เรียนรู้แบบเด็กทารกครับ เริ่มจากการฟังแล้วจับคำที่หูเราได้ยินโยงเข้าหาภาพ ผู้พูดอาจจะพูดยาวเป็นประโยคละสิบคำแต่ถ้าเราได้ยินแค่คำสองคำ เราก็ค่อยๆนึกภาพว่าคำที่ได้ยินคืออะไร ได้ฟังบ่อยๆเข้าหูเราก็จะเริ่มชิน จากนั้นเราก็ค่อยๆออกเสียงตาม วันนี้ได้ยินสิบคำ ก็ออกเสียงตามไปสิบคำ นึกภาพตามไปด้วย ทำบ่อยๆก็ได้เป็นร้อยเป็นพันคำ
พอรู้คำมากขึ้น ก็เริ่มหัดอ่านให้มากขึ้น หาเนื้อหาที่ตัวเราชอบมาอ่าน จะได้มีแรงจูงใจ เดือนแรกอาจจะอ่านได้หน้าเดียว แต่อ่านไปเรื่อยๆ (สำหรับท่านชาย อย่าได้หาหนังสือ Playboy มาอ่านเชียว ท่านคงไม่ได้อ่านหนังสือ มัวแต่ดูอย่างอื่น) ท่านจะเข้าใจมากขึ้น รูปประโยคยาวๆก็จะเริ่มติดหัวมากขึ้น
ทีนี้ท่านก็ต้องหัดใจกล้า หน้าด้าน ต้องกล้าที่จะพูด ถูกผิด ก็พูดไป ท่องเอาไว้ ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อแม่กู กูพูดได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว มึงมาลองพูดภาษาไทยกะกูมั่งสิ
ท่านหัดฟังมากๆ หัดพูดมากๆ หัดอ่านมากๆ ท่านก็จะเริ่มพูดได้ สื่อสารได้ จากช้า เป็นเร็วขึ้น
อย่าไปมัวเสียเวลากับการเรียนไวยากรณ์ การสอนภาษาบ้านเราล้มเหลว เพราะมัวแต่ไปเรียนไวยากรณ์ ซึ่งเป็นวิธีที่งี่เง่ามากในความคิดผม นึกถึงสมัยเราเป็นเด็ก เราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาไทยตอนเข้า ป 3 ป 4 ซึ่งก็เกือบสิบปีหลังจากที่เราเริ่มหัดเรียนรู้ภาษาไทย นึกถึงเด็กทารก ที่ฟังคำที่พ่อแม่พูดเข้าใจ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ ไวยากรณ์คือสิ่งสุดท้ายที่เราควรจะเรียน แต่บ้านเราดันสอนเป็นสิ่งแรก เราก็เลยเอาแต่ท่องไว้สอบ สอบเสร็จก็ลืม แถมไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่าไวยากรณ์ที่เรียนมันใช้ยังไง แม้แต่ไวยากรณ์ไทยก็เถอะ จะมีคนไทยซักกี่คนที่เข้าใจจริง แต่เราก็ยังสื่อสารกันได้
จากที่สอบตกภาษาอังกฤษสมัยอยู่มหาวิทยาลัย จนมาอเมริกาครั้งแรกก็ยังสื่อสารไม่ได้แม้แต่นิด จนปัจจุบันสอบผ่านได้ใบอนุญาตินักบัญชีที่อเมริกา สั่งงานลูกน้องเป็นฝรั่ง ด่าฝรั่งงี่เง่ามาแล้วหลายคน แม้แต่ฝันก็ยังเป็นภาษาอังกฤษ เพราะผมใช้วิธีนี้สอนตัวเองให้หัดใช้ภาษาอังกฤษครับ
อย่ามัวไปเสียเวลาลงเรียนภาษาที่ไหนเลยครับ เสียเงินเสียเวลา เสียกำลังใจเปล่าๆ ภาษาหัดได้ ด้วยตัวคุณเอง อินเตอร์เน็ทไม่ได้มีไว้แทงบอล โหลดเพลง เล่นเกมส์ นะครับ
หนังสือพิมพ์ฝรั่งมีให้อ่านตามเน็ท เวปที่เป็นภาษาอังกฤษก็มีให้ฟัง เปิดฟังตอนเข้านอน เข้าไปฟังข่าวสาร การสัมภาษณ์ ช่อง BBC ได้ที่
http://www.kera.org/audio/kera_fullplayer.php
Bookmarks