เตือนดื่ม "ชานมไข่มุก" เสี่ยงมะเร็ง-อ้วน-แก่เร็ว

เตือนดื่ม "ชานมไข่มุก"
เสี่ยงมะเร็ง-อ้วน-แก่เร็ว

"ชานมไข่มุก" เครื่องดื่มสุดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย ที่หารับประทานกันได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จนกระทั่งริมสองฝั่งถนน เพราะเป็นเครื่องดื่มเย็น มีหลากรสชาติให้เลือกสรร ทั้งกาแฟ หรือชารสผลไม้ต่าง ๆ ที่มีรสชาติหอมหวาน อีกทั้งยัง "เคี้ยว" ได้อย่างเพลิดเพลิน และสนุกปากไปกับ "เม็ดไข่มุก"

ผู้บริโภคบางรายนิยมดื่ม "ชานมไข่มุก" โดยเฉลี่ยตั้งแต่วันละ 1 แก้ว ไปจนถึงหลายแก้วต่อวัน จนลืมคำนึงถึง "ภัยร้าย" ที่แฝงตัวมา หรือเรียกกันว่า "โรคอ้วน"

หากดูส่วนผสมหลักของ "ชาไข่มุก" จะประกอบด้วย ชา ครีมเทียม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน ไข่มุก และผงเครื่องดื่มสำเร็จรูป ที่แต่งกลิ่นและรส อาทิ กลิ่นแอปเปิ้ล ส้ม องุ่น ลิ้นจี่ เป็นต้น

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือหมอผิง ผอ.สถาบันความงาม โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง และเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ อธิบายถึงเรื่องนี้ "ชานมไข่มุก" เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งสมองของคนเรา หากถูกอาหารใดกระตุ้นด้วยความหวาน ความมัน หรือความเค็ม สมองจะชอบใจในอาหารนั้น ๆ และเข้าใจไปว่าอาหารนั้นอร่อย ก็ยิ่งทำให้อยากจะหามารับประทานบ่อย ๆ และยิ่งถ้ามี "กาเฟอีน" ผสมอยู่ด้วย ก็จะยิ่งทำให้สมองติดใจได้ง่ายขึ้นไปอีก

"หมอผิง" ยังเปรียบเปรยว่า กระแสการเกิดของตลาด "ชานมไข่มุก" และ "ร้านกาแฟ" ทั่วทุกมุมตึกของเมืองไทย ทำให้ชวนคิดว่า คนไทยขี้เซาต้องปลุกตัวเองตื่นด้วยฤทธิ์ของกาเฟอีน และน้ำตาล อีกทั้งยังมีการโฆษณาชวนเชื่อที่ผิด ๆ ในการบริโภคชา นมไข่มุกว่าเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ลดความอ้วนได้ แท้จริงแล้วรับประทาน "เกาเหลา" ทั้งชาม ยังอ้วนน้อยกว่าเสียอีก เนื่องด้วยแคลอรีในชานมไข่มุกแต่ละแก้ว มีความแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ 200 กิโลแคลอรี ไปจนถึง 400 กิโลแคลอรี

แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ ปริมาณน้ำตาล ที่มีตั้งแต่ 8 ช้อนชาต่อแก้ว ไปจนถึง 11 ช้อนชาต่อแก้ว ทั้งที่วันหนึ่งเราไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินกว่า 6 ช้อนชาในผู้หญิง และ 9 ช้อนชาในผู้ชาย อีกทั้งปริมาณไขมันอิ่มตัวจากนม ที่ใส่รวมอยู่ด้วย บางสูตรใช้ครีมเทียม ซึ่งมี "ไขมันทรานส์" ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพยิ่งกว่าไขมันชนิดอื่น นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็น "โรคหลอดเลือดหัวใจ" ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ "โรคมะเร็ง" อีกด้วย

ส่วน "เม็ดไข่มุก" ก็คือ "แป้ง" เพราะทำจาก "มันสำปะหลัง" ต้มกับ "น้ำตาล" ให้แคลอรีตั้งแต่ 2-4 กิโลแคลอรีต่อเม็ด อีกทั้งยังไม่มีคุณค่าทางสารอาหารหรือสารต้านอนุมูลอิสระใดๆ

รู้เช่นนี้ผู้นิยมชมชอบจะเสียเงินหลายสิบบาทเพื่อซื้อ "ชานมไข่มุก" 1 แก้ว ที่ให้พลังงานเกือบจะเทียบเท่าข้าว 1 จาน น้ำตาลที่เกินเกณฑ์กำหนดต่อหนึ่งวัน ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ คาร์โบไฮเดรต และกาเฟอีน อีกหรือไม่

การบริโภค "ชานมไข่มุก" จึงเป็นสูตรสำเร็จที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ 3 ประการ คือ อ้วน แก่ และเสพติด






รายงานพิเศษ/ข่าวสดออนไลน์, 30 ต.ค.2556