***ส่องกระจกกะเห็นหน้า มองเห็นหูเห็นตา ของเจ้าของ บาดเจ้าส่อง หล่าเอ้ย
ใจเจ้าของ กะเห็นใจเจ้าของ คนอื่นแสนหมื่นตื้อ บ่มีมื้อ สิส่องเห็น เจ้าแหล้ว
พุทธองค์เพิ่นทรงตั้ง สติเพียร จนพ้นผ่าน ท่านเอ๋ย
ทุกเหตุการณ์ท่านส่องฮู้ เห็นทางหน้า พ่องหลัง
ในวังวน โอฆะกว้าง อนแอ่ง สงสาร
การณ์กะคือความจริง เกิดแน่นอน บ่หอนเว้น
เป็นจริงไปตามนั้น บ่มีผัน ปลิ้นแป่
โคดมเพิ่น กะจั่งหาทางแก้ หวังเอื้อ มนุสสา
เพิ่นจั่งออกล้ำหน้า ลากแก่ ชาวเมือง
ทำประเทือง ปัญญา มนุสสา ให้หลุดพ้น
คนคือกัน ท่านยังแล่ แปรให้เป็น สี่เหล่า
เขลา – มัชฌิม – แหลม – รอบรู้ จงตามก้น อาตมัน
คันแม่นไผรุดหน้า กะพ้อบ่อน แห่งความสุข
ไผยังอดสาบืน ก็หากมี วันพ้อ
ไผทำดี บ่มีท้อ บ่ออนซอน ความเจ็บปวด
แม่นสิพลาดหมื่นครั้ง กะยังก้าว ฮอดถึง
อันซุมอยู่ก้นบึ้ง รอวันเน่า หนอนเจาะ
รอวันเป็นอาหาร พวกเลื้อยคลาน ที่คอยล่า
อนิจจา! บางเฮาเดรัจฉานเซื้อ อย่าทะนง องค์อวด
ครองพระธรรม พิเคราะห์ถ้วน อย่าบักซี้ พิพากษา
สิ่งที่เห็นต่อหน้า อาจใช่ว่า สิเป็นจริง
สิ่งที่เฮาฟังมา ใช่ว่าจริง อย่าหลงเล่ห์
สิ่งที่เพ อย่าไปจี้ อาจยังมี เป็นประโยชน์
ไม้ล้มเจ้าข้ามได้ แต่คนล้ม เจ้าอย่าหาญ
อันกลอนกานท์ จับมาร่าย หลายวาจี มีประโยชน์
โปรดจับไป พิเคราะห์มั่น สิเห็นแจ้ง บ่อนสิไป
ก่อนสิไลขอลาท่าน เพียงหนึ่งวาทะกานท์ ขอฝากท่าน ไปเล็งส่อง แหน่เด้อ
“อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังบาดฮ้อง” อ้ายขอร้อง เจ้าไคร่ครวญ หล่าเอ้ย
ธุจ้าธุจ้าธุจ้า
Bookmarks