?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย

?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย

?เหนือแผ่นดินสูงแห่งแดนอีสาน สูงเอยภูพานเป็นกำแพงตระหง่านเสียดฟ้า

ดาวแดงเด่นฉานคู่ขานภูพานนานมา เป็นดาวแห่งประชาชน ชี้ทางคนจรพ้นความระทม...?

จากบทเพลง ดาวแดงแห่งภูพาน : ศิลา โคมฉาย

ในยุคสมัยที่เมืองไทยมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอันเนื่องมาจากความคิดทางการเมืองที่แตกต่างเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ชื่อของ?ภูพาน?ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดง(จัด)ที่ทางภาครัฐเฝ้าเกาะติดและส่งกำลังไปปราบปรามอย่างต่อเนื่อง

แต่หลังเหตุการณ์คลี่คลายเพราะรัฐใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร ?นักรบแห่งภูพาน?เดินทางออกจากป่ากลายมาเป็น?ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย? เทือกเขาภูพานก็ค่อยๆเลือนลบกลบหายไปจากการรับรู้ของคนส่วนใหญ่ ทิ้งไว้เพียงตำนานแห่งการต่อสู้กับความทรงจำของนักรบแห่งภูพานอันยากที่จะลืมเลือน
ภูพาน ทางผ่านที่ไม่ควรมองผ่าน

หลังกลับจากการเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าที่นครพนม ?ผู้จัดการท่องเที่ยว?เห็นว่ายังมีเวลาเหลือเฟือ น่าจะเถลไถลแวะเที่ยวชมสิ่งที่น่าสนใจในทางหลวงหมายเลข 213 (สกลนคร-กาฬสินธุ์) กันเสียหน่อย

แม้จะเป็นเพียงทางผ่านแต่ว่าเส้นทางสาย 213 จัดเป็นถนนสายสวยอีกเส้นหนึ่งของเมืองไทย เพราะตัดผ่านกลางผืนป่าภูพานอันร่มรื่นเขียวครึ้ม ซึ่งเมื่อเดินทางพ้นจากตัวเมืองสกลนครขึ้นเทือกเขาภูพานมาได้ราว 13 กม. เราก็ประเดิมทริปด้วยการแวะเข้าไปชมพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สถานที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระราชวงศ์ทุกพระองค์ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในภาคอีสาน

ในเขตพระตำหนักฯมีการจัดแต่งภูมิทัศน์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยและไม้ดอกไม้ประดับ ที่สร้างความสดชื่นยามได้พบเห็นไม่น้อยทีเดียว

?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย

จากพระตำหนักฯ?ผู้จัดการท่องเที่ยว?เดินทางต่อไปอีกนิดก็พบกับโค้งปิ้งงู ถนนโค้งสวยอันคดเคี้ยวไปมาบนเนินเขาเหมือนงูเลื้อยที่นอกจากจะเป็นจุดพักรถแล้ว บริเวณนี้ยังมีการจัดแต่งภูมิทัศน์ได้อย่างน่ายล ส่วนที่กระตุ้นให้เราต้องเดินข้ามถนนไปเพ่งพินิจกันใกล้ๆก็เห็นจะเป็นหลักกิโลเมตรยักษ์ ที่ป้ายข้างทางระบุว่าเป็นหลักกิโลเมตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว

เจ้าหลักกม.ยักษ์นี้ เป็นหลักกม.ที่ 21 มีขนาดสูงกว่าตัวคนเสียอีก บนหลักบอกระยะห่างจากจุดนี้กับเมืองสำคัญต่างๆ อาทิ ห่างจากกรุงเทพฯ 632 กม. ห่างนราธิวาส 1781 กม. ห่างแม่สาย 1030 กม. ซึ่งหลักกม.ยักษ์นี้นอกจากจะเป็นจุดให้ผู้ขับรถผ่านทางแวะจอดถ่ายรูปแล้ว ยังถือเป็นสิ่งสะท้อนแนวคิดความเป็นที่สุดระดับโลกแบบไทยๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย

จากหลักกม.ยักษ์ เดินทางต่อไปอีกราว 10 กม.เป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูพาน ที่?ผู้จัดการท่องเที่ยว? เห็นว่าน่าจะแวะเวียนเข้าไปเข้าห้องน้ำห้องท่า และชมสิ่งที่น่าสนใจอุทยานฯแห่งนี้เสียหน่อย

ที่นี่พี่พิทักษ์ป่าที่เฝ้าประจำศูนย์ฯต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มและน้ำมิตร พร้อมกับเล่าเรื่องราวของภูพานให้ฟังอย่างไม่อั้น ทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและด้านความสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะทางด้านการต่อสู้ ที่นอกจากภูพานจะเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแล้ว(พคท.) ที่นี่ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ของขบวนการเสรีไทยในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย โดยมีถ้ำเสรีไทยเป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์ มีนายเตียง ศิริขันธ์ เป็นหัวหน้าขบวนการสายสกลนคร ซึ่งปัจจุบันถ้ำเสรีไทยถือเป็นจุดท่องเที่ยวอันน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งนี้

นอกจากนี้พี่พิทักษ์ป่ายังอธิบายให้เห็นถึงความสำคัญของผืนป่าแห่งนี้ว่า เทือกเขาภูพานเป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์อันกว้างใหญ่ นอกจากอุทยานฯภูพานแล้ว เทือกเขาแห่งนี้ยังมีอุทยานฯภูผายล(อุทยานฯห้วยหวดเดิม)ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน สำหรับอุทยานฯภูผายล มีสิ่งน่าสนใจอยู่ที่ภาพโบราณบริเวณถ้ำภูผายล อ่างเก็บน้ำห้วยหวดและทุ่งดอกดุสิตาอันสวยงามในช่วงปลายฤดูฝน



ผานางเมินแต่เด็กๆไม่เมิน


?อุทยานฯภูพานเป็นผืนป่าใหญ่มีเนื้อราว 4 แสนไร่ ช่วยทำให้ฝนตกอย่างสม่ำเสมอและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญที่ใช้ในการทำไร่ทำนาของคนแถบนี้(สกลนครและนครพนม) แต่ว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองป่าภูพานเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น อย่าว่าแต่คนจังหวัดอื่นเลยครับ ขนาดคนสกล(นคร)เอง ยังไม่ค่อยนิยมเที่ยวภูพานกันเลย ส่วนใหญ่จะเลยไปภูกระดึงหรือเขาใหญ่โน่น?พี่พิทักษ์ตัดพ้อให้ฟัง

?ผู้จัดการท่องเที่ยว?ที่เดิมเป็นหนึ่งในผู้ผ่านทางจากนครพนมมายังภูพาน เมื่อฟังแล้วก็ออกอาการจุกกับคำตัดพ้อเล็กน้อย เอาล่ะไหนๆเมื่อเที่ยวเตลิดมาถึงที่นี่แล้ว งานนี้เราจึงเกิดไอเดียว่าน่าจะนอนค้างที่อุทยานฯภูพานสักคืน เพราะนานๆจะผ่านมาแถวนี้สักครั้ง หากจะผ่านเลยไปมันก็ดูจะกระไรอยู่

หลังจัดที่พัก กางเต็นท์ และเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์กลางฝืนป่าอันร่มรื่น แสงแดดยามเย็นเริ่มเดินทางมาเยือน เราจึงเห็นว่าได้เวลาอันสมควรที่จะเดินไปเที่ยวยังผานางเมินแล้ว

ผานางเมิน อยู่ห่างจากที่พักไปแค่ราวๆ 200 เมตร(ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 700 เมตร) เป็นลานหินกว้าง แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ผาแห่งนี้มีตำนานเล่าว่า...หนุ่มล่ำสันบ้านคำเพิ่มคนหนึ่งได้มากระโดดหน้าผาตายที่นี่ เพราะสาวคนรักรูปงามจากบ้านลาดกะเฌอ ตีจากไปรักไอ้หนุ่มคนอื่น ชาวบ้านจึงพากันผาแห่งนี้กันว่า?ผานางเมิน?

?ผู้จัดการท่องเที่ยว?เมื่อรับรู้ตำนานแล้วก็อดเห็นใจชายหนุ่มล่ำสันไม่ได้ งานนี้เขาไม่น่าบูชาความรักจนถึงขนาดไม่รักตัวเองฆ่าตัวตายเลยเพราะชีวิตยังมีหนทางอีกมากมาย

แม้ผานางเมินจะสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากเพียงแค่ประมาณ 300 เมตร แต่ว่าก็ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดีทีเดียว เบื้องล่างเมื่อมองลงไปเป็นผืนป่าภูพานอันแน่นหนา ส่วนยามเย็นวันไหนถ้าท้องฟ้าเป็นใจก็จะเห็นอาทิตย์อัสดงที่สวยงามไม่น้อย เพราะมีลานหิน ก้อนหิน และต้นไม้ใหญ่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ

?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย

?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย
เส้นทางเดินขึ้นไปชมภาพสลักภูผายล


แต่ว่าวันนั้นดูเหมือนท้องฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เพราะถึงแม้ฟ้าจะโปร่ง แต่ว่าจู่ดวงอาทิตย์ก็เคลื่อนดวงคล้อยหายไปในมวลหมู่ก้อนเมฆอันหนาทึบเฉยเลย แถมยังหายแล้วหายเลยอีกต่างหาก

นี่แหละธรรมชาติ...แม้ยากที่จะคาดเดาแต่ว่าก็ได้สร้างคุณประโยชน์อันเหลือคณานับให้กับมนุษย์ แต่น่าแปลกที่ยังมีมนุษย์หลายๆคนยังคงทำร้ายทำลายธรรมชาติอยู่ร่ำไป...

ขึ้นภูผายล ยลภาพโบราณ

เช้าวันใหม่... ?ผู้จัดการท่องเที่ยว?แวะเข้าไปร่ำลาพี่พิทักษ์ป่าผู้มากด้วยน้ำมิตรคนนั้น ก่อนออกเดินทางจากอุทยานฯภูพานไปแบบชิลล์ ชิลล์ ไม่เร่งรีบ แล้วสาวตาเจ้ากรรมดันบังเอิญไปเห็นป้ายบอกทางไปชมภาพโบราณที่?ภูผายล?(ถ้ำภูผายล)ในอุทยานแห่งชาติภูผายลที่อยู่ห่างจากทางหลักไปราว 17 กม. งานนี้เลยต้องมีการแวะชมกันเสียหน่อย

สำหรับเส้นทางสู่ภูผายลช่วงแรกเป็นทางสบายๆลัดเลาะไปตามเนินเขา ไร่นา หมู่บ้าน ส่วนช่วง 2 กม.สุดท้ายเป็นถนนลาดยางขึ้นเขาชันนิดๆที่รถยนต์สามารถวิ่งขึ้นไปได้อย่างไม่ลำบากยากเย็น แต่ที่สร้างความลำบากยากเย็นให้กับเรามาก็เห็นจะเป็นทางเดินขึ้นไปชมภาพโบราณบนภูผายลหรือภูผาลายที่แม้จะเป็นบันไดเทปูนอย่างดี แต่ว่าด้วยความสูงชันมันก็ทำให้เราเหนื่อยหอบไม่น้อยทีเดียว



?ภูพาน? ผ่านแล้วอย่าผ่านเลย


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์