กำลังแสดงผล 1 ถึง 7 จากทั้งหมด 7

หัวข้อ: อาลัยโนนมะขาม ตอน2

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ หยก ยโสธร
    วันที่สมัคร
    Jan 2013
    ที่อยู่
    ซ.ลาซาล บ้านเกิด อ.คำเขื่อนแก้ว
    กระทู้
    174

    อาลัยโนนมะขาม ตอน2

    อาลัยโนนมะขาม ตอน2 จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมา และสิ่งเร้นลับ ตามที่ได้เกริ่นไว้ครับ

    เดิมทีโนนมะขามแห่งนี้จะมีต้นมะขามใหญ่อยู่คู่กัน 2 ต้น ปู่ของผมเกิดมาก็เห็นเลย น่าจะอายุราวๆ 2-3 ร้อยปีน่าจะได้
    อีกต้นที่ถูกตัดไปก่อนหน้านี้ จะเกิดอยู่ทางทิศตะวันออกของต้นที่เหลืออยู่ โดยเกิดอยู่ห่างกันออกไปประมาณ 60 เมตร

    เหตุใด ต้นมะขามใหญ่อีกต้น ที่มีขนาดไล่เลี่ยกันจึงถูกตัด อาลัยโนนมะขาม ตอน2 เรื่องมีอยู่ว่า
    .... เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2529 ก่อนที่ผมจะเกิด 2 ปี ชาวบ้านต่างสนุกสนานรื่นเริงกับงานบุญบั้งไฟซึ่งจัดขึ้นในหมู่บ้านของผมเอง
    แต่มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง อายุราว 30 กว่าๆ มีอาการโศกเศร้าเสียใจ เพราะว่าผิดหวังจากคนรัก
    เขาผู้นั้นมีชื่อว่า "สมาน" นายสมานคนนี้ได้ดื่มเหล้าเมามาย และก็บ่นให้กับเพื่อนในวงเหล้าในฟังทำนองตัดพ้อ น้อยใจในโชคชะตา
    เพื่อนๆในวงเหล้าก็ได้แต่ปลอบว่าอย่าคิดมาก

    หลังจากเสร็จจากงานบุญบั้งไฟได้ 1 วัน ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านสังเกตุว่านายสมานไม่กลับมาบ้าน จึงได้ออกตามหา
    ข่าวนายสมานหายตัวไปได้แพร่สะพัดออกไป มีการวิพากวิจารย์กันต่างๆนาๆ
    ลุงคำพา น่าจะเป็นคนที่พบนายสมานเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่เขาจะหายตัวไป
    ลุงคำพาบอกว่า เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งเป็นวันแห่บั้งไฟ เขาปั่นจักรยานกลับจากทุ่ง และได้พบกับนายสมานในระหว่างทาง
    " สิไปใสล่ะหมานเอ้ย คือได้ถือขวานกับเชือกไปนำ" ... นายสมานไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้าเดินต่อไป
    ลุงคำพาก็ไม่ได้เอะใจ แกก็ปั่นจักรยานกลับบ้านตามปกติ

    หลังจากชาวบ้านได้เบาะแสจากลุงคำพา ก็ต่างแยกย้ายกันออกตามหา ตามทางที่นายสมานมุ่งน่าไปตอนที่เจอกับลุงคำพา
    แต่ตามหาทั้งวันก็ไม่พบ เลยแยกย้ายกันกลับบ้าน

    เช้าวันต่อมา ซึ่งก็เข้าวันที่ 4 แล้วที่นายสมานหายตัวไป ครอบครัวของป้า และพ่อแม่ของผมก็ไปทุ่งนาตามปกติ
    ในระหว่างที่นั่งกินข้าวเช้าอยู่นั้น รู้สึกได้กลิ่นเหม็นโชยมาเป็นระยะๆ ลุงผมคิดว่าเป็นกลิ่นสุนัข หรือไก่ตายอยู่แถวนั้น
    พอกินข้าวอิ่ม ลุงได้เดินหาที่มาของกลิ่นนั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเจอ "ขวาน" วางอยู่ไต้ต้นมะขามใหญ่
    ลุงผมพอจะนึกออกว่าที่มาของกลิ่นมาจากใหน เลยเดินเข้าไปไต้ต้นมะขาม
    สังเกตุเห็นน้ำบางอย่างหยดลงมาจากต้นมะขาม จนทำให้พื้นดินที่น้ำตกกระทบเป็นแอ่ง และมีน้ำนองอยู่ก้นแอ่ง
    ซึ่งก็คือน้ำเหลืองของนายสมานนั่นเอง เนื่องจากตายมาหลายวันแล้ว

    "แม่คร .. แม่คร ตะหมาน ตะหมาน ตะหมานผูกคอตาย" ลุงผมร้องเสียงหลงตะโกนบอกป้า ขณะที่สายตายังไม่ละจากเบื้องบนของต้นมะขาม
    "หา ว่าจั่งได๋เกาะพ่อมึง มาส่างเว่าไปทั่วแท้" เสียงป้าผมตอบมาพร้อมกับวางมือจากการล้างถ้วย แล้ววิ่งมาดู
    "พากันไปเอิ้นผู้ใหญ่บ้าน แล้วกะบอกพี่น้องไทบ้านออกมาไป" ลุงผมกล่าว

    เมื่อชาวบ้าน และพระสงฆ์มาถึง ก็ได้ทำพิธีและเอาร่างนายสมานลงมา ปรากฏว่าคอเกือบขาดแล้ว เนื่องจากโดนเชือกรัดมาหลายวัน
    หลังจากงาน..พนายสมานผ่านไป ชาวบ้านได้ช่วยกันตัดต้นมะขามต้นนี้ลง ตามความเชื่อของชาวบ้าน เลยทำให้เหลือเพียงต้นเดียว
    ตั้งแต่นั้นมา โนนมะขาม จากที่รู้จักในนามโนนที่มีต้นมะขามใหญ่ 2 ต้นคู่กัน ยิ่งทำให้คนรู้จักมากขึ้นไปอีก
    บางคนก็เรียก "โนนมะขาม" บางคนก็เรียก "โนนตาหมาน"

    *************************************************

    เรื่องราวของสิ่งเร้นลับที่โนนมะขาม ที่ชาวบ้านได้เจอมา ก็มีมากมายหลายเรื่อง
    แต่ผมจะขอพูด แค่ในสิ่งที่ผมและแม่ได้เจอมากับตัว เท่าที่จำได้ ก็แล้วกันนะครับ

    ราวเดือนเมษายน ปี 2546 แม่ผมไปเลี้ยงวัวกลางทุ่งคนเดียว สังเกตุเห็นวัว ... (บ้านเฮาเอิ้นงัวอยากเซิง)
    ก็เลยตอกหลักล่วมวัวให้แน่นกว่าปกติ แล้วเผลอนอนหลับไปไต้ต้นมะขามใหญ่ข้างเถียงนา
    เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น มีหมาดำตัวใหญ่ กระโดดลงมาจากต้นมะขาม วิ่งไล่เห่าวัวตัวที่แม่ผมผูกไว้
    จากนั้นมีชายผมยาว นุ่งชุดขาวเดินอ้อมมาจากอีกด้านของต้นมะขาม พร้อมกับพูดว่า
    "อีนาง... อีนางเอ้ย ลุกแหมะหล่า งัวมึงถอนหลักแลนนำงัวแม่แล้ว"ทันใดนั้น แม่ผมสดุ้งตื่นจากฝัน นึกได้ว่าฝันเห็นวัว เลยมองหา เห็นวัวหลุดจากหลักกำลังวิ่งไปทางท้ายทุ่ง
    ถ้าไม่ตื่นตอนนั้น ไม่รู้จะตามหาวัวเห็นหรือปล่าว

    ราวปี 2548 หน้าเกี่ยวข้าวเดือนพฤษจิกายน หลังจากใส่บ่วงดักหนูเสร็จ (บ้านเฮาเอินใส่แห้ว)
    ผมกับเพื่อน 3-4 คน ก็พากันเป๊กเหล้าขาวรอ ตามประสาวัยรุ่น ในระหว่างนั้นก็มีการสุมไฟใล่ยุงด้วย
    พอดีกรีเริ่มได้ที่ ก็พากันเคาะขวด เคาะแก้ว เคาะถังน้ำ ซึ่งสถานที่ก็คือโนนมะขามนั่นแหละ
    จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงเที่ยงคืน จึงพากันมานอนที่บ้านผม เพราะอากาศหนาว
    ....ราวตีสองเศษๆ ผมสังเกตุเห็นเพื่อนผมคนหนึ่ง นอนครางอยู่ในลำคอ ครางเหมือนร้องให้ เหงื่อออกท่วมตัว
    " สัน...สัน ... สันหมอ โตเป็นหยัง" ผมปลุกเพื่อน พร้อมกับเขย่าให้ตื่น
    " ย่านแล้ว ย่านแล้ว บ่ไปอีกแล้ว " เพื่อนผมสะดุ้งตื่น พร้อมกับร้องเสียงหลงออกมา
    " อีหยังล่ะคูบา มึงย่านหยังล่ะ " ผมถามเพื่อน
    " พ่อใหญ่โนนขามมาฮ้ายกู ใส่ชุดขาว ผมยาวๆมานั่งทับหน้าอกกูไว้ ฮ้องกะฮ้องบ่ออก ตีงคีงกะบ่ได้...
    เพินวาเฮาไปสุมไฟ ฮ้องใส่หูเพิน เพินหนวกหู อย่าพากันไปอีกจั๊กเทือ"
    เพื่อนผมกล่าวเสียงสั่น

    เดือนตุลาคม 2552 ก่อนที่ผมจะจบการศึกษาระดับ ปวส. วันนั้นมีคอหวยจากต่างตำบล
    มีความประสงค์อยากจะไปทำพิธีขอหวยจากต้นมะขามต้นนี้ เขาได้มาทาบทามเจ้าของที่นาให้ไปด้วย
    ผมจึงมีโอกาศไปกับป้าของผม รวมทีมงานทั้งหมดที่ไปกันคืนนั้น ประมาณ 8 คน
    ที่ผ่านมาก็มีคนไปขอบ่อยๆ จนทำให้โคนต้นมะขามเต็มไปด้วยรอยถาก และผ้าหลากสีผูกตามกิ่งก้าน
    ก็มีถูกบ้าง บางครั้งก็ถูกกิน ตามประสาคอหวย
    ตี 2 เศษ .... พิธีขอหวยก็เริ่มขึ้น
    " เห็นอิหยัง หรือได้ยินเสียงหยังกะอย่าตื่นอย่าท้วงเด้อ " ชายลักษณะเหมือนหมอธรรมกล่าว
    มีการสวดมนต์ ถากเปลือกต้นมะขามออก เอาเทียนลน เอาแป้งลูป
    ในระหว่างนั้นจู่ๆก็เกิดลมแรงพัดมา มีบางสิ่งบางอย่างตกลงมาจากต้นมะขาม กะทบพื้นดินดังตุ๊บ
    มองไปตามเสียง เห็นเงาตะคุ่มๆคล้ายคน เพียงไม่กี่อึดใจ เงาดำนั้นได้วิ่งฝ่าป่าข้าวหนีไปกับความมืด



    ************************************************************
    .... เรื่องแนวนี้ มันกะแล้วตะไผสิเซือบ่เซือเนาะครับ ผมกะเห็นมากับโต กะเลยกล้าเว่าสู่พี่น้องเฮาฟัง
    บางสิ่งบางอย่างมันกะเป็นเรื่องบังเอิญ บางเทือกะคึดไปเองเนาะครับ
    ซุมื่อนี้บ่ย้านแล้วครับผีหลอก คนหลอกเป็นตะย้านหลายกว่าหลายเท่า ว่าบ่ครับ อาลัยโนนมะขาม ตอน2 อาลัยโนนมะขาม ตอน2 อาลัยโนนมะขาม ตอน2 อาลัยโนนมะขาม ตอน2
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยก ยโสธร; 29-04-2013 at 01:43.

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •