สวัสดีจ้าธุจ้าพี่น้องบ้านมหาทุกท่าน
เอื้อยขออนุญาตนำบทความเกี่ยวกับการเรียนแพทย์ในอเมริกาที่เขียนโดย
คนไกลบ้านมาฝากสำหรับผู้ที่สนใจเด้อจ้า
เคล็ดไม่ลับของการเรียนหมอในอเมริกา
จะให้ดีคุณต้องเป็น Top One/Two Percent in the Class
ชอบวิชา ชีววิทยา กับ เคมี ตอนอยู่ชั้นมัธยมปลาย คุณต้องอ่านหนังสือได้เร็วมาก มีความจำชั้นยอด พูดคำเดียวรู้เรื่อง จบชั้นมัธยมปลาย เกรดคุณอย่างน้อย ๓.๕ จาก ๔.๐๐ หมายความว่า คุณมีโอกาศได้ C มาตัวเดียว นอกนั้นเป็น A or B หมด คะแนน ACT ควรจะได้ อย่างน้อย ๓๐
จบปริญญาตรีก่อน สาขาวิทย์หรือศิลป์ก็ได้ แต่ต้องเรียน Pre Med สองปี วิชาที่บอกว่าคุณจะเรียนหมอได้นั้น คือวิชา Bio Chem เพราะจะวิชาที่ชี้ทางความเป็นความตายของคุณ (weed out) คนเรียน Bio Chem แล้วเปลี่ยนใจ เปลี่ยนสาขามีมากมาย
เกรดเฉลี่ยต้องได้อย่างน้อย ๓.๕ จาก ๔.๐๐ เช่นเดียวกับการเรียนชั้นมัธยม อย่าได้ C เป็นเด็ดขาด ผมเจอเด็กไทยมาเรียนที่นี้ จบมหาวิทยาลัยด้วยคะแแนน ๓.๘ ตอนนี้เธอเรียนเภสัชอยู่ ยอดเยี่ยมมาก สอบ MCAT อย่างน้อย ๓๑ ถ้าได้ต่ำกว่าก็ลืมได้เลย (ในวีดีโอ อาจารย์ปรึกษาผู้หญิง บอกกับนักศึกษาว่าถ้าเขาได้คะแนน MCAT 38 เธอจะแก้ผ้าวิ่งรอบโรงเรียนให้เลย ได้คะแนนขนาดนั้น คุณเกือบจะทำไม่ผิดแม้แต่ข้อเดียว โอกาศจะเป็นไปได้ มีหนึ่งในแสนกระมัง) เสียเงินค่าสมัครเปล่าๆ ส่วนมากคนสมัคร ๑๐๐ คน จะรับเข้าเรียน ๕ คน (คะแนนเท่าๆกัน) ต้องทำงานอาสาสมัคร แสดงให้โรงเรียนเห็นว่าหัวใจของคุณเป็นคน ไม่ใช่จะเป็นหมอเพื่อเงิน ต้องอาสาสมัครทำงานกับหมอกับโรงพยาบาล เขาจะได้รู้ว่าคุณเห็นเลือดแล้วจะไม่เป็นลมไปเสียก่อน ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐประมาณ $20,000 ของเอกชน $30,000 ต่อปี ค่าหอ ค่ากินอยู่เท่ากัน $10,000 ต่อปี รวมค่าใช้จ่ายสี่ปีประมาณ $120,000 ของรัฐ $160,000 ของเอกชน
ถ้าคุณโชคดีโรงเรียนรับคุณ คุณจะต้องเข้าเรียนโรงเรียนแพทย์ อีก ๔ ปี ค่าเล่าเรียน รวมค่าหอ ค่ากิน ของรัฐ $50,000 ของเอกชน $60,000 ต่อปี ถ้าคุณไม่มีเงิน ขอทุน และขอยืม จากรัฐบาลได้ จบแล้วค่อยมาใช้ ดอกเบี้ย 5 - 6 เปอรเซนต์ ถ้าคุณไม่มีเงินจริงๆ รัฐอาจจะให้ทุนคุณเรียนฟรี กว่าจะจบ คุณจะต้องใช้เงิน สองแสนเหรียญสำหรับโรงเรียนรัฐบาล สองแสนห้าหมื่นเหรียญสำหรับโรงเรียนเอกชน
ตอนคุณจบหมอคุณจะเป็นหนี้ หรือพ่อแม่คุณต้องจ่ายแทนประมาณ สามแสนเหรียญของโรงเรียนรัฐบาล สี่แสนเหรียญสำหรับโรงเรียนเอกชน เอาสามสิบคูณเป็นเงินไทย ก็ประมาณ เก้าล้าน ถึง สิบสองล้านบาทไทย
พอคุณเรียนจบ ฝึกงานอีก ๓ ปี ตามโรงพยาบาล คุณจะได้เงินเดือนปีละ สามหมื่นเหรียญ คุณจะต้องทำงานหนักมาก อาจจะต้องเข้าเวร สองคืนสามวัน โดยไม่ได้นอนเลย เป็นเครื่องพิสูจน์ความอดทนของคุณ คุณจะต้องอาศัยเงินเดือนของภรรยาหรือสามีมีช่วยเหลือคุณ อย่าลืมคุณยังติดหนี้รัฐบาลอยู่สามแสนถึงสี่แสนเหรียญ (ใช้เวลาผ่อน สิบถึงยี่สิบปี)
ฝึกงานเสร็จแล้วไปศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางอีก ๓ ถึง ๕ ปี เช่น หมอโรคภูมิแพ้อาจจะไปศึกษาต่อที่โคโลราโด สามปี แต่ถ้าจะเป็นหมอผ่าตัด ใช้วิชาอีกห้าปี ตอนนี้ คุณมีรายได้ประมาณ สามหมื่นเหรียญต่อปี คุณจะเริ่มเห็นแสงสว่างแห่งชีวิตแล้ว
รวมเวลาการศึกษาทั้งหมด ๑๔ - ๑๖ ปี
พอเริ่มทำงานมีรายได้
Find out what you're worth. Start survey.
People with Doctor of Medicine (MD) Degrees
Median Salary by Job
Job
National Salary Data (?)
$0 $80K $160K $240K
General Surgeon $225,000
Pediatrician, General $95,000
Family Physician / Doctor $164,311
Country: United States | Currency: USD | Updated: 1 Nov 2011 | Individuals Reporting: 18
Add to your site |
Share|
inShare
1. Doctors and Surgeons
Ron Levine/Stone/Getty ImagesAverage annual salary: $168,650-$234,950
Current employment: 618,000+
Doctors and surgeons are usually at the top the list when it comes to the highest paid occupations in the country.
Like others on this list, becoming a doctor or surgeon requires extensive education and training. Doctors are required to have four years of undergraduate education, four years of medical school and between three and eight years of an internship and residency, depending on their specialization or area of surgery.
The salaries of doctors also vary greatly by concentration: Anesthesiologists are the highest paid workers of 2011 at $234,950, while other high paying medical positions include surgeons ($231,550), OB/GYNS ($218,610), and oral and maxillofacial surgeons ($217,380).
Salaries also fluctuate based on location. For example, Arkansas is the top paying state for family and general practitioners ($215,500) with Iowa ($213,460) and Nevada ($204,990) ranking second and third.
According to the BLS, self-employed physicians who own or are part owners of a medical practice generally have higher incomes than salaried physicians
อยู่ได้อย่างชิลๆ
แต่ถ้าไม่ชิลๆ ก็ต้องกลับไปกินส้มตำที่เมืองไทยครับ
ผมเจอคุณหมอคนไทยที่นี่เพิ่งเกษียณเคยทำงานสามแห่ง เป็นหมอสูติ มีเงินมากมาย ตอนไปเที่ยวอลาสก้ากับผม บอกเสียดายไม่รู้ว่ามาเที่ยวพักผ่อนนี้มันสนุกอย่างนี้ คุณหมอสอนผมว่าชีวิตตอนนี้ สุขภาพสำคัญที่สุด ให้รักษาไว้ให้ดี คุณหมอมีลูกสาวเป็นหมอเด็กเหมือนกัน จ่ายค่าเล่าเรียนให้หมด
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย คนบ้านไกล
ขอบคุณแหล่งที่มา : Go to now
โดยคนไกลบ้าน
Bookmarks