สิ่งที่เป็นสาเหตุของโรคทั้งปวง มี 4 อย่าง ใหญ๋ ๆ คือ
1. กรรม การกระทำ
2. จิต
3. อุตุ (อากาศ ความเย็น, ร้อน)
4. อาหาร

ธรรมทั้ง 4 ประการนี้ เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรค (สภาพที่เสียดแทง) ต่อร่างกาย ในทางพระพุทธศาสนา มีพระพุทธพจน์ที่ตรัสบอกสาเหตุของโรค ที่เกิดมาจากการกระทำอกุศลของคนเรา เช่น
- ผลแห่งการมนุษย์, ฆ่าสัตว์, ทรมานสัตว์ เป็นสาเหตุทำให้มีอายุสั้น เป็นโรคภัยต่าง ๆ ซึ่งรักษาไม่หาย ซึ่งเกิดกับร่างกายโดยเฉพาะ อย่างเช่นประวัติของท่านปูติคัตตติสสะเถระ มีตุ่มพองขึ้นตามตัวแล้วแตกทำให้ร่างกายเน่า เหมือนโรคฝีดาด หรือโรคเอดส์ในปัจจุบัน, กระดูกในส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของท่าน แตกพรุน ไม่แข็งแรง... พระพุทธเจ้าตรัสถึงสาเหตุแห่งโรคของท่านว่าเป็นเพราะในอดีตชาติ ท่านเคยเป็นนายพรานล่านก ล่านกได้แล้วก็หักปีกหักขาเพื่อไม่ให้นกบินหนีไปได้ แล้วเก็บไว้ในถุง บางครั้งก็ลืมนกบางตัวไม่ตาย แต่ก็ทำให้กระดูกปีกและขา เป็นแผล เน่า...

อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องพระนางโรหิณีในธรรมบท พระนางเป็นโรคทางผิวหนัง ภาษาบาลีใช้คำว่า ฉวิโรโค (โรคทางผิวหนัง น่าจะผิวหนังไม่น่าดู ขรุขระ หรือเป็นปมต่าง ๆ ดุจท้าวแสนปม) ไม่กล้ามาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์รับสั่งให้มาเฝ้าแล้วทรงตรัสถึงอดีตกรรมให้ฟังว่า "สมัยหนึ่งพระนาโรหิณี เคยเป็นพระมเหสีของพระราชาพระองค์หนึ่ง เกิดความโกรธ อิจฉาในนางฟ้อนรำที่ใกล้ชิดพระราชา จึงรับสั่งให้คนนำผลหมามุ่ย บาลีใช้ศัพท์ว่า "มหากัจฉุผลานิ" ไปใส่ในที่นอนที่นั่งของนางฟ้อนรำคนนั้น พร้อมด่าทอต่าง ๆ นานา ทำให้หญิงนักฟ้อนผู้นั้นได้รับทุกขเวทนาเพราะพิษแห่งหมามุ่ยนั้น" ผลกรรมนั่นเองเป็นเหตุให้พระนางโรหิณีมีผิวพรรณทราม ขรุขระ เป็นปมต่าง ๆ ในปัจจุบันชาตินี้ ฯ โรคที่น่าจะเทียบเคียงกันได้ในสมัยนี้ก็คือโรคมะเร็ง โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เกิดจากอกุศลกรรมเพราะการฆ่าสัตว์ ทรมาณสัตว์แน่นอน...และอีกหลาย ๆ โรค เกิดมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ คือโรคเอดส์ สัมส่อนทางเพศ, โรคที่เกิดเพราะการไม่ทำกรรม หมายถึงไม่ออกกำลังกาย ทำให้เป็นโรคต่าง ๆ ได้.
มีหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องด้วยอกุศลกรรมที่บุคคลทั้งหลายได้กระทำไว้ บางคนบางท่านเข้าใจว่าการไปโทษกรรมในอดีตไม่น่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แท้จริงแล้วกรรมที่บุคคลกระทำแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปเพียงวินาทีเดียวก็จัดว่าเป็นอดีตกรรมแล้ว เพราะคำว่าอดีตแปลว่าล่วงไปแล้ว คำว่า ล่วงไปแล้วนี้ ไม่ได้กำหนดว่านานแค่ไหน กรรมต่าง ๆ ที่บุคคลกระทำไว้ ไม่ว่าจะเป็น นาทีที่แล้ว ชั่วโมงที่แล้ว วันที่แล้ว เดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว สิบปีที่แล้ว ห้าสิบปีที่แล้ว ร้อยปีที่แล้ว ชาติที่แล้ว.....จัดเป็นอดีตกรรมได้ทั้งนั้น และกรรมที่กระทำไปแล้วนั้นมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อม จะต้องมีผลเกิดขึ้นแน่นอน ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในติกมาติกาบทหนี่งว่า "อุปาทิโน ธมฺมา" แปลว่า สภาวธรรมทั้งหลายที่จะต้องเกิดขึ้นโดยแน่นอน เพราะมีเหตที่จะให้เกิดผลนั้น สำเร็จลงแล้ว. หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า กรรม คือการกระทำทุกอย่าง เป็นสาเหตุของผลที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุนั้น ๆ จะต้องมีปรากฏโดยแน่นอน (องค์ธรรมของอุปาทิโน ธัมมา ได้แก่ วิปากจิต 36 เจตสิก 38 กัมมชรูป 20.) ข้อนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงการตาย การเกิดของมมุษย์-สัตว์ได้ดีอีกด้วย....ฯ

- โรคบางอย่าง หรือหลาย ๆ โรค เกิดมาจากจิต. จิต คือธรรมชาติที่รับรู้อารมณ์ คิดนึกอารมณ์ การรับรู้อารมณ์ของจิต เป็นไปได้ทั้งใน 3 กาล คือ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต (จิตบางชนิดรับรู้ในสิ่งที่ไม่เป็นทั้งอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตก็ได้) เพราะฉะนั้นจิตจึงคิดไปในเรื่องอดีตก็ได้ ในเรื่องขณะปัจจุบันนี้ก็ได้ และคิดนึกไปในเรื่องอนาคตก็ได้. และจิตที่คิดนึกไปต่าง ๆ นั้น บางครั้งก็เป็นกุศล บางครั้งก็เป็นอกุศล และจะเป็นมากด้วยตามวิสัยของปุถุชน. ความที่จิตคิดโดยไร้เหตุผล โดยปราศจากสติสัมปชัญญะเข้าควบคุม บางครั้งก็ทำให้จิตคิดเลยเถิด นั่นแหละบ่อเกิดของโรคที่เกิดทางจิต คนที่วิกลจริต จิตฟั่นเฟือน หรือเรียกว่า เป็นบ้า เพราะควบคุมการคิดไม่ได้ ไม่มีสติสัมปชัญญะ ทำไปได้ทุกอย่างตามที่จิตคิดออกมา โดยวิสัยของปุถุชนแล้วท่านบอกว่ามีภาวะของความเป็นบ้า หรือมีจิตฟั่นเฟือน ด้วยกันทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีสติสัมปชัญญะในการควบคุมมากกว่ากัน. จะเห็นได้ว่าคนทีวิกลจริต จิตเภท มีอยู่ในสังคมมากมาย และที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ การคิดฆ่าตัวตาย. การคิดฆ่าตัวตาย ก็เป็นโรคที่เกิดทางจิต ส่วนมากเป็นจิตโกรธที่ไม่สามารถระงับได้ จิตที่ประสบความทุกข์อย่างแสนสาหัส แล้วไม่มีทางออก คือไม่มีสติป้ญญาแก้ไขได้ ดังนั้นการฝึกฝนจิต อบรมจิตให้มีสติปัญญา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด (จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้, จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ จิตที่คุ้มครองดีแล้ว นำสุขมาให้, เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา ผู้ที่สำรวมจิตได้ จะพ้นจากบ่างแห่งมาร)
เชื่อหรือไม่ว่า โรคมะเร็งอาจมีสาเหตุมาจากจิตก็ได้ บุคคลที่มีจิตโกรธ มีจิตเศร้าหมองอยู่เป็นประจำ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ เพราะอะไร ? ก็เพราะว่า โรคมะเร็งบางอย่างที่มีสภาวะเป็นเนื้อร้ายที่เกิดในจุดต่าง ๆ ของร่างกายนั้น เนื้อร้ายที่ลุกลามอาจเกิดมาจากยจิตที่เศร้าหมอง เพราะเมือใดก็ตามที่จิตเศร้าหมองเกิดขึ้น จะมีรูปชนิดหนึ่งเกิดขึ้นตามมาด้วย นั่นคือจิตตรูป (รูปที่เกิดจากจิต) จิตที่เศร้าหมองคือจิตที่เป็นอกุศล รูปที่เกิดมากด้วยก็เป็นรูปที่เกิดจากจิตที่เป็นอกุศล รูปที่เกิดจากจิตที่เห็นได้ชัดคือ วรรณรูป คือ สีต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าคนโกรธ หรือคนร้องไห้ คนที่มีจิตใจเศร้าหมอง ใบหน้าจะคล้ำ ไม่ผ่องใส คนที่เศร้าหมองบ่อย ๆ จะมีจุดจ้ำด่างดำขึ้นตามร่างกาย นั่นคือสีแห่งผิวพรรณที่เกิดมาจากจิตที่เศร้าหมอง บางอย่างมีผลกระทบต่ออวัยวะร่างกายภายในได้ เช่นคนวิตก กังวล เครียด อาจเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคปวดศีรษะ นอนไม่หลับก็เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคอ้วน เป็นต้น...ฯ เหล่านี้คือโรคที่เกิดมาจากจิต มีจิตเป็นสมุฏฐาน.

- อุตุ ฤดู ความเปลี่ยนแปลงของอากาศ หนาวเกินไป ร้อนเกินไป ชื้นเกินไป ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคได้ อีกประการหนึ่ง อุตุที่อยู่ภายในร่างกายก็เป็นสาเหตุแห่งโรคได้ ความเย็น ร้อนในร่างกายที่ปรับไม่สมดุลกับความเย็นร้อนในภายนอกไม่ทัน ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น หวัด แพ้อากาศ บางครั้งฝุ่นละอองที่มาในอากาศ บริเวณที่มีอากาศเป็นพิษ มีกาซต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากเกินไป ก็ทำให้เป็นโรคต่าง ๆ ได้ และที่สำคัญควันที่มาจากบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งในปอด ที่ปัจจุบันนี้หน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่.....ฯ

- อาหาร โรคที่เกิดจากอาหารนี่ เป็นเรื่องใหญ่เลย แทบจะทุกชนิด ต้องมีอาหารเข้าไปร่วมด้วยเสมอ ตั้งแต่โรคที่ฮิตกันในปัจจุบันคือ โรคอ้วน ไขมันมากเกินไป เป็นเหตุให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคความดัน โรคเบาหวาน มะเร็ง โรคหัวใจ ... โรคที่เกิดจากอาหารเป็นพิษ ดื่มสุราเป็นอาหาร, สูบบุหรี่เป็นอาหาร ....พุทธศาสนา ให้รู้จักคำว่า "โภชเน มัตตัญญุตา" คือรู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร และให้รู้ด้วยว่า สิ่งใหนบริโภคเข้าไปแล้วมีผลเสียต่อร่างกาย ก็ให้หลีกเลี่ยงเสีย เท่านี้ก็ทำให้เราปราศจากโรคที่มีสาเหตุมาจากอาหารได้.......ฯ

แหล่งที่มา http://www.bds53.com