-
ศึกษาหาความรู้
....ฟุ้งซ่าน...
โรคของคนเก่ง คือ....ฟุ้งซ่าน...
โลกและชีวิต มีคนเก่ง ๆ มาปรึกษาด้วยอาการฟุ้งซ่านมากขึ้น
ส่วนมากจะเรียนเก่งหรือทำงานเก่ง หน้าที่การงานดี
มีอนาคตแต่ในชีวิตส่วนตัวไม่ค่อยมีความสุขเลย
เริ่มตั้งแต่นอนไม่หลับติดต่อกัน กังวล คิดมาก
คิดซ้ำซากกลัวว่าจะอ่อนเพลีย ก็เลยรู้สึกอ่อนเพลียจริง ๆ
ทุกครั้งอารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย พวกนี้มีความคิดที่มากเกินปกติ
คิดตลอดเวลา ขยันหาข้อมูลความคิดมาใส่สมองทั้งจากอินเตอร์เน็ต
สิ่งพิมพ์ การสัมมนา ทีวี การสนทนา ฯลฯ
สมองจึงเต็มไปด้วยข้อมูลที่มากจนล้นสมองออกมา
บางคนรู้ว่าควรจะลบ (delete) ข้อมูลออกจากสมองบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะลบอย่างไร
แถม...กลับไปได้ ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมมาเพิ่มเติมใส่สมองเข้าไปอีก
นี่คือวงจรชีวิตของคนที่เรียนเก่งหรือทำงานเก่ง
ที่มักคิดฟุ้งซ่านที่พบได้มากขึ้นในทุกวันนี้
พวกนี้มักมีสมองซีกซ้ายทำงานดี
ชอบคิดในแนวหาเหตุผล วิเคราะห์ วิจารณ์ได้เก่ง
และพวกนี้มักใช้สมองซีกขวาเพื่อความสุนทรีย์
การจินตนาการที่ดี ความรัก มิตรภาพ ศิลปะ ความงามได้น้อย
ข้อแนะนำง่าย ๆ สำหรับพวกฟุ้งซ่าน ก็คือ
1. หาเวลาฝึกสติ ทำสมาธิทุกวัน
จะเป็นการกรองความคิดที่ไม่เหมาะสมออกไป
และลดการปรุงแต่งอารมณ์ อยู่กับปัจจุบัน ทำให้คิดฟุ้งซ่านน้อยลง
2. ออกกำลังกายแบบไม่คาดหวังผลให้มากขึ้น
ทุกวัน ๆ ละ 45 นาที เช่น การวิ่ง แต่เลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน
3. ฝึกการนอนอย่างมีสติและมีความสุข
หลีกเลี่ยงการทำให้สมองและร่างกายตื่นตัวก่อนนอน
เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือสนุก ดูหนังเร้าใจก่อนนอน
ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่คิดเรื่องงาน
- รู้จักการนอนอย่างปล่อยวาง
คือทำจิตให้ว่างก่อนนอนโดยการหายใจลึก ๆ ช้า ๆ
จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกรูจมูก
และตั้งจิตบอกกับตัวเองว่าจะนอน – หลับ – พัก – ผ่อนเสียที
- เมื่อนอนหลับได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่ากังวล
ถ้าหลับลึก ๆ 4 – 5 ชั่วโมงพอแล้ว ตื่นขึ้นมาให้ทำท่ากระฉับกระเฉง
บอกกับตัวเองว่าโชคดีที่ตื่นขึ้นมาได้
วันนี้คงพบสิ่งอื่น ๆที่น่าสนใจมากขึ้นบ้าง
4. ลดกิจกรรม “วิเคราะห์” ลงบ้าง ปล่อยกาย – ใจ –
และความรู้สึก ให้สบายมากขึ้น บอกตัวเองว่าต้องการความสุข
รู้จักการพอ ยอม และไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น
ถ้าวิเคราะห์มากมักจะจับผิดเก่ง ทั้งตัวเองและสิ่งรอบตัว
คนเก่ง ๆ ที่ฟุ้งซ่านมีมากขึ้น ที่มาปรึกษาก็มาก หลาย ๆ คนดีขึ้น
บางคนต้องใช้ยาช่วยหรือใช้จิตบำบัด
จงเก็บพลังความคิดที่ดี ๆ ไว้ใช้อย่างสร้างสรรค์เถิด
ถ้ามีความคิดมากไปตลอดเวลาเข้าข่ายฟุ้งซ่าน
จะเป็นอุปสรรคในการทำงาน และจะเป็นโรคจิต โรคประสาทได้
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ (จิตแพทย์)
ที่มา...คัดลอกจาก...http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_05325.php/เวปธรรมจักร.เน็ต/บ้านมหา.คอม
-
แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
บ่ได่ฟุ้งซ่านเด้อลุงใหญ่ แค่เพ้อฝันท่อนั้นเอง อิอิอิ
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks