"ปลายฝนต้นหนาว" น้ำในนาเริ่มห้องขอด ปลาในนาก็จะมารวมกันในที่ที่มีน้ำขัง ตามมุมคันนา ทางอีสานเรียกว่า "ปลาข่อน"
ก็จะพากันไปวิดจับ ถ้าน้ำแห้งเป็นหย่อม ๆ อยู่กลางนา ก็ทำหลุมล่อ โดยเอาโคลนตม จอกแหนจากหนองน้ำใหญ่ ๆ ไปทาปากหลุม ขว้างจอกแหนลงไปในนา หลอกให้ปลาหลงคิดว่ามีหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า พากันตะเกียกตะกายหนีตายไปหาน้ำใหม่ที่ไหนได้ ตอนเช้าไปดูทั้งกุ้งหอยปูปลาอัดแน่นเต็มหลุมล่อ ไม่เว้นแม้กระทั่งงู :l-
ฉะนั้นเวลาล้วงเอาปลาออกจากหลุมระวังจะเจอปลาไหลบก (งู) ก็แล้วกัน บางคนไม่ลงทุนลงแรงอะไรเลย อาศัยตื่นแต่เช้าไปขโมยปลาในหลุมของชาวบ้าน ตอนเช้าไปดูเจอแต่ความว่างเปล่า
ช่วงเก็บเกี่ยวถ้าน้ำในนาเยอะ บางคนก็ปล่อยน้ำออกจากนา เนื่องจากกลัวจะได้เกี่ยวข้าวลุยน้ำลุยโคลน
ในช่วงปล่อยน้ำออกจากนา ก็เอาไซไปดักปลา ก็มีพวกไปลักเอาปลาในไซ (ลักยามไซ)ตื่นตอนเช้าไปดูไม่มีปลาในไซเหลือไว้แต่ปูให้ดูต่างหน้า น่าเจ็บใจชะมัด
ยิ่งหนักกว่านั้นบางคนเอาไซมาวางไว้บนถนนให้รถทับเล่นอีกต่างหาก ....โอ้ ย่ำยีหัวใจ
ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งหอยปูปลา เอามาหมก เอามาอ่อม ถือว่าได้แคลเซียม คนเฒ่าคนแก่บ้านเราจึงแข็งแรง กระดูกเหล็ก ทนร้อนทนฝน
ไม่เหมือนกับคนรุ่นใหม่ ตากแดดตากฝนก็พาลจะเป็นไข้ไม่สบาย เพราะไม่ได้ลุยตากแดดตากฝนทำไร่ไถนาเหมือนสมัยก่อน ทุกวันนี้ใช้เครื่องทุ่นแรงกันเป็นส่วนมาก และที่ทำนาไม่ต้องใช้แรง ใช้สมองอย่างเดียว ยิ่งสบาย คือการทำนาบนหลังคน
หน้าหนาวทางอีสานบ้านเรา ภาพที่มีเพื่อนบ้านมานั่งล้อมวงผิงไฟ จี่ข้าวจี่ คงพอมีให้เห็นบ้าง แต่อีกหน่อยก็คงจะเลือนลางหายไปตามกาลเวลา
---------------------------------
ขอบพระคุณเจ้าของภาพมา ณ ที่นี้ครับ...
Bookmarks