การใช้พลังงานในการออกกำลังกาย
พลังงานที่เราใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Anaerobic และ Aerobic ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
1. พลังงานแบบ Anaerobic
พลังงานประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องอาศัย อ๊อกซิเจน ซึ่งสามารถแยกย่อยออกไปได้อีก 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.1 พลังงาน Anaerobic แบบ ATP-CP
พลังงานประเภทนี้ มาจาก กลูโคส ล้วนๆ( กลูโคสในร่างกายส่วนใหญ่ ได้มาจากการกิน Carb นะครับ
แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนโปรตีนและไขมันให้มาอยู่ในรูปแบบของกลูโคส)
พลังงานประเภทนี้เป็นพลังงานแบบฉับพลันนะครับ และหมดลงในเวลาไม่กี่วินาที
หากเปรียบไปก็เหมือนเป็นพลังงานในการจุดระเบิดให้พลังงานอื่น ๆ ทำงานต่อไป
ตัวอย่างของการใช้พลังงานประเภทนี้ เช่น การยกเวท 1-2 ครั้ง
1.2 พลังงาน Anaerobic แบบ Lacate System
พลังงานในรูปแบบนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากพลังงานในขั้นต้น ซึ่งจะเกิดกระบวณการหนึ่งที่เรียกว่า Glycolysis ซึ่งร่างกายจะนำ ไกลโครเจน
(กลูโคสรูปแบบหนึ่งที่ร่างกายสำรองเอาไว้ใช้) มาใช้เป็นพลังงาน พลังงานประเภทนี้จะหมดไปในเวลา 2-3 นาที
ตัวอย่างของพลังงงานประเภทนี้ คือ การวิ่งแข่งระยะสั้น (หากต้องการวิ่งต่อไปจะต้องลดความเข้มข้นลง) หรือการยกเวทหลายครั้งติดต่อกัน
2.พลังงานแบบ Aerobic พลังงานประเภทนี้ต้องอาศัยออกซิเจนเข้ามาช่วยสันดาบ (โดยเฉพาะไขมัน)
หลังจากที่เราเริ่มออกกำลังกายได้ประมาณ 10 นาที ร่างกายก็จะหันมาใช้พลังงานในรูปแบบนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
( นาทีที่ 1-3 ยังเป็นพลังงานแบบ Anaerobic อยู่ ส่วนนาทีที่ 4-10 นั้นผสมผสานกันอยู่ทั้งแบบ Anaerobic และ Aerobic)
และในช่วงต้นของการใช้พลังงานประเภทนี้ (นาทีที่ 10-20) ร่างกายจะใช้พลังงานจากทั้ง ไกลโครเจน และ ไขมัน แต่จะใช้ไกลโครเจนมากกว่าไขมัน
ตั้งแต่นาที่ที่ 21 เป็นต้นไปร่างกายจึงจะดึงไขมันมาใช้เป็นอัตราส่วนที่มากหน่อย เมื่อเราออกกำลังกายนานขึ้นร่างกายก็จะใช้ไขมันมากขึ้น สังเกตุได้จากอาการหายใจอย่างแรง (หอบ) เพราะร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้นในการเผาผลาญไขมัน
จริง ๆ แล้วร่างกายจะใช้พลังงานจากโปรตีนด้วยนะครับ แต่มันน้อยมาก ๆ กล่าวคือ ไม่เกิน 5%
ดังนั้นแล้วหากสังเกตุกันดี ๆ ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานจากไขมันได้เพียงลำพัง จะต้องใช้ควบคู่กับไกลโครเจนเสมอ
ขอบคุณที่มา:Pantip.com
Bookmarks