็ไปเปิดไหที่บรรจุกระดูกของนางหมาขาว จึงได้พบว่าในไหใบนั้นเต็มไปด้วยทองคำ นางจึงได้นำไปแลกเปลี่ยนและใช้จ่ายในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่ตามควรแก่ฐานะ จนในที่สุดลูกสาวคนเล็กก็มีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเป็นเศรษฐีของหมู่บ้านนั้น
ข่าวความร่ำรวยของลูกสาวคนเล็กได้เล่าลือไปจนถึงหูของพี่สาว นางจึงเดินทางมาที่หมู่บ้านชานเมืองทันที และได้พบกับความจริงดังข่าวที่เล่าลือ จึงได้ถามถึงสาเหตุและความเป็นมาทั้งหมด น้องสาวก็เล่าเรื่องราวดังที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟังทั้งหมด นางจึงขอยืมไหใบที่บรรจุกระดูกไปบูชาบ้างน้องสาวก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด เมื่อได้แล้วพี่สาวก็รีบเดินทางกลับบ้านทันที
พอมาถึงบ้าน นางก็รีบนำไหที่บรรจุกระดูกของนางหมาขาวไปตั้งไว้ที่หิ้งบูชาทันที รอให้ถึงวันพระด้วยใจจดใจจ่อ และเมื่อวันพระมาถึงนางก็รีบไปเปิดดูทันที ด้วยหวังว่าจะได้พบทองคำมากมายดังที่น้องสาวได้รับ แต่แล้วนางก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ เพราะว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยงูพิษมากมายหลายชนิด ด้วยความตกใจนางจึงได้วิ่งหนี้อย่างไม่คิดชีวิต จนทำให้พลาดตกบันไดคอหักตายในเวลานั้นเอง
:l-:b-b:l-:b-b:l-:b-b:l-:b-b:l-:b-b
(จากหนังสือวรรณกรรมท้องถิ่น ของ พรทิพย์ ซังธาดา ๒๕๓๙)
Bookmarks