ผู้สาวนั่งเข็นฝ้าย ........ชายกะนั่งเคียงกัน
พรรณนาคำกลอน ......เกี้ยวคำผญาเว้า
สาวกะเอาคำโต้ .........โยเยให้ฮู้ท่า
ส่วนว่าบาบ่าวท้าว .......กะเพียรเว้าว่าฮักหลาย
สาวกะบอกว่าอ้าย ......อย่าสิหล่ายแต่คำตั๋ว
น้องนี่กลัวคำลวง .........อย่าล่วงวาจาดื้อ
คันบ่คือคำเว้า ........... อย่าสิเอามาเว้าว่า
สิมาต้มผู้ข้า ..............ปะเดี๋ยวฟ้าสิผ่าเอา....สาเด๋
บัดนี่ชายกะเว้า ......... เอามือยกสาบาน
ขานเป็นวาจาไข .........ว่าดั่งใจคำเว้า
คันข้าเอาคำต้ม ..........เป็นคารมย์เว้าหล่าย...สาแหล๋ว
ขอให้ฟ้าผ่าอ้าย ............ ให้ตายแท้ขั่นบ่จริง
สาวกะนั่งเงียบนิ่ง .........ครุ่นคิดอยู่ในใจ
แล้วจั่งไขวาจา ..........ตอบบาพี่ชายท้าว
อ้ายสิเอาจริงแท้ ..........บ่มีแปลซั่นบ้อพี่
คันคิดดีแท้แท้ ............ให้ถามแม่เบิ่งก่อนนา
ตกลงกันแล้วน่า .........กะจั่งว่าได้มาขอ
กะจั่งขอยอยก ...........ขันหมากมาเพียงพร้อม
จั่งได้ดอมชมชื่น ..........เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย
นี่จั่งสมครบด้วย ..........บทเบื้องสิแต่งงาน ...นี่แหล่ว
นี่จั่งแม่นแบบบ้าน ..........ของเก่าโบราณเดิม
เติมขึ้นมาทีหลัง ............หากบ่คือแนวนี่
อันแนวดีมันเบิดสิ้น ........มีแต่กินแล้วจั่งแต่ง
สาวกะห่าวแข้งแข้ง ......... แซงหน้าบ่ว่ากัน ฯ

[wma]http://kasmostenk.googlepages.com/esansinmon.wma[/wma]