อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน

[IMG]อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน[/IMG]

1 - เตือนกินไส้กรอก-แฮม มากๆ เสี่ยงมะเร็ง
ใครชอบทานไส้กรอก แฮม เบคอน บ้างเอ่ย? เรารู้ว่า อาหารประเภทนี้เป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะหาซื้อง่าย กินง่าย แถมยังอร่อย แต่รู้ไหมว่า ในเนื้อสัตว์แปรรูปแสนอร่อยเหล่านี้มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โซเดียมไนไตรท์" ผสมอยู่ ซึ่งสารชนิดนี้มีอันตรายต่อสุขภาพแน่นอน หากรับประทานมากเกินไป


สำหรับวัตถุเจือปนอาหารที่ระบุไว้นั้น คือ สารโซเดียมไนไตรท์ ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์จำพวกไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม กุนเชียง หรือไส้กรอกเปรี้ยว โดยสารนี้เป็นผลึกสีขาว คล้ายน้ำตาลทราย ใช้สำหรับผสมอาหารประเภทเนื้อสัตว์หมัก เพื่อคงสภาพสีและกลิ่นของไส้กรอก ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะไว้ได้นาน แต่หากได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณมากเกินไปก็มีอันตรายเช่นกัน เพราะเมื่อสารชนิดนี้ไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีในเนื้อสัตว์ อาจก่อให้เกิดโรคชนิดเฉียบพลัน และโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคมะเร็ง

เมื่อสอบถามไปยัง ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ก็ทราบว่า การบริโภคอาหารประเภทนี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดพิษเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการที่ไนไตรท์ทำปฏิกิริยาขึ้นในร่างกาย แล้วเกิดเป็นกรดไนตรัสขึ้นมา เมื่อลงไปในกระเพาะอาหาร พอเวลาที่เราทานอาหารประเภทโปรตีนเข้าไป ตัวกรดไนตรัสจะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีน เกิดเป็นไนโตรซามีน ซึ่งไนโตรซามีนเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ หากเราทานอาหารที่มีไนไตรท์สะสมเข้าไปนานๆ สารนี้จะค่อยๆ ทำปฏิกิริยาไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง

ทั้งนี้ ในหลาย ๆ ประเทศไม่ได้ห้ามการใช้สารไนไตรท์ในอาหาร เพียงแต่ต้องใช้ในปริมาณที่ระบุไว้ตามกฎหมาย เช่น ในประเทศเกาหลี ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 70 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ขณะที่ในสหภาพยุโรป ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 150 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ส่วนประเทศไทย มีข้อบังคับว่า ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 125 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม


อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน

เพื่อเป็นการตรวจสอบว่า ผลิตภัณฑ์จำพวกไส้กรอกที่วางขายอยู่ในท้องตลาด มีปริมาณไนไตรท์อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ ทีมข่าวไทยพีบีเอส จึงได้ร่วมมือกับคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทดสอบปริมาณสารไนไตรท์ที่ตกค้างอยู่ในไส้กรอก โดยสุ่มตัวอย่างจากไส้กรอกที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด และหน้าโรงเรียน

ภายหลังการทดสอบ พบว่า มีปริมาณไนไตรท์ตกค้างอยู่ในไส้กรอกประมาณ 100 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ซึ่งแม้ว่าตัวเลขนี้จะไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 125 มิลลิกรัม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ


อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มกลัวแล้วว่า เราจะยังสามารถทานไส้กรอกได้หรือไม่ ซึ่ง ผศ.ยุพร พีชกมุทร ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร สจล. ก็ได้ให้คำแนะนำว่า เราสามารถทานอาหารจำพวกนี้ได้ แต่อย่าทานต่อเนื่องทุกวัน เพราะหากไม่ได้รับประทานอาหารประเภทนี้บ่อยๆ การสะสมของไนไตรท์ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย




อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน


กินไส้กรอก เบคอน แฮม ปริมาณมากๆ นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังอาจเกิดพิษต่อร่างกาย ขออนุญาตแบ่งปันความรู้จาก Samitivej Club ครับ^^
ระวัง อาหารที่ทำให้ขาดออกซิเจน !!

Methemoglobinemia เป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารบางประเภทในขนาดที่สูงและก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายมากเกินกว่าที่ร่างกายจะกำจัดได้ อาการที่เกิดจะรุนแรงตามระดับสารพิษที่เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่อ่อนเพลีย มึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นแรง หอบ หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว เต้นผิดจังหวะ การหายใจถูกกด ชัก ช็อก ซึม หมดสติ และมีอาการเขียวอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

สารพิษที่เกิดขึ้นนั้นไปเปลี่ยนสภาพเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถปล่อยก๊าซออกซิเจนไปส่งตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกายได้ทั้งที่ภายในเลือดมีออกซิเจนอยู่

ดังนั้น หากรักษาไม่ถูกทาง ไม่ว่าจะพยายามให้ออกซิเจนไปมากเท่าไรก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กได้ การรักษาที่ถูกต้องต้องรีบลดสารพิษในร่างกายและให้ยาต้านพิษเฉพาะเพื่อเร่งการกำจัดสารพิษ หลังให้ยานี้เข้าทางเส้นเลือด เด็กจะมีอาการดีขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง

อาหารที่ต้องระวัง คือ อาหารประเภทที่มีสารไนไตรท์ (ดินประสิว) ซึ่งเป็นสารที่ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร ทำให้สีของเนื้อสัตว์เป็นสีแดงชมพูสวยน่ารับประทาน เช่น ในไส้กรอก เบคอน แฮม แหนม กุนเชียง เนื้อเค็ม นอกจากนี้ยังใช้เป็นสารกันบูดในอาหารหลากหลายชนิด

ผู้ปกครองควรแนะนำให้เด็กหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว เลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา เพราะนอกจากจะทำให้เด็กสะสมพิษร้ายในร่างกายจนอาจถึงแก่ชีวิตแล้ว สารดังกล่าวยังไปแปรเปลี่ยนสภาพร่างกายภายในก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วยค่ะ












เครดิต :
http://vcharkarn.com/varticle/43844
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้วันสุข โดย พญ.ปราณี เมืองน้อย สถาบันสุขภาพเด็ก
แห่งชาติมหาราชินี และ สสส.
http://www.baanmaha.com/community