10 ข้อควรคิดก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

ก่อนจะซื้อบ้านแต่ละที เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องเจอกับปัญหาน่ากลุ้มตอนตัดสินใจเลือกซื้อบ้านกันทั้งนั้น เพราะบางครั้งเมื่อตัดสินใจซื้อไปแล้ว อาจต้องเจอเข้ากับสภาพบ้านที่ไม่คุ้มราคาที่ควรจะเป็น หรือมีปัญหาอะไรผิดแปลกไปจากความต้องการ ซึ่งบางคนก็โชคดีหน่อย รู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่ยังเดินดูสภาพบ้านอยู่ ส่วนใครโชคร้ายหน่อย อาจมารู้เอาตอนที่เสียเงินซื้อไปแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับคุณ ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง ก็ควรคำนึงถึง 10 ข้อควรคิดก่อนตัดสินใจซื้อบ้านเหล่านี้


1. คำนึงถึงการใช้งาน

อย่าคิดง่าย ๆ ว่าแค่บ้านสวยก็พอแล้ว ลองนึกดูสิว่าหากอยู่ไปนาน ๆ แล้วทำอะไรไม่สะดวก ต่อให้สวยแค่ไหนก็คงไม่มีความสุขหรอกนะ นึกภาพสิถ้าหากคนรักความเป็นส่วนตัวอย่างคุณ ต้องมาจัดห้องทำงานรวมกับห้องนั่งเล่น หรือมีห้องนอนอยู่ชั้น 4 ทั้งที่ขี้เกียจเดินแทบตาย ก็คงไม่ไหวใช่ไหม คุณจึงควรเลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเข้าไว้จึงเหมาะสมที่สุด

2. พุ่งความสนใจไปที่แปลนห้อง

เป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าของบ้านและนายหน้าทั้งหลาย มักพยายามประโคมเฟอร์นิเจอร์เข้ามาแต่งบ้านให้ดูหรูเริ่ดเอาไว้ก่อน เพราะมันจะช่วยพรางตาจากสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งความเก่าของตัวบ้านได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ของพวกนี้มาทำคุณไขว้เขว แต่ควรเลือกบ้านจากโครงสร้างของมัน เพราะบ้านไม่เหมือนเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถซื้อเปลี่ยนได้ตลอด การซ่อมแซมหรือต่อเติมบ้านนี่ยากกว่าเป็นไหน ๆ เลยล่ะ

3. ถามรายละเอียดขณะดูแบบแปลน

ไม่เห็นจะแปลกเลยถ้าคุณจะดูแบบแปลนบ้านแล้วไม่เข้าใจ ในเมื่อคุณไม่ได้จบสถาปัตยกรรมมาเสียหน่อย คนเราจะรู้ไปหมดทุกเรื่องได้อย่างไรกัน รู้แบบนี้เมื่อดูแบบแปลนบ้านแล้วนึกภาพตามไม่ออกว่าประตู หน้าต่าง ตำแหน่งไหนน่าจะเป็นอย่างไร ก็อย่าลังเลที่จะถามเพื่อความแน่ใจของตัวเอง การเขินอายที่จะถามในสิทธิ์ที่ควรรู้ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ง่าย ๆ เพราะความเกรงใจของคุณ

4. มั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องจ่ายแพงในอนาคต

ตอนนี้คุณอาจยังไม่ได้คิดถึงเรื่องค่าไฟในแต่ละเดือน แต่เมื่อบิลมาถึงบ้านคุณอาจเปลี่ยนใจก็ได้นะ และมันก็คงสายเกินไปแล้วแน่ ๆ หากคุณยังไม่รู้ว่าแปลนบ้านมีผลกับอุณหภูมิในบ้านแค่ไหน โดยบ้านที่มีเพดานต่ำหรือสูงเกินไป อาจส่งผลให้เครื่องทำความเย็นต้องทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม จนค่าไฟแพงสุด ๆ ไปเลยก็ได้ ดังนั้นสำรวจให้แน่ชัดก่อนว่า เพดานบ้านมีขนาดสูง-ต่ำ พอดีกับตัวบ้านหรือไม่ และมีการติดฉนวนกันความร้อนไว้บ้างหรือยัง

5. อย่ากะเกณฑ์ขนาดเอาเอง

แค่มองด้วยตาไม่ช่วยให้คุณรู้แน่ชัดหรอกว่าห้องไหนมีขนาดกว้างยาวเท่าไหร่ ดีไม่ดีถ้าคิดจะขนเฟอร์นิเจอร์เก่าของตัวเองหรือซื้อที่เล็งเอาไว้มาตั้ง อาจใหญ่เทอะทะขึ้นมาก็ได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะคิดซื้อบ้าน ต้องเลือกแบบที่มั่นใจว่าจะจุของที่ต้องการได้หมด และลองวัดขนาดให้แน่ใจก่อนซื้อเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง

6. วางแผนเอาไว้เลย

การออกแบบตกแต่งจะได้ผลดีที่สุด เมื่อคุณวางแผนเอาไว้แต่เนิ่น ๆ ว่าต้องการจะตกแต่งด้วยธีมไหน ใส่เฟอร์นิเจอร์อะไรเข้าไปบ้าง ซึ่งการจะทำแบบนั้นต้องคำนึงถึงขนาดห้องด้วยแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นวางแผนไว้ก่อนว่าจะวางอะไรตรงไหนบ้าง และลองวาดรูปคร่าว ๆ ดูว่าน่าจะออกมาเป็นแบบไหน จะได้รู้ว่าพื้นที่พอเอามาทำแล้ว จะดูดีหรือเปล่า

7. คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก ๆ

บางบ้านอาจต้องจำใจเปลี่ยนจากรถสปอร์ตเป็นรถคันใหญ่ที่เหมาะกับครอบครัว การซื้อบ้านก็ไม่ต่างจากการซื้อรถที่ต้องคำนึงถึงลูก ๆ เป็นอันดับแรกด้วยเหมือนกัน เช่น บันไดที่ปราศจากราวจับ รวมทั้งบ้านที่ไม่มีรั้วกั้นตรงชั้นลอย อาจทำให้เด็กเจ็บตัวเอาง่าย ๆ ถ้าชอบจริง ๆ ก็คงต้องตกแต่งเพิ่มเสียหน่อย อ้อ...ถ้ามีประตูกระจกใสที่เห็นไม่ถนัดก็ควรติดสติ๊กเกอร์เอาไว้ให้รู้ด้วย

8. ทำเลก็สำคัญ

หากไม่ถูกใจคุณสามารถเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ หรือถ้าอยากได้พื้นที่เพิ่มก็ยังต่อเติมได้อีก แต่หากทำเลบ้านไม่ดีล่ะก็ ยังไงคงต้องซื้อใหม่สถานเดียว ดังนั้นควรเลือกที่ซึ่งเดินทางได้สะดวก ใกล้กับที่ทำงานและโรงเรียนของลูก ๆ รวมทั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่เปลี่ยวจนเป็นอันตรายก็ยิ่งดี ที่สำคัญหากได้เพื่อนบ้านดีชีวิตก็คงง่ายขึ้นด้วย ดังนั้นลองดูทำเลให้แน่ใจ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาหาที่ใหม่อีก

9. สำรวจเงินในกระเป๋าก่อน

ตั้งงบเอาไว้ก่อนเลยว่า คุณวางแผนจะจ่ายเงินซื้อบ้านสักเท่าไหร่ จะได้ไม่ปล่อยให้ความอยากมาล่อใจจนเผลอซื้อบ้านแแพงเกินตัว เพราะการต้องมาตามจ่ายหนี้ที่หลัง มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด แถมเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมายังไม่มีเงินหมุนอีกต่างหาก ดีไม่ดีบ้านที่อุตส่าห์ผ่อน อาจหลุดไปได้เลย และอย่าลืมเผื่องบเอาไว้สำหรับตกแต่งบ้านก้อนนึงด้วย

10. พาสมาชิกครอบครัวไปดูด้วยกัน

ถ้าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว แต่คิดจะพาครอบครัวไปอยู่ด้วยกัน ถึงเวลาเซ็นสัญญาและดูบ้าน ก็ควรจะพาทุกคนไปด้วยกัน พวกเขาจะได้ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้คุณได้ และคุณจะได้รู้ความต้องการของพวกเขาด้วยว่าพอใจกับบ้านที่คุณสนใจแล้วหรือยัง เพราะความต้องการของทุกคนในบ้านย่อมสำคัญเท่ากันหมด


ทั้งนี้ เพื่อให้ได้บ้านสวยถูกใจที่สุด อย่าลืมสำรวจความเก่าใหม่ของบ้าน ด้วยการเช็กตามท่อน้ำ และตามระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ว่ามีปัญหาหรือไม่ด้วย เท่านี้ก็จะสบายใจหายห่วงไปได้เยอะแล้ว เตรียมตัวควักกระเป๋าซื้อของชิ้นใหญ่กันได้เลย

แหล่งที่มา http://home.kapook.com