ปาดดดรูปอ้ายว่าแม่นผุ้บริหารฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆเบิ่งไปเบิ่งมาคือหมอลำชิ่งคือกันเด้เนาะอ้าย
ผมคลุกคลีกับงานการขายมาพอสมควร เห็นว่างานขายเป็นงานที่สามารถสร้างรายได้อย่างไร้ขีดจำกัด ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงอยู่ในตัว หากขายไม่ดีหรือไม่เข้าใจธรรมชาติของลูกค้าในละแวกนั้นว่าต้องการอะไร
สมัยเป็นหนุ่มผมขายลูกโป่งสวรรค์ในงานวัด หลังจากเด็ก ๆ ได้ลูกโป่งทั่วถึงแล้ว ก็จะนำลูกอม ประกอบด้วย ฮอลล์, สเปน (ลูกอมเลียนแบบฮอลล์ (ฮอลล์ปลอม)), โอเล่, หมากฝรั่งตรานกแก้ว, บุหรี่, หมากหอมเยาวราช, ยาอมโบตัน ใส่ตระแกรงพลาสติก เอาไฟฉายคล้องคอ ส่องขายฝ่าผู้คนที่นั่งดูหนังดูหมอลำในงาน
ยิ่งถ้ามีมวยด้วย วันนั้นรับเละ กดราคาบุหรี่มวนละ 2 - 5 บาท ก็ยังมีคนซื้อ เพราะปกติสนามมวยจะอยู่ห่างจากหนังจากหมอลำและล้อมผ้าอีกต่างหาก หากไม่ซื้อผมก็คงต้องเดินออกไปซื้อข้างนอก เชื่อเถอะ ไม่มีใครออกมาหรอก
วันหยุดก็ขึ้นโคก นำบุหรี่ และข้าวกล่องไปขายให้กับวงไพ่วงไฮโล ข้าวกล่องก็จะมาสั่งกล่องละ 10 บาท เวลาขาย ๆ กล่องละ 20 บาท ขายได้แม้แต่ยำมะม่วง ทั้ง ๆ ที่เขาเหล่านั้นนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะม่วงแท้ ๆ
จนกระทั่งย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ งานขายที่ผมจับงานแรกคือรับผ้าไหมมาจาก อ.ชนบท มาขายให้กับเจ้านาย ตอนแรก ๆ ก็ยังไม่สนิทกับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ก็ให้น้อง ๆ ที่ทำงานอยู่ก่อนที่เป็นผู้หญิง นำไปขายให้และคิดกำไรให้ ปรากฎว่าขายได้ในระดับหนึ่ง
ต่อมาพี่ที่ทำงานขายรองเท้า รับมาจากสุพรรณบุรีราคาส่ง 40 บาท ส่งให้ผมคู่ละ 50 บาท หลังเลิกงานผมเอาไปขายแบกะดินคู่ละ 69, 79 แถว ๆ สามแยกไฟฉาย
ในการหาทำเลอยู่ ๆ ก็ใช่ว่าจะนำไปวางได้เลย เพราะไม่รู้ว่าเจ้าที่แถวนั้นแรงหรือไม่แรง ผมใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ไปซื้อขนมที่ร้านขนมหวาน และบอกว่าผมมีรองเท้าอยากจะนำมาวางขายข้าง ๆ เขาบอก...เอาซี...นำมาวางข้าง ๆ นี่แหละ วันรุ่งขึ้นผมกลายเป็นพ่อค้าขายรองเท้าทันที
ตอนแรกก็เขิน แต่พอมีคนหยุดดูเราก็อธิบายสรรพคุณ บางคนก็ดึง บางคนก็ลองสวมใส่ สุดท้ายก็ไม่ซื้อ ไม่มีสีนั้นไม่มีสีนี้ ใหญ่ไปหลวมไป คับไป เล็กไป สารพัดที่จะติ เพื่อที่จะบอกว่า "เขาไม่ต้องการซื้อ" (ก็แค่นั้นเอง)
ยิ้มเข้าไว้ ซื้อหรือไม่ซื้อก็กล่าวขอบคุณไว้ก่อน หรือยื่นคำถาม "ได้อะไรมาบ้างครับเยอะแยะเลย" ผมกำลังจะพูดถึงการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี วันนี้เขาไม่ซื้อ วันหน้าเขาต้องซื้อ
น้าน...เขาเดินย้อนกลับมา และบอกว่าขอซื้อ 2 คู่ เพื่อที่จะเอาไปให้แม่ด้วย "โอ้...น้องใส่แล้วสวยดีครับ ถ้าซื้อไปให้แม่ ๆ ต้องชอบแน่เลย" ตอแหลเข้าไป
จนกระทั่งได้เข้ามาสู่ระบบขายตรงแบบเครือข่าย ก็ทำอยู่ระยะหนึ่ง มีลูกทีมหลายร้อยคน ทำไปทำมาลูกทีมหายบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แย่งลูกค้ากันบ้าง
"พี่พลครับ...ผมนัดลูกค้าไว้ที่ดอนเมือง พาผมไปชวนเขาหน่อยผมชวนไม่เป็น...พอไปถึงกำลังตั้งวงเหล้ากันอยู่ ลูกทีมเราก็ผสมโรง สรุปว่าวันนั้นเมาทั้งผมและลูกทีม"
"พี่พลขา คนนั้นขายลดราคา เพื่อจะเอายอด...คนนั้นขายเงินผ่อน...ลูกค้าคนนั้นรับสินค้าไปแล้ว จนป่านนี้ยังไม่จ่ายตังค์เลยค่ะ หนูขอยืมตังค์พี่พลไปซื้อสินค้าหน่อย ลูกค้าสั่ง"
ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูง และจะต้องมีเวลาทุ่มเทให้กับมัน ใครที่บอกว่าไม่ต้องใช้เวลามาก ไม่ต้องขายสินค้า ไม่ต้องสาธิตสินค้า ไม่ต้องทำอะไรเลย (แล้วพระเดชพระคุณจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายตรูวะเนี่ย !)
นี่คือระบบแชร์ลูกโซ่แบบเงินต่อเงิน มีสินค้าไม่กี่ตัว อุปโลกคนขึ้นมาบอกว่าได้เดือนละแสนได้เดือนละล้าน บางคนสูญเสียเงินทองเหลือแต่ผ้าขาวม้าผืนเดียว พวกนี้จะเปลี่ยนบริษัทไปเรื่อย ระวังจะตกเป็นเหยื่อ นะจ๊ะ ๆ
แต่ถ้างานขายตรงแบบเครือข่ายที่ถูกหลักแล้วจะต้องจดทะเบียนกับสมาคมขายตรงแห่งประเทศไทย มีสินค้าที่หลากหลาย สินค้าเชื่อถือได้ มีความยุติธรรม มาก่อนได้หน้ามาช้าได้ใจ โอ๊ะ...ไม่ใช่ ...มาก่อนมาหลังตำแหน่งสามารถแซงกันได้ มีอิสระในการทำงาน และอื่น ๆ
ถามว่าที่เขาบอกว่า รวย ๆ ๆ ๆ ๆ นั้น รวยจริงไหม......ตอบว่า...รวยจริง...ถ้าคุณทำได้ หลังจากทำมาระยะหนึ่ง ตัวท่านเองก็จะรู้ว่าท่านทำได้หรือไม่ได้ ซึ่งการจะเป็นนักขายที่ดีนั้น กูรูขายตรงได้แบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. มีทัศนคติที่ดีต่องานขาย สินค้า และลูกค้า การมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพที่คุณทำ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของทุกอาชีพ ซึ่งงานขายนั้นถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนและใจรักสูง
2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท สินค้าที่ขาย คู่แข่ง การรู้จักศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของทั้งตัวเองและคู่แข่งถือว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการขายได้มากขึ้น
3. มีความสามารถในการขายตามขั้นตอนของการขาย การเปิดการขาย การเสนอขาย การขจัดข้อโต้แย้ง การปิดการขาย
4. ทำงานอย่างทุ่มเท เพราะงานขายเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถของตัวคุณเองล้วนๆ เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับความขยันหรือความทุ่มเทของคุณเองด้วย
5. งานขายเป็นงานที่คุณจะอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องมีความกระตือรือร้นในการขายตลอดเวลา
6. รู้จักควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้ได้ เพราะแต่ละวันคุณต้องเจอลูกค้าต่างๆ มากมาย
7. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หากใครคิดว่างานขายเป็นงานที่ไม่ต้องใช้สมอง ขอบอกว่าคุณคิดผิดถนัด หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ คุณคงไม่สามารถหากลยุทธ์ต่างๆ มาขายสินค้าได้แน่ๆ
8. มีบุคลิกภาพที่คนอยากเข้าหา นั่นคือ บุคลิกของคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ ไม่สร้างความอึดอัด หรือความลำบากใจให้กับคนอื่นๆ เพราะอาชีพคุณเป็นอาชีพที่ต้องเจอคนเป็นหลัก
9. มีสุขภาพกายและจิตดี เหมาะสำหรับรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างเคร่งเครียด กดดัน และวุ่นวายในแต่ละวันกับการต้องพบปะลูกค้าหรือว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆ
10. มีอุปนิสัยที่คนชอบ นั่นคือนิสัยที่คนอยากอยู่ใกล้ เป็นกันเอง ร่าเริง สนุกสนาน หรือมีน้ำใจ ใครๆ เห็นก็ย่อมยินดีเปิดประตูหรืออ้าแขนรับคุณแน่ๆ
ผมหันหลังให้กับขายตรงมาหลายปี ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่เอาเป็นว่าไม่เหมาะกับผมมากกว่า ฉะนั้นใครที่คิดจะชวนผมไปเป็นลูกทีม ใสเจีย เสียใจ ไม่ต้องไปชวนผมให้เสียเวลา
ผมว่าอาชีพที่เหมาะกับผม น่าจะเป็นดีเจบ้านมหาดอทคอมนี่แหล่ว.. แม้ว่าไม่ได้ค่าจ้างเงินเดือน แต่ได้ความสุขใจ ทำในสิ่งที่ชอบ ชอบในสิ่งที่ทำ สิ่งนี้ต่างหากที่ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้...อ๊ะ...จริ๊ง ๆ :,1-:,1-
...........................
พล พระยาแล .....
![]()
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พล พระยาแล; 15-11-2013 at 00:01.
ปาดดดรูปอ้ายว่าแม่นผุ้บริหารฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆเบิ่งไปเบิ่งมาคือหมอลำชิ่งคือกันเด้เนาะอ้าย
คือมาใส่ชุดคือแท้
มาสมัครนำแหน่ลูกค้าทันได่มีเลย ขาดขายุ
ป้าดดด ไส่สูตรปานว่าไปขายเครื่องกรองน้ำ 5555 ...
เอ้า ขายหยังกะขายเนาะ ว่าแต่เป็นงานสุจริต อย่าไปตั๋วกันเด้อ ห้ามเว่าความจริงเคิ่งเดียว 555
ป๊าดดด ประสพการณ์ทำงานหลายคักเนาะอ้ายพล สงสัยเงินเดือนแสนแปด
ฉันลูกแม่ค้าเก่าคะ ขายผัก ของหวาน ของคาว ไม่ว่างจะแผงลอย รถเข็น หาบขาย
ขายซอยแม่ตั้งแต่ 11 ขวบ ตลาดบางบอน ตลาดปิ่นทอง ตลาดน้ำวัดไทร
ประสพการณ์น้อยเงินเดือนหมื่นสอง แฮ่ะๆ
สุดยอดประสบการณ์การขายครับอ้าย....แต่งโตหล่อๆสิคาตะจีบสาวละม้าง![]()
มีคนพาเข้าไปศูนย์ของAmwayหลงเคลิ้มยุดนเติบ เบิ่งแล้วบ่คือกะเลยออกมา ของแพงจักสิไปขายให้ไผ..สโลแกนเพิ่น ซื้อสินค้าใช้ก่อนแล้วค่อยแนะนำคนอื่นให้ซื้อตาม..
จริง ๆ แล้วขายตรงก็คือการที่เราเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเราเองจากการใช้สินค้าของท้องตลาดมาเป็นของที่เราทำธุรกิจอยู่ครับ ส่วนการขายสินค้านั้นเป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น
ความยั่งยืนและยาวนานอยู่ที่การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เริ่มจากตัวเรา ๆ ๆ ๆ ๆ ก่อน และคน ๆ ๆ ๆ ๆ อื่น ๆ ๆ ๆ
นั่นคือการที่เราทำหน้าที่การตลาด กระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคนั่นเอง เป็นเจ้าของ (บริหารองค์กร) ค้าส่ง (ซื้อสินค้าในราคาทุน) ค้าปลีก (ขายสินค้าสู่ผู้บริโภค)