ขออนุญาตพี่น้องอ้ายพี่ นำเสนออีกเรื่องครับ
ผมนำต้นมะม่วงป่า มะม่วงกะล่อน มาปลูกไว้ในสวนป่าบ้านมหา เพื่อจะนำเป็นต้นตอการติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอดครับ
จากประสบการณ์จริง บนที่ดินของแม่ ที่นาของพ่อ
พ่อปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้จากเมล็ดที่สวนข้างบ้านครั้งผมยังเด็ก ผ่านไปประมาณสิบปี สิบห้าปี
ต้นมะม่วงน้ำดอกไม้พันธุ์ดีก็ยืนต้นตายหมดทุกต้น ด้วยฤทธิ์เดชของแมลงปีกแข็งหนวดยาว บ้านผมเรียกแมงกอก
กลายเป็นต้องกินเห็ดกระด้าง เห็ดหูหนู และย่างหนอนแมงกอก จากตอมะม่วงกินแทน
แต่ต้นมะม่วงกะล่อนไม่ค่อยเห็นมีปัญหาเท่าไหร่ ดอนผมยังเด็กยังมีมะม่วงกะล่อนต้นใหญ่ๆ เยอะครับ
ต้นนี้มะม่วงแก้ว หรือมะม่วงใหญ่ อายุยี่สิบปี ก็จะต้องตายในเร็ววันนี้ ด้วยฤทธิ์ของมวน ด้วง แมงกอก โรค หรืออะไรก็ไม่ทราบ
มะม่วงแก้วต้นนี้เรียบร้อยครับ ปีก่อนก็ยังได้เก็บลูกสองสามตะกร้าใหญ่ๆ (กะต่า)
น้องชายเรียนเกษตรที่วิทยาลัยเกษตรกรรมมหาสารคาม จึงนำวิชาความรู้มาใช้ที่บ้าน ก่อนเข้าโรงงาน
เมื่อทรัพยากร(เมล็ดมะม่วงกะล่อน) ในคอกควายใต้ถุนบ้านมีเยอะ จึงเริ่มทดลองกัน
เริ่มจากเพาะกล้ามะม่วงกะล่อน แล้วนำไปปลูก
พอมะม่วงกะล่อนโตก็ตอนหรือตัดยอดทิ้ง บังคับให้แตกกิ่ง ปีถัดไปหรือปีนั้นก็ไม่ทราบจึงทำการติดตา
ส่วนขั้นตอนการติดตา ฯลฯ ทำอย่างไร ผมไม่ขออธิบายนะครับ ผมทำไม่เป็น เดี่ยวจะผิด
ติดตา ตาติด ทั้งห้ากิ่งแล้วครับ มะม่วงกะล่อนโตเร็วมาก นี่ปลูกในสวนน้อย สวนหญ้าเลี้ยงวัวก็ยังโตเร็ว
จากใบกะล่อนกลายเป็นใบมะม่วงน้ำดอกไม้
ต้นนี้ดูจากภาพน่าจะเป็นการเสียบยอด
มะม่วงพันธุ์ต่างๆ บนต้นตอมะม่วงกะล่อน ที่คันนาขอบสระ ให้ผลผลิตมาหลายปีแล้ว
ลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ จากต้นตอกะล่อน ที่ไม่เคยให้น้ำให้ปุ๋ย ยา ฮอร์โมนใดๆ เลย ไม่เคยกำจัดศัตรูพืช
ดูแลแค่สองสามปีแรก รดน้ำไม่ให้ตายและให้รอดพ้นปากวัวควาย ดูจากดิน หน้าแล้งก็ทะเลทรายดีๆ นี่เอง
มะม่วงน้ำดอกไม้ ผลผลิตปี 53 ส่วนหนึ่ง
ได้ยอดได้ตาพันธุ์อะไรก็ติดๆ เสียบๆ เข้าไป รอดบ้าง ตายบ้าง
กิ่งซ้ายไม่รู้อะไร เปรี้ยวมันมีแต่แป้งแต่สุกแล้วก็เข้าท่า กิ่งขวาฟ้าลั่นมั้งครับแต่ลูกสั้นไปนิด
พอรอดตายก็รอเก็บกินอย่างเดียวครับ ไม่ต้องทำอะไรเลย
มะม่วงก็เหมือนข้าวกล้า พืชทั่วๆ ไป ปีงามปีไม่งาม ปีดกปีไม่ดก
แต่มะม่วงที่ติดตาต่อกิ่งพวกนี้ ที่ผ่านมาในระยะใกล้สิบปีนี้ ให้ผลผลิตดีทุกปีครับ ทั้งที่ไม่เคยให้ปุ๋ยให้ยาอย่างที่กล่าว
จะมีปัญหาปีไหนฟ้าฝนลมแรงช่วง กุมภา-มีนา มะม่วงลูกเล็กร่วงหล่นมากกว่าปกติ ซึ่งอ้ายๆ พี่ๆ ก็พอนึกภาพออก
แต่ถ้าไม่ร่วงหล่นเลย ลูกดกมาก ลูกก็เล็กไปนิด แก่จัดความอร่อยหวานหอมยังเหมือนเดิม
สงกรานต์หรือหลังสงกรานต์ แล้วแต่ปี ผมก็จะไปเอาไปกินมะม่วงน้ำดอกไม้ลูกใหญ่ๆ ก้นส่อน เป็นประจำ
พ่อแม่ก็กินกันปีละไม่เกินสิบลูกต่อคน เลือกกินเฉพาะลูกสวยๆ เน้นก้นส่อน ส่วนหลานน้อยไม่กินเลย "มันบ่แซบ" จะกินเถ้าแก่น้อยอย่างเดียว
พ่อชอบกินมะม่วงน้ำดอกไม้ ผมเองลองดูหลายๆ พันธุ์ ผมก็ว่ามะม่วงน้ำดอกไม้สุก กับมะม่วงแก้วสุกครับ
ลูกห่ามๆ อวบๆ แน่นๆ ปอกฝานเปลือกแตกเป๊าะ เปรี้ยวอมหวานกินกับน้ำปลาใส่น้ำตาล อร่อยมาก
ที่มีขายกันแก่บ้างไม่แก่บ้าง เน้นผิวสวยบ่มแก๊ส ก็ไม่ว่ากัน ความจำเป็นของการค้าการขายนะครับ
นำมาเสนอพี่น้องบ้านมหาฯ และทุกๆ ท่าน หากคิดจะปลูกมะม่วงอะไรก็แล้วแต่ในวันนี้เพื่อไว้กินเอง
นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งครับ โดยหวังว่ามะม่วงต้นนั้นจะอายุยืนยาว ไม่ต้องปลูกบ่อยๆ ไม่ต้องดูแลรักษาใดๆ ต้นไม่ใหญ่เกินไป
มะม่วงที่ติดตาต้นแรกๆ ก็เกือบยี่สิบปีแล้วครับ มะม่วงน้ำดอกไม้ตายไปสองต้นจากรวมทั้งหมดกว่ายี่สิบต้น
เป็นต้นที่ปลูกบนคันนาสูง และเป็นดินทราย ต้องเฝ้าดูต้นที่เหลือจะมีอายุยืนแค่ไหน
แต่จากที่ผ่านมาก็เป็นที่พอใจครับ ถือว่าคุ้มแล้วที่เหลือเป็นกำไร
วิธีการติดตา เสียบยอด ทาบกิ่ง ผมว่าใครๆ ก็คงพอทำได้ ก็เปิดหาดู หรือลองๆ เดาๆ กันไป ปลูกต้นตอสำรองไว้เยอะๆ
มะม่วงป่า มะม่วงกะล่อนก็ได้ครับ
ขอบคุณบ้านมหา
ผิดตรงไหนผมขออภัยด้วยครับ
Bookmarks