บั้งไฟพญานาค


นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่แท้จริง เพราะลูกไฟประหลาดหรือที่เรียกว่า “บั้งไฟพญานาค” นี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขต จ.หนองคายเท่านั้น ตามแนวแม่น้ำโขง ไม่มีขึ้นที่อื่นแม้จะอยู่ตามริมแม่น้ำโขงเช่นกัน จึงนับได้ว่าหนองคายกับเวียงจันทน์ สมัยก่อนนั้นการปกครองและการสร้างเมืองโดยพญานาค จึงได้รับอิทธิพลนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะถูกแยกการปกครอง และแยกประเทศออกจากกัน แต่ในความเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ก็เป็นพื้นที่เดียวกัน ตำนานประเพณีต่าง ๆ ของคนแถบลุ่มแม่น้ำโขง จะเกี่ยวข้องกับพญานาคกันทั้งนั้น เพราะพญานาค หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของมนุษย



บั้งไฟพญานาค มหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

ตามตำนานการเกิดบั้งไฟพญานาค ได้กล่าวไว้ว่า...ตามพุทธประวัติความเป็นมาเมื่อครั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าได้ตรัสรู้ พระองค์ได้เสด็จเผยแพร่พระศาสนาไปทั่วชมพูทวีป พญานาคีได้เกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง จึงได้จำแลงกายเป็นบุรุษเพื่อขอบวชเป็นสาวก
ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีได้เผลอหลับไหลไปและคืนร่างเดิม พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องจึงขอให้ลาสิกขา เนื่องจากเป็นเดรัจฉานจะบวชเป็นภิกษุมิได้ พญานาคีจึงยอมทำตามคำขอแต่ขอว่ากุลบุตรทั้งปวงที่จะบวชให้เรียกขานว่า ''นาค'' เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนเข้าโบสถ์
จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกขานกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า ''พ่อนาค'' ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์ เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งเหล่าบริวารจัดทำเครื่องบูชาและพ่นบั้งไฟถวาย
ซึ่งต่อมาชาวบ้านเรียกว่า ''บั้งไฟพญานาค''
ในทุกๆปี จะมีลูกไฟขนาดเท่าไข่ไก่บ้าง เท่าลูกมะนาวบ้าง ผุดขึ้นตามลำน้ำโขงบริเวณหน้าวัดไทย เรียงกันขึ้นในแนวตั้งบ้างเฉียงบ้าง ครั้งละประมาณ 5 ถึง 10 ลูกชาวบ้านต่างเชื่อว่า เป็นพญานาคจุดบั้งไฟ เพื่อสักการะ พระพุทธเจ้าและพระหลวง พ่อใหญ่วัดไทยอันศักดิ์สิทธิ์
เพื่อเป็นการบูชาในพระพุทธ ศาสนา ซึ่งในคัมภีร์พระไตร ปิฎก กล่าวไว้ว่า เป็นวันที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลง มาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากการแสดงธรรมแก่มารดาในวันดังกล่าวพระพุทธองค์ ทรงเปิดให้ทั้งสาม โลกธาตุ คือ มนุษย์ สวรรค์ และ นรก ได้มองเห็นกันหมด
ซึ่งตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันออกพรรษาของทุกปี ในความเชื่อ ของชาวบ้าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นพญานาคจุดบั้งไฟเพื่อนเป็นการสักการะถวายเป็นพุทธบูชา



บั้งไฟพญานาค มหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

บั้งไฟพญานาค หรือ บั้งไฟผี เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายที่ชัดเจนได้ โดยมีลักษณะเป็นลูกไฟสีชมพู ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง พุ่งขึ้นเหนือลำน้ำโขง มีตั้งแต่ระดับ 1-30 เมตร แล้วพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงประมาณ 50-150 เมตร
เป็นเวลาประมาณ 5-10 วินาที โดยจะเกิดปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ในช่วงวันออกพรรษา หรือ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตามปฏิทินลาว ซึ่งอาจตรงกับวันแรม 1 ค่ำ หรือ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของไทย โดยแต่ละปีจะปรากฏขึ้นประมาณ 3-7 วันมากกว่า 90% ของจำนวนลูกบั้งไฟพญานาคในแต่ละปี
จะพบที่จังหวัดหนองคาย หน้าวัดไทย และบ้านน้ำเป อำเภอโพนพิสัย วัดอาฮง อำเภอบึงกาฬ วัดหินหมากเป้ง และอ่างปลาบึก อำเภอสังคม ผู้ศึกษาปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคหลายกลุ่ม พยายามอธิบายที่มาของปรากฏการณ์นี้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เช่น คาดว่าอาจจะเป็นก๊าซมีเทน-ไนโตรเจน
หรือ ฟอสฟอรัส ที่เกิดจากการย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ใต้น้ำ



บั้งไฟพญานาค มหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

ถ้าสมาชิกบ้านมหา...ท่านใดได้ไปอย่าลืมถ่ายรูปมาให้เบิ่งนำแหน่เด้อ