ขออนุญาตอ้ายพล อ้ายๆ เวบมาสเตอร์ บ้านมหาอีกครั้งหนึ่งครับ
และขออนุญาตพี่น้องบ้านมหาโพสท์อีกครั้งครับ ช้ากว่านี้จะหมดฤดูกาลเสียก่อน
ผมขอเอาเรื่องการประทวนข้าวของชาวนาหรือพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรของเรามาเล่าให้ฟัง เพื่อประโยชน์สำหรับคนที่ยังไม่รู้
ผมนำเรื่องนี้มาโพสท์ มาเล่าโดยไม่เกี่ยวข้องกับการบ้านการเมืองหรือประโยชน์แฝงใดๆ ด้วยสัตย์จริง
เป็นเรื่องที่ผมสงสัยมาตลอดว่า การจำนำข้าว การประทวนข้าว เขามีวิธีการ ระเบียบปฏิบัติกันอย่างไร
ชาวนาเกษตรกร ได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้หรือไม่
ผมเคยถามแม่ แม่เป็นชาวนาความรู้ ป4 แม่ก็ตอบไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำ ความสงสัยของผมจึงยังคงอยู่ในรูปของคำถาม
กลับไปดูพ่อเกี่ยวข้าวครั้งนี้ พ่อนำข้าวไปประทวนส่วนหนึ่ง เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของผม ขับรถตามไปที่โรงสี
ไปถึงโรงสีที่รับการประทวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถามว่า "มาติดต่ออะไรครับ" ผมตอบ "มากับพ่อครับ"(ตามพ่อมา)
เจ้าหน้าที่ก็ให้ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ
ผมเก้ๆ กังๆ รถข้าวของพ่อวิ่งไปนู้น สองร้อยเมตรที่เครื่องชั่ง ผมสอบถามคนที่เอาข้าวไปประทวน
"นู้นเขาตรวจคุณภาพข้าวกันที่นู้น ไปดูได้" ครับ
"แล้วพี่ได้กี่บาทครับ" ผมถามเดา(ฟร์อมเป็นรู้) "ได้ยี่สิบบาท ข้าวผมโชว์อยู่นั่นแหละ" เขาตอบอย่างภาคภูมิใจ
"ผมตากสองแดดก่อนเอามา แต่ละเที่ยวได้สิบเก้าบาท ยี่สิบบาท ยี่สิบเอ็ดบาท แล้วแต่ หักนิดหน่อย" เขาอธิบายต่อ
"บ้านพี่อยู่ไหนครับ" "บ้านกรวด" (อำเภอบ้านกรวด บุรีรัมย์) ขอบคุณครับ
ผมเดินไปที่พี่เขาบอก
ผมขออนุญาตเจ้าหน้าที่ถ่ายรูป เขาก็อนุญาต ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่นั่นอีกครั้งครับ
มาดูขั้นตอนการประทวนข้าวไปพร้อมกันครับ
เริ่มจากเจ้าหน้าที่ไปเก็บตัวอย่างข้าวจากรถของชาวนาเกษตรกร
นำมาวัดความชื้น
ชั่งเอาตัวอย่างข้าวเปลือกจำนวน 100 กรัม แล้วนำไปสีเป็นข้าวกล้องเพื่อดูว่ามีข้าวพันธุ์อื่นๆ ปนมาหรือไม่
แล้วนำข้าวกล้องนั้นเข้าเครื่องขัดข้าวขาว ก็จะได้ข้าวขาวจากข้าวเปลือก 100 กรัม
นำข้าวขัดขาวที่ได้มาร่อนเพื่อคัดเอาเฉพาะข้าวเมล็ดเต็ม หรือที่เรียกว่า ข้าวต้น (ถ้าไม่ผิดตามบิล นะครับ)
นำข้าวเมล็ดเต็มที่ได้มาชั่งน้ำหนัก
น้ำหนักที่โชว์ 36 กรัม หมายถึง ถ้าเอาข้าวจากชาวนาคนนี้ไปสีเป็นข้าวขัดขาวก็จะได้ข้าวเมล็ดเต็ม 36 เปอร์เซ็นต์ ประมาณนั้น
จบขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะให้ราคา หรือ กำหนดราคา ว่าจะขายได้กิโลกรัมละเท่าไหร่
นี่เป็นตัวอย่างข้าวของพี่คนที่ว่าแต่ต้น นั่นแหละครับ
สีขัดเป็นข้าวขาวได้ 43 กรัม ซึ่งถือว่าได้เยอะมาก เขาให้ราคาตามที่เห็นคือ 20 บาท 20 สตางค์
หรือตันละ 20,200 บาท เป็นราคาที่เจ้าของข้าวต้องยิ้มแก้มปริ
ข้าวหอมมะลิตันละสองหมื่นสองร้อยบาท
ข้าวหอมมะลิที่ไม่สามารถรับประทวนได้ เนื่องจากมีข้าวปนเยอะมาก
หลังจากนั้นรถข้าวก็จะวิ่งขึ้นตาชั่ง ชั่งน้ำหนัก นำข้าวไปเท กลับมาชั่งน้ำหนักรถเปล่า
และโรงสีก็จะออกใบบิลให้ เป็นอันจบในวันนี้
ส่วนรับเงินที่ไหนอย่างไร ผมยังไม่มั่นใจครับ ได้ยินว่าต้องไปขึ้นเงินที่ธนาคาร
นี่เป็นตัวอย่างใบบิลจากทางโรงสีที่รับการประทวน (ขออนุญาตปิดข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับราคาข้าวนะครับ)
รายละเอียดในบิล บอกว่า
สินค้าเป็น ข้าวเปลือกหอมมะลิ
ค่าความชื้น 23.10 เปอร์เซ็นต์
ค่าลง(น่าจะหมายถึงข้าวต้น) 33 กรัม
ราคาต่อกิโลกรัม 18 บาท 20 สตางค์
น้ำหนักข้าวทั้งหมด 3780 กิโลกรัม
หักสิ่งเจือปน 530 กิโลกรัม (คิดเป็น 14% ของข้าวทั้งหมด)
เหลือน้ำหนักข้าว 3250 กิโลกรัม
คิดเป็นเงินสุทธิ 59,150 บาท
ถ้าคิดเฉลี่ยราคาจากข้าวทั้งหมด คือ เอาเงินที่ได้ 59,150 บาท หารด้วย น้ำหนักข้าวทั้งหมด 3780 กิโลกรัม
จะได้ 59,150 / 3780 = 15.648 บาทต่อกิโลกรัม หรือตันละ หนึ่งหมื่นห้าพันหกร้อยสี่สิบแปดบาทครับ
ไม่ใช่ตันละสองหมื่น
แต่ถ้าหากท่านไม่พอใจด้วยกรณีใดๆ นำข้าวไปขายให้โรงสีใดๆ โดยตรง ไม่ประทวน
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ราคาข้าวหอมมะลิ ที่เกี่ยวเสร็จใหม่ ความชื้น 20-30% อยู่ที่ 11-13 บาทต่อกิโลกรัม ครับ
อย่างมากไม่เกิน 14 บาท บางรายก็เข็นข้าวกลับบ้าน ไปตาก แล้วก็คิดหา...ที่มาของเงินจะไปจ่ายค่าเกี่ยว ค่าปุ๋ย
บิลนี้ข้าวตากแห้งแล้ว หักสิ่งเจือปนแค่ 2% แต่ให้ราคาข้าวแค่ ตันละ 15,600 บาท ก็ยังไม่ใช่ สองหมื่น
บิลนี้หักสิ่งเจือปน 2% เช่นกัน ราคาดีขึ้นมาที่ 16,600 บาท เอ้...เมื่อไหร่จะสองหมื่นซักที
บิลนี้ ข้าวสุทธิ 2180 กก หักสิ่งเจือปนรวม 468 กก คิดเป็นหักไป 21.5% ให้ราคาตันละ 18,400 บาท
คิดเป็นราคาของข้าวทั้งหมดตันละ = 31,482 / 2180 = 14,441 บาท
ตันละ หนึ่งหมื่นสี่พันสีร้อยบาท ครับ
ราคานี้เกษตรกรบางท่านดูผิวเผินจะดีใจมาก เขาให้ตันละ หมื่นแปดสี่ร้อย ขอเถียงจนคอเป็นเอ็น
ไม่ใช่หมื่นสี่แน่นอน ตัวเลขในบิลมันฟ้องอยู่โทนโท่.......
สรุป จากบิลตัวอย่างทั้งแปดใบนี้ เป็นน้ำหนักข้าวเปลือกรวมกัน 19 ตัน
นำไปประทวนได้เงิน รวม 300,000 บาท (สามแสนบาท)
คิดเป็นราคาเฉลี่ยของข้าวหอมมะลิต่อตัน คือตันละ 15,500 บาท (ตันละหนึ่งหมื่นห้าพันห้าร้อยบาท)
ตัวอย่างบิลที่ 4-8 คิดเป็นการหักน้ำหนักจากสิ่งเจือปนเฉลี่ย 20%
หรือ ข้าวห้าตัน คิดราคาให้แค่สี่ตัน หรือ 5 หัก 1 เหลือ 4
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นละ
ก็ข้าวลุงมันชื้น "ตากแล้ว"
ก็ข้าวลุงมันปน "ปน..ไหนๆ...." เงียบ
ก็ข้าวลุงมันกรอบมันหัก "......." เงียบ
ผมนำเรื่องนี้มานำเสนอเพื่อฝากไว้ในคลังความรู้บ้านมหาแห่งนี้ เพื่อประโยชน์ที่ใครๆ
อาจจะนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงใดๆ ในวันข้างหน้า
ไม่มีเจตนาในทางที่ไม่ดีครับ
โรงสีเขาก็อยากรับซื้อข้าวที่คุณภาพดี
เกษตรกรก็จนปัญญาจะทำได้ ตายายทำนาสองคน ถ้าข้าวปนในนาก็คงไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้
จะเอาข้าวเป็นตันไปตากแล้วค่อยขนขึ้นรถไปประทวน ลำพังตาๆ ยายๆ นี่นะ
คนที่ขายได้ ประทวนได้ ตันละ สองหมื่น มีจริง แต่ก็เป็นเกษตรกรส่วนน้อยที่ยังพอมีกำลัง ยังแข็งแรง
ผมเองก็ดีใจด้วย
ส่วนเกษตรกรส่วนใหญ่ รวมทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้องของผมด้วย ก็คงต้องเฝ้ารอวันนั้นต่อไปครับ
หมดที่ให้ท่านท้อแล้ว ต้องรอ
ข้าวเปลือกที่ชื้น 5 ตัน ตากให้แห้งแล้วจะเหลือ 4 ตัน จริงหรือไม่ มีใครตอบได้บ้าง
บิลตัวอย่าง ผมขอถ่ายจากของญาติๆ หลายๆ คนครับ ขอขอบคุณทุกท่านด้วย
หากผิดพลาดไปจากความเป็นจริง ผมขออภัยไว้นะที่นี้
ขอบคุณบ้านมหาดอทคอม ไม่เหมาะสมประการใดพี่ๆ มาสเตอร์ทั้งหลาย ช่วยติติงด้วยนะครับ
Bookmarks