กิ น อ ย่ า ง ไ ร...จึงจะมีสุขภาพดี
อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา : บรรยาย
จิรวิทย์ ศุภนันทกานต์ : เขียน/เรียบเรียง
โรค เป็นธรรมชาติที่ร่างกายถูกเบียดเบียนให้เกิดทุกขเวทนาทางกาย
ผู้ไม่มีปัญญาบำบัดกาย บำบัดใจด้วยธรรมชาติ
ก็กลายเป็นโรคกาย-โรคใจ ทุกข์กายแล้วจะทุกข์ใจเพิ่มขึ้น
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า
“ ชาติปิ ทุกฺขา เกิดก็เป็นทุกข์ ชราปิ ทุกฺขา
แก่ก็เป็นทุกข์ มรณมฺปิ ทุกฺขํ ตายก็เป็นทุกข์ ”
ขอขอบคุณ-ขอบใจ อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา
พระ ป.ญาณโสภโณ
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘
๑. กิ น อ ย่ า ง ไ ร จึ ง จ ะ มี สุ ข ภ า พ ดี
ไม่ต้องประหลาดใจเลยว่าชีวิตที่ดำรงกันอยู่ทุกวันนี้
การกินเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย
เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ ทุกข์ทางกายและทุกข์ทางใจ
พูดถึงเรื่องการกิน เป็นความจำเป็นสำหรับการมีชีวิต
เพราะอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นร่างกายนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อยู่สองประการใหญ่ ๆ
หนึ่ง ** คือนำไปบำรุงร่างกาย สร้างการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
สอง **คือทำให้เกิดพลังงาน ให้ร่างกายมีแรงที่จะทำการงานเคลื่อนไหวได้ดี
สองประการนี้จัดว่าเป็นหน้าที่หลักของอาหาร
สารอาหารที่ร่างกายต้องการแบ่งเป็น ๖ หมู่
วันหนึ่ง ๆ ร่างกายต้องการไม่กี่แคลอรี่
ในวันหนึ่ง ตามปกติวิสัยของคนทั่วไป เรากินอาหารกันสามมื้อ ทุกมื้อทุกวัน
เราไม่ได้กินด้วยปัญญา คือไม่ได้กินกันตามทฤษฎีอย่างฝรั่งสอน ตามที่เล่าเรียนกันมา
แต่เรากินกันตามกิเลส กินตามความอร่อย กินตามความอยาก
เวลาเรียนเรื่องการกิน เราเรียนเพื่อเอาคะแนน
แต่ในทางปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เราทำคนละเรื่องกับทฤษฎีที่เล่าเรียนมา
ดังนั้นพวกเราไม่ต้องประหลาดใจเลยว่าชีวิตที่ดำรงกันอยู่ทุกวันนี้
การกินเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย
เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ทางกายและทุกข์ทางใจ
เรากินกันเกินความต้องการของร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดความอ้วน
และความอ้วนก็เป็นต้นเหตุอีกหลายโรค ทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
โรคไขข้อเสื่อม โรคหัวใจ ฯลฯ
บางพวกกินน้อย เลือกกิน กินไม่ครบหมู่อาหาร
ก็เป็นโรคขาดอาหาร ผอมอย่างกับผีตายซาก ร่างกายไม่สมบูรณ์
คนโบราณหรือบรรพบุรุษของเรา ท่านก็สอนเรื่องการกิน
ว่ากินอย่างไรจึงจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
โดยคนโบร่ำโบราณจะสอนว่าให้กินตามมีตามเกิด
คำว่า กินตามมีตามเกิด คือกินสิ่งที่เกิดขึ้นที่มีตามฤดูกาลนั้น ๆ กินสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
ความเจริญทางโลกวันนี้ ทำให้เรากินผิดไปจากที่คนเก่าคนแก่สอน
ผลไม้มาจากแดนไกลเราก็หากินได้ ผลหมากรากไม้นอกฤดูกาล เราก็ทำกินกันได้
การกินจึงไม่ได้กินอย่างตามมีตามเกิด
แต่เป็นการกินอย่างที่อยากจะกินต้องได้กิน จึงมีคำกล่าวที่น่าสนใจกล่าวว่า...
อาหาร เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
กินง่าย หากินก็ง่าย ทำให้เป็นคนอยู่ง่าย
แต่...รสชาติของอาหาร เป็นอาหารของกิเลส
การปรุงแต่งเป็นไปตามกิเลส เพื่อสนองกิเลส ทำให้เป็นคนอยู่ยาก กินยาก
(มีต่อ)...........
อาหารการกินทุกชนิดประเภทที่เรากินกัน
พิจารณาดี ๆ ล้วนเกิดมาแต่ดิน กินเข้าไปก็เพื่อบำรุงธาตุดินในเรือนกาย
กินเข้าไปอยู่ในท้องไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องกลับไปลงดินอย่างเก่า
แล้วพืชก็ดูดกลับไปสังเคราะห์กลับมาเป็นอาหารให้เรากินเข้าไปใหม่
วนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เนื้อวัวที่ราคาแพงที่สุดในโลกเห็นจะเป็นเนื้อวัวโกเบของญี่ปุ่น
กิโลกรัมละเป็นหมื่นบาท
เขาก็เลี้ยงมันด้วยหญ้าที่โตมาจากดิน
จะบำรุงบำเรอสารอาหารวิเศษอะไรให้กิน
สารอาหารนั้น ๆ ก็มาจากดินทั้งสิ้น
เนื้อวัวในเมืองไทย กิโลกรัมละร้อยสองร้อยบาทมันก็กินหญ้าเหมือนกัน
ดังนั้นสารอาหารที่มีในเนื้อวัวโกเบ
กับสารอาหารที่มีในเนื้อวัวไทยมันคือสารอาหารชนิดเดียวกัน
ให้ประโยชน์กับร่างกายเท่ากัน
เหตุที่อยากกินเนื้อโกเบ เป็นเพราะ กิเลสมันสั่งให้กิน
ใครที่อยากจะกินเนื้อโกเบ ก็ต้องทำงานหนักกว่าคนที่กินเนื้อวัวของไทย
ต้องหาเงินมากกว่า ทำงานมากกว่า
ความอร่อยของอาหารที่เกิดจากการปรุงแต่ง
ให้เปรี้ยว ให้หวาน ให้มัน ให้เค็ม ให้พิสดารอย่างไร
เมื่อตักเข้าปากมันอร่อยอยู่ตรงลิ้น พอกลืนผ่านลิ้นก็ไม่รู้รสแล้ว
ตกถึงท้องอยู่ได้ไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง ร่างกายก็ขับถ่ายออกมาหมด
กินมื้อละหมื่นก็ถ่าย กินมื้อละยี่สิบสามสิบบาทก็ถ่าย
ทำอย่างไรให้การกินของเราแต่ละวัน เป็นการกินที่มีปัญญา
มีสติระลึกได้ว่าเราจะกินเพื่อบำรุงร่างกายให้ทรงอยู่ได้ในแต่ละวัน
เป็นไปเพื่อประโยชน์ของร่างกายจะไม่กินไปเพื่อให้เกิดทุกข์แก่กาย
การกินเราจะไม่กินเพื่อไปหล่อเลี้ยงกิเลสตัณหา
กินไปเพื่อเบียดเบียนสัตว์โลกที่เป็นเพื่อนทุกข์เพื่อสุขของเรา
ท่านอยากรู้ว่ากินอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี
ขอให้อ่านในหน้าต่อ ๆ ไป
ซึ่งจะเป็นสาระที่มาจากการบรรยายของ ท่านอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา
นักธรรมชาติบำบัดที่ท่านได้มาบรรยาย
ให้ชมรมรักษ์ธรรมของแฟรี่แลนด์ฟัง
อ่านแล้วอยากมีสุขภาพดีต้องไปทำรับประทานกันด้วย
(มีต่อ)
เครดิต : http://www.dhammajak.net/บ้านมหา.คอม
Bookmarks