คมพยัคฆ์ จะแพ้น็อก เอเดรียน เฮอร์นันเดซ

[พล พระยาแล]

เจ้าน้อย" คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวต WBC บินลัดฟ้าสู่เมืองโตลูก้า สังเวียนชก ซึ่งงานนี้ เฮอร์นันเดซ ประกาศแก้เผ็ดแชมป์โลกชาวไทยด้วยการชกบนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 8,793 ฟุต อากาศบางเบา และหนาวเย็นมาก

เพราะครั้งที่แล้วเดินทางมาประเทศไทย หอบเอาเข็มขัดมาทิ้ง เพราะหันหน้าเข้าแดด และชกตอนบ่ายแก่ ๆ เล่นเอาไปไม่เป็น คราวนี้ทีใครทีมัน


จากฟอร์มการชกเมื่อคราวที่คมพยัคฆ์ป้องกันแชมป์หนแรก มีแผลแตกนิดเดียว กรรมการยุติการชก ทำให้คมพยัคฆ์ชนะไปนั้น หลายฝ่ายมองว่าไม่แฟร์

ทำให้การชกในครั้งนั้นยังเป็นภาพหลอนของแฟนมวยจากทั่วประเทศ ฉะนั้นการเดินทางไปป้องกันแชมป์ของคมพยัคฆ์ในครั้งนี้ หลายฝ่ายก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า คมพยัคฆ์จะเอาเข็มขัดไปคืนให้กับ เอเดรียน เฮอร์นันเดซ

หวั่นใจทั้งเรื่องของน้ำหนักตัว ลดได้แต่จะโหย เรื่องของสภาวะแวดล้อม รวมถึงเรื่องของอากาศที่ไม่เป็นใจให้ทางฝ่ายเราเป็นอย่างมาก

หลายคนฟันธงว่า....งานนี้ "เจ้าน้อย" คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท เป็นรองสุด ๆ และเป็นเรื่องยากที่จะรักษาเข็มขัดเส้นนี้ไว้ได้ครับ :l-

เกมการชก "เฮอร์นันเดซ" จะเปิดเกมลุย จน "เจ้าน้อย" ตั้งรับไม่ทัน ลูกอัปเปอร์คัต ปลายคาง เป็นลูกอันตรายที่ "เจ้าน้อย" ควรระวังเป็นพิเศษครับ เจ้าถิ่นยิ่งชกยิ่งแรง ในขณะที่เรายิ่งชกยิ่งแผ่ว สุดท้ายลิเกจะเก็บฉากครับ

อย่างไรก็ตามในฐานะแฟนมวยชาวไทย ก็ยังหวังลึก ๆ ว่า "เจ้าน้อย" จะลบคำสบประมาทเหล่านี้ครับ .....โชคดีครับ

งานนี้ ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด กลับมายังประเทศไทย วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2555 เวลาประมาณ 09.00 น. ต้องคอยติดตามข่าวครับ

[บ่าวหัวเขียง]

ก่อนสิไป...น่าจะให้อ้ายพล เป่าหัวให้จักหน่อยเนาะครับอ้าย

[อีหยังสิปานนั้น]

ครั้งที่แล้ว กะได่เบิ่ง ยุคับ หมวด
ครั้งนี้ กะบ่ พลาดอีกละ มักหำน้อย สู้ๆๆๆๆๆ :l-

[พล พระยาแล]

ความเคลื่อนไหวศึกมวยป้องกันแชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวต (108) ปอนด์ สภามวยโลก (WBC) ระหว่าง “เจ้าน้อย” คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์โลกชาวไทยจากบุรีรัมย์ กับคู่ปรับเก่าแดนจังโก้ เอเดรียน เฮอร์นันเดซ ที่จะระเบิดกำปั้นที่เมืองโตลูก้า ประเทศเม็กซิโก ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ ตรงกับเช้าวันที่ 7 ต.ค. นี้ ตามเวลาเมืองไทย ช่อง 7 สียิงสดเวลา 09.30 น. ล่าสุด 2 เทรนเนอร์ “โค้ชหนึ่ง”ฉัตรชัย สาสกุล และ อู๊ด เพชรยินดี ยังให้ คมพยัคฆ์ ซ้อมเบา ๆ เน้นทบทวนเชิง และแผนการชกที่เตรียมไว้ โดยมีผู้จัดการ “เสี่ยตังค์” ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ดูแลใกล้ชิด โดย คมพยัคฆ์ เผยว่า ตนยังมั่นใจว่าจะเป็นไฟต์ที่ดุเดือด และยังมั่นใจจะย้ำแค้น เฮอร์นันเดซ อีกหน หลังเคยชนะน็อกมาในยก 10 เมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่โปรโมเตอร์ผู้จัดเริ่มออกลาย ไม่ยอมให้แชมป์โลกย้ายโรงแรมไปยัที่เมืองโตลูก้า สถานที่ชก ก่อนกำหนดตามคำขอของไทย อ้างว่าทุกอย่างดำเนินการไว้หมดแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทำให้"เสี่ยตังค์" ถึงกับหัวเสียพร้อม ประกาศย้ายโรงแรมในพรุ่งนี้แน่นอน เพราะที่พักอยู่นอกเมืองไกลที่ชกมาก


นอกจากนั้น คมพยัคฆ์ พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยังสถานฑูตไทยในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เข้าพบ นายสุวัฒน์ จิระพันธ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเม็กซิโก เพื่อเยี่ยมคารวะและขอพร ซึ่งเอกอัครราชทูตไทย กล่าวว่าตนเองมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับแชมป์โลกชาวไทยในครั้งนี้ พร้อมทั้งอวยพรให้กับ คมพยัคฆ์ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อชื่อเสียงของประเทศและประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ พร้อมทั้งจะเดินทางไปร่วมเชียร์ คมพยัคฆ์ อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ทางสถานฑูตได้เตรียมจัดอาหารไทยที่ถูกปาก “เจ้าน้อย” ส่งไปยังโรงแรมที่พักไว้รอหลังการชั่งน้ำหนักเสร็จสิ้นอีกด้วย ด้านสภามวยโลก (WBC) ได้ปรีวิวศึกนี้ว่า เทียบสัดส่วนกันแล้ว แชมป์โลกชาวไทยเสียเปรียบบาน โดย คมพยันค์ แชมป์โลกจากบุรีรัมย์ วัย 30 ปี สถิติชนะ 46 (น็อก 31) แพ้ 3 สูง 1.54 ม. ขณะที่ เฮอร์นันเดซ วัย 26 ปี สถิติชนะ 24 (น็อก 15) แพ้ 2 เสมอ 1 สูง 1.73 ม. แยนเหยียด 1.80 ม. อย่างไรก็ตาม สถิติการชกชิงแชมป์โลก WBC ระหว่าง นักชกไทยกับเม็กซิโก นั้น สถิตของนักชกไทยดีกว่า จากการที่มีการชิงแชมป์โลกสถาบัน WBC ระหว่างไทยกับเม็กซิโก มาแล้วทั้งหมด 49 ครั้ง นักชกไทย ชนะถึง 30 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง ส่วน เม็กซิโก ชนะแค่ 18 ครั้ง

ส่วนเว็บไซต์มวยโลกดัง อย่าง neutralcorneronline.com มีการทำนายผลมวยคู่นี้ว่า มวยคู่นี้จะดุเดือดเร้าใจอีกหนแน่ คมพยัคฆ์ ที่แข็งแกร่ง เตี้ยกว่า แต่หนากว่า จะเดินชนเดินเบียด เข้าอัดลำตัวให้อ่อน แล้วตวัดขึ้นบน ด้วยสไตล์ดุดันเหมือนเดิม หาก เฮอร์นันเดซ ต้องการล้างแค้นเอาชนะให้ได้ ต้องชกอย่างอดทน มีวินัย คอยชกฉาบฉวย ไม่แลกด้วย รักษาระยะการชกไม่ให้ คมพยัคฆ์ เข้าติด แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะหยุด คมพยันค์ ได้ และคาดว่า คมพยัคฆ์ จะบดจนยุบเอาชนะน็อกไปในยก 8 แม้จะต่อยในบ้านของ เฮอร์นันเดซ.

-----------------------------
ที่มา...เดลินิวส์...ออนไลน์