"เกมี"เข้าไทย 6-7 ต.ค. ฝนตกหนักแทบทุกภาค

[cute]

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “เกมี” (GAEMI)"
ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 02 ตุลาคม 2555

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (2 ต.ค. 2555) พายุโซนร้อน “เกมี” (GAEMI) ที่ทวีกำลังแรงขึ้นจากพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 700 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 17.0 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 114.8 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ชม. พายุนี้เกือบจะไม่เคลื่อนที่ และในช่วงวันที่ 2-3 ต.ค. 2555 ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

โดยในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม และในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. จะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ของประเทศไทย ตามลำดับ ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าว สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2-3 ต.ค. นี้ ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกมีกำลังอ่อนลง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
ตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[อีหยังสิปานนั้น]

โอ้ยยย น้อ มาซ่างวาแถ่ คิดวาเมิ้ดแล่ว หม่องเฮ็ดงาน
หา กอ กำลังงามฟ้ากำลังเปิดได่3มื้อเอง พีน้อง เอยยยย

[lungyai1123]

มาๆๆๆเข้ามาโลดเฮ็ดจั๊งได๋สิห้ามเลาได้เน๊าะกะหาเว้าหาว่าแท้
มาเข้ามาเลย

[cute]

[ชายอิสระ]

มาโลด ทางอิสานเฮาน้ำยังบ่ทันเต็มที่อยู่ครับ...

[คนนครผำ]

บ้านผู่ข่ายุเกษตรวิสัยแล้งมาสี่เดือนแล้ว...จั๊กสิได้เกี่ยวหือบ่ดอก...เชิญเทวดานำน้ำมาโผดผายซาวนาทางร้อยเอ็ดแน่เด้อท่านเอ้ย...:l- :*-

[cute]

อุตุเตือนภัย6-7ตุลาคม พายุเข้าไทย
ฤทธิ์เดชแรงเท่า"กิสนา"

ที่กรมอุตุนิยมวิทยา นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีฝ่ายบริหาร รักษาการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

เปิดแถลงข่าวว่า เวลา 10.00น.วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา เกิดพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 600 กม.ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55กม.ต่อชม.แต่พายุเกือบจะไม่เคลื่อนที่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนภายในวันที่ 2-3ตุลาคมนี้

อุตุเตือน6-7ต.ค.พายุเข้าไทย

จากนั้นช่วงวันที่ 4-5 ตุลาคม คาดว่าพายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในวันที่ 6-7ตุลาคม จะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างและเคลื่อนตัวมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่นสะสมเฉลี่ยมากกว่า 90.1มิลลิเมตร บริเวณภาคเหนือตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน

คล้าย”กิสนา”อาละวาด2-3วัน

ทั้งนี้ พายุดังกล่าวถือเป็นพายุลูกแรกที่เข้าประเทศไทยในปี2555 ลักษณะคล้ายพายุ”กิสนา” เมื่อปี2551 ซึ่งจะทำให้หลายพื้นมีน้ำเพิ่มขึ้นในลักษณะน้ำท่วมขัง แต่จะไม่เลวร้ายเหมือนปี2554 เพราะการเคลื่อนตัวของพายุค่อยข้างเร็ว คาดว่าน่าจะอยู่ในประเทศไทยประมาณ 2-3วัน จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด

อีก1ลูกเข้าปลายเดือนต.ค

นายสมชาย กล่าวอีกว่า บริเวณทะเลจีนใต้ใกล้กับพายุดีเปรสชันดังกล่าวยังตรวจสอบพบมีพายุก่อตัวขึ้นอีก 4 ลูก และมีแนวโน้มที่จะเข้าไทย 1ลูก ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ส่วนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจะเป็นภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าว สำหรับช่วง 1-2วันนี้ ก่อนพายุดีเปรสชันจะเข้ามายังประเทศไทย ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่างภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออกมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจ่ายและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพายุกิสนาปี2551 สร้างความเสียหายแก่ประเทศต่างๆในแทบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยบางส่วน ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคอีสานตอนล่างของไทย

[cute]

รอยล มั่นใจน้ำฝนไม่เกิน 90 มม./ชม.
จากพายุเกมี ไม่กระทบกทม

นาย รอยล จิตรดอน กรรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. กล่าวว่า ได้หารือคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ ให้เตรียมรับมือพายุดีเปรสชั่นลูกแรก บริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งกำลังก่อตัว และมีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนในวันที่ 2-3 ตุลาคมนี้

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาพายุดีเปรสชั่นลูกนี้ได้พัฒนาเป็นพายุโซนร้อน "เกมี" และคาดว่าช่วงวันที่ 4 -5 ตุลาคมนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม จากนั้นวันที่ 6-7 ตุลาคม จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงภาคกลางของไทย

นาย รอยล มั่นใจว่า ปริมาณน้ำฝน 90 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงจากพายุนี้ จะไม่กระทบกรุงเทพมหานนคร เพราะไม่มีน้ำเหนือไหลมาสบทบกับฝนที่ตกหนัก นอกจากนี้ยังได้พร่องน้ำในคลอง ส่งผลให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯลดลง
ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกโดยเฉพาะจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอบ้านสร้าง จะมีฝนตกหนักในวันที่ 9-10 ตุลาคม ซึ่งมีความเสี่ยงถูกน้ำท่วมรอบ 2 เช่นเดียวกับจังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่าได้ประกาศเตือนภัยยังพื้นที่เสี่ยง ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้

[cute]

แปดริ้วผวา...!
พายุฝนลูกใหม่ถล่มซ้ำ

ผู้สื่อข่าว...รายงานว่า ชาวไร่มันสำปะหลังในเขตพื้นที่ ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม และ ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ต่างได้พากันเร่งเก็บผลผลิตหัวมันสำปะหลังออกจากไร่ หลังจากได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในเขต ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จนไร่มันสำประหลังจมน้ำลึกกว่า 1 เมตร ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก

นาย นิ่ม พุทธซ้อน อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.3 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในขณะนี้ ยังไม่ครบถึงกำหนดอายุของการเก็บเกี่ยว แต่เนื่องจากน้ำกำลังจะท่วม ไม่สามารถปล่อยให้หัวมันแช่น้ำได้เป็นเวลานานได้ เพราะเพียง 2-3 วัน หัวมันก็จะเกิดการเน่าเสียแล้ว...จึงต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกไปขายก่อนทั้งที่ยังไม่ได้ราคาก็ตาม หากจะรอให้ราคามันสำปะหลังได้ราคาดี ตามโครงการรับจำนำของรัฐบาลนั้น จะต้องรอให้ถึงครบกำหนดอายุของการเก็บเกี่ยวก่อน คือ จะต้องรอต่อไปอีกจนถึงปลายเดือน ธ.ค.ปีนี้ จึงจะได้ราคาตามที่รัฐบาลเปิดรับจำนำ แต่เกษตรกรในบริเวณนี้นั้นไม่สามารถที่จะรอได้ เพราะผลผลิตจะเน่าเสียจากน้ำท่วม โดยบางพื้นที่ใกล้เคียงกันนี้น้ำป่าได้เริ่มไหลบ่าลงมาท่วมแล้วเกษตรกรหลายรายจึงได้เร่งเก็บเกี่ยว ขณะที่ไร่ของตนนั้นน้ำยังมาไม่ถึง แต่ก็ต้อเก็บผลผลิตออกก่อน เพราะเชื่อว่าอาจจะไม่รอดจากน้ำท่วมในครั้งนี้ เพราะมีการประกาศเตือนว่าจะมีพายุฝนลูกใหม่พัดเข้ามาอีกในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จึงต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตจำนวน 15 ไร่ ออกไปทั้งหมด โดยขณะนี้หัวมันของตนยังไม่ได้แช่น้ำยังพอที่จะขายได้ราคาใกล้เคียงกับราคาของการรับจำนำ คือ 2.20 บาท ซึ่งยังดีกว่าไม่ได้ ขายไม่ได้ราคาเลย

นาย บำรุง เจียรมาศ การค้าภายใน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มเปิดรับจำนำมันสำปะหลังจากเกษตรกรแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.55 (วานนี้) พร้อมกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือก แต่หากหัวมันถูกเก็บผลผลิตก่อนกำหนดถึงอายุการเก็บเกี่ยว หรือมีอายุไม่ถึง 8 เดือน หัวมันก็จะไม่มีคุณภาพ เชื้อแป้งจะลดลงหรือมีคุณภาพต่ำ ผลผลิตที่ได้จะมีเพียงกากมันเท่านั้น โดยเฉพาะหัวมันที่แช่น้ำนั้นจะมีเชื้อแป้งน้อยมาก และจะขายไม่ได้ราคา โดยหลักเกณฑ์ของการรับจำนำมันสำปะหลังนั้น หัวมันจะต้องมีเชื้อแป้งไม่ต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ จึงจะได้ราคารับจำนำที่ กิโลกรัมละ 2.50 บาท และหากมีเชื้อแป้งไม่ถึงจะลดลงตามส่วนของเปอร์เซ็นต์แป้ง ในอัตราเปอร์เซ็นต์ละ 2 สตางค์ต่อ กก. ...ซึ่งเกษตรกรแต่ละรายที่ได้ลงทะเบียนไว้จะสามารถนำผลผลิตมาเข้าร่วมโครงการได้รายละไม่เกิน 250 ตัน โดยเปิดรับตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.55) ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.56 รวมระยะเวลา 6 เดือนตามที่ทางรัฐบาลเปิดให้มีการรับจำนำในช่วงฤดูกาลนี้