หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 11 ถึง 20 จากทั้งหมด 24

หัวข้อ: ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ ปลูกเอง สีขายเอง

  1. #11
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว

    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว

    มีเรื่องเกี่ยวกับการทำนาปลูกข้าวที่ผมอยากนำมาเล่าให้ฟังนะครับ ขออาศัยกระทู้นี้ก็แล้วกัน ไม่ได้หวังแอบอ้างอะไร

    เป็นเรื่องที่ผมเห็น เป็นเรื่องที่ผมเฝ้าสังเกตุดู ศึกษาไปด้วยว่าถ้าเราได้ทำนาจริงเราจะทำได้ไหม สู้แดดสู้ฝนได้ไหม
    จะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง จะแก้ไขได้อย่างไร คุ้มค่าพอกับการที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือไม่ ฯลฯ

    พี่คนของหัวใจพูดถึงเรื่องข้าวปลูก ข้าวพันธุ์ หรือเมล็ดพันธุ์ข้าว ทำให้ผมอยากนำมาเล่าแลกเปลี่ยกับพี่น้องผู้อ่าน

    ผมสะดุดใจมากเมื่อเห็นข้าวที่เพื่อนบ้านคนหนึ่งปลูกได้ เขาเอาข้าวเปลือกมาฝากไว้ที่บ้านแม่บอกว่าฝากไปร่วมบุญประทายข้าว
    แม่ยายบอกว่าข้าวเขาปนมากและมาขอแลกพันธุ์กับแม่ ผมตักเอาถ้วยเล็กๆ ลองเอาไปสีเป็นข้าวกล้อง ผลอย่างที่เห็นในภาพ
    เอาไปขายโรงสีไม่รับซื้อทำได้แค่เก็บไว้กิน


    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว

    เขาบอกว่าเขาปลูกข้าวหอมมะลิ พอสีแล้วมันเป็นแบบนี้
    ขัดเป็นข้าวขาวกินได้ตามปกติ ผมลองแล้วความนุ่มรสชาดก็ไม่เหมือนข้าวหอมมะลิสักเท่าไหร่ ค่อนข้างแข็ง

    เรารอเวลาอยู่ทั้งปีเพื่อจะปลูกข้าวเพียงหนึ่งครั้ง พอปลูกแล้วได้ผลผลิตแบบนี้ ส่วนตัวผมว่ามันไม่คุ้มโดยประการทั้งปวง
    ท่านผู้อ่านท่านที่ทำงานฝ่ายผลิตที่ไหนก็ได้ ถ้าสินค้าที่ท่านผลิตได้คุณภาพตามนี้ ท่านว่าสินค้าของท่านจะขายได้ไหมครับ
    ที่ผมทำงานถูกเคลมเป็นเงินหลายสิบล้านเพียงเพราะลูกค้าพบเส้นผมเส้นเดียวในสินค้าหนึ่งตู้คอนเทนเนอร์นั้น
    ไม่ได้เอามาให้คนเห็นและว่าเจ้าของข้าวนั้นปลูกข้าวได้ไม่ดี เอามาเล่าเพื่อว่าเราจะมีวิธีแก้ไขกันอย่างไร


    ง่ายๆ คือต้องเปลี่ยนพันธุ์ข้าวครับ โดยซื้อพันธุ์ข้าวจากแหล่งผลิตหรือหน่วยงานที่มั่นใจ หนึ่งในนั้นคือหน่วยงานของรัฐ


    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว

    ปีที่ผ่านมาข้าวที่เราผลิตได้ มีข้าวเหนียวปนบ้างสองสามเปอร์เซนต์ ผมไม่ลังเลยอมเสียเงินไปซื้อพันธุ์ข้าวจากศูนย์ใกล้บ้านไปให้
    ในเมื่อผมบอกใครต่อใครว่าผมมีข้าวหอมมะลิพันธุ์แท้ มันก็ต้องแท้จริงๆ

    ผมอยากจะให้พี่น้องผู้บริโภคคนที่ยังไม่เคยได้พิสูจน์ ว่าข้าวหอมมะลิแท้ๆ มันเป็นอย่างไร หุงแล้วเป็นอย่างไร รสชาดเป็นอย่างไร
    ถ้าเขาไม่สามารถเห็นกับตาทุกขั้นตอนการผลิตจนกลายมาเป็นข้าวสาร ก็ต้องทำให้ลูกค้าท่านนั้นได้มั่นใจได้ว่านี่แหละ
    ข้าวหอมมะลิจริงๆ จากหลักฐานเท่าที่เรานำมาแสดงได้ บวกด้วยความจริงใจ ใครลองแล้วชอบก็หาซื้อในแหล่งที่ตัวเองพอใจ
    ในอนาคตผมว่าข้าวหอมมะลิแท้ๆ สำหรับคนไทยจะกลายเป็นสินค้า Direct Sale แน่นอน
    เมื่อมีผู้ซื้อต้องการของแท้ เขาก็จะตามหาซื้อจากแหล่งของผู้ผลิตที่รู้จักหรือมั่นใจได้ ซึ่งวันนั้นหรือวันนี้ใครก็เป็นพ่อค้าข้าวได้
    ข้าวหอมพนมรุ้งก็ต้องปลูกจากดินดำภูเขาไฟย่านบุรีรัมย์ ข้าวหอมทุ่งกุลาก็คือข้าวที่มาจากทุ่งกุลาสี่ห้าจังหวัดของอีสาน
    หรือข้าวหอมนาดินทรายต้องมาจากนาดินทรายจริงๆ บอกข้าวหอมทุ่งกุลาต้องสอบกลับได้ มีลูกค้าเป็นผู้ตรวจสอบ
    มีโซเชียลเป็นผู้คอยให้ข้อมูล และเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ก็ต้องหากลยุทธ์หาข้อดีของตัวเองผลิตสินค้าที่ดีออกมาขาย
    กับการสื่อสารที่สะดวกเห็นภาพในปัจจุบัน การขนส่งที่ไม่ยากนัก การรวมกลุ่มผูกมิตรทางสังคมโซเชี่ยลบวกความจริงใจ
    ธุรกิจการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าก็จะเกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ไม่แน่ใจเลิกซื้อบอกต่อเป็นการตรวจสอบซึ่งกันและกัน
    เมื่อใครคนหนึ่งต้องการข้าวหอมมะลิ เขาคนนั้นก็ควรจะได้ข้าวหอมมะลิจริงๆ

    ไม่ได้หมายถึงการผลิตข้าวหอมโดยรวม เจาะลึกลงมาเฉพาะผู้ที่อยากได้ข้าวหอมมะลิแท้ๆ จริงๆ เท่านั้นนะครับ


    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว


    ผมหวังว่าวันหนึ่งความจริงใจที่ผู้ซื้อผู้ขายมีให้กันจะมีค่ามหาศาล ไม่ว่าจะซื้อขายอะไร



    เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแท้ 100% จากศูนย์พันธุ์ข้าว

  2. #12
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ข้าว กข 15 ในนาข้าวหอมมะลิ

    ข้าว กข 15 ในนาข้าวหอมมะลิ

    ครั้งล่าสุดที่ผมเอาข้าวมาให้ผู้สั่งซื้อ ข้าวในยุ้งตัวเองหมด ผมไปซื้อข้าวเปลือกจากญาติพี่น้องห้ากระสอบปุ๋ย เขาบอกข้าวหอมมะลิ
    ผมเอามาให้ลูกค้าและบอกว่าหลายเดือนแล้วข้าวคงจะไม่หอมแล้วละ แต่จะหุงขึ้นหม้อมากกว่าเดิม หุงง่ายขึ้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร
    แต่ความมาเฉลยตอนที่จะไปขอซื้ออีกครั้งเพื่อจะมาหว่าน เพราะของตัวเองข้าวเหนียวปนเยอะ เขาบอกว่าเป็นข้าวดอ ข้าวสิบห้านะ
    อะไรนะ ความหมายก็คือเป็นข้าวเจ้าไวแสง พันธุ์ กข15 ครับ ไม่ใช่ข้าวเจ้าหอมนาปีขาวดอกมะลิ 105 ตามที่ต้องการ
    ในส่วนการหุงบริโภคไม่ต่างกันไม่มีปัญหาอะไร ข้าวทั้งสองพันธุ์นี้คล้ายๆ กัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนชอบแบบเน้นๆ

    แล้วทำไมไม่ปลูกข้าวหอมมะลิอย่างเดียวให้จบไป ตามชื่อที่ใช้ในการค้าขาย

    จากการสอบถามและเหตุผลที่ผู้ปลูกต้องปลูก ข้าว กข15 เป็นข้าวดออายุสั้นกว่า 105 ต้นเดือน พ.ย. ก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว
    ซึ่งในขณะนั้นราคาข้าวเปลือกยังสูงอยู่ จำเป็นต้องฉวยโอกาสเรื่องราคาที่ดีเอาไว้
    เกี่ยวก่อนหารถเกี่ยวง่ายกว่าไม่ต้องรอคิว หรือบางคนอาจจะทำนารอบสองก็เลือกที่จะใส่หรือปลูกข้าวเจ้าดอ กข15
    และอีกกรณีนาที่สูงน้ำหมดไว ก็อาศัยข้าวอายุสั้น หรือเจ้าของนาบางคนก็อาจจะชอบกินข้าวประมาณนั้นก็เป็นได้

    ที่หมู่บ้านผมรวมทั้งหมู่บ้านทางพ่อตามีคนปลูกข้าว กข15 พอสมควร เหตุผลเรื่องราคาเป็นหลัก
    เวลาไปขายตีเป็นข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวสารมาถึงผู้บริโภคกลายเป็นข้าวหอมมะลิ 100%
    ไม่ผิดเพราะผู้ซื้อผู้บริโภคก็ยินดีซื้อ จะไปคัดแยกทีละกอง โรงสีเดียวมีข้าวสามสี่กอง ข้าวเก่าข้าวใหม่ 15 51 105 ฯลฯ
    คงเป็นเรื่องยากในการจัดการของโรงสีทั้งหลาย และข้าว กข15 ก็ถูกปรับปรุงพันธุ์จากข้าว 105 ทุกอย่างค่อนข้างคล้ายกัน


    ข้าว กข 15 ในนาข้าวหอมมะลิ

    ต้นเดือนพฤศภาคม ที่นาหลายแปลงข้าวขึ้นสูงแล้ว แต่บางแปลงยังไม่ได้หว่าน
    สอบถามจากพ่อตา พ่อบอกว่าเขาหว่านข้าว กข15 นาพวกนี้เขาหว่านและรีบหว่านกันทุกปี
    มารอดูด้วยกันครับว่าเขาปลูกข้าวพันธุ์อะไรกันแน่ เขาจะเก็บเกี่ยวตอนปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายนหรือไม่
    ถ้าเป็นจริงก็แสดงว่าข้าวหอมมะลิที่มีขายอยู่นั้น มีข้าว กข15 ปนอยู่ด้วยแน่นอน



    ข้าว กข 15 ในนาข้าวหอมมะลิ

  3. #13
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ข้าวหอมมะลินาดินทรายจากทุ่งกุลาดีที่สุดในโลก

    ข้าวหอมมะลินาดินทรายจากทุ่งกุลาดีที่สุดในโลก


    ข้าวหอมมะลินาดินทรายจากทุ่งกุลาดีที่สุดในโลก


    คอลัมน์บทความสั้นๆ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อต้นปีนี้ นำมาอ้างอิง
    ซึ่งข้อความก็ตรงกับที่ผมไปเล่าโฆษณาให้ใครต่อใครฟังว่า ข้าวหอมมะลินาดินทรายนั้นหอมนุ่มดีจริงๆ

    ผมสอบถามไปทางศูนย์ว่าสามารถดมพิสูจน์ข้าวให้เราเกษตรกรได้ไหมครับ
    เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ที่ทำงานของพี่คนนี้ตอบว่าได้ครับ
    ให้เขียนเป็นจดหมายยื่นความจำนงถึงผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมตัวอย่างข้าวส่งไปรณีย์มา ไม่มีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
    ปลายปีนี้คงได้พิสูจน์ครับว่าข้าวที่ผมนำไปปลูกจะหอมติดอันดับหนึ่งสองสามหรือไม่หรือจะได้แค่ซีโร่



    ข้าวหอมมะลินาดินทรายจากทุ่งกุลาดีที่สุดในโลก

    มีต่อ

  4. #14
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    เพราะต้องใช้พันธุ์ข้าวจำนวนมากจึงจัดการเรื่องพันธุ์ข้าวได้ยาก

    เพราะต้องใช้พันธุ์ข้าวจำนวนมากจึงจัดการเรื่องพันธุ์ข้าวได้ยาก

    ผมพยายามพูดถึงเฉพาะข้าวหอมมะลิ
    ข้าวหอมมะลิที่ปลูกมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ชื่อ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 แท้ 100%
    ที่ผ่านมาผมบอกใครต่อใครว่าข้าวหอมมะลิจริงๆ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรพอจะมายืนยันคำพูดนั้นได้ ปีนี้มาพิสูจน์กันใหม่

    พูดถึงเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวตั้งแต่ต้น ปัญหาของเกษตรกรหลายๆ ปัญหา เช่นชาวนาไม่ทันเล่เหลี่ยมคนไม่จริงใจ
    บอกว่านี่แหละข้าวหอมมะลิไม่มีปน งอกทุกเม็ดไม่ต้องไปศูนย์ จะไปทำไมอยู่ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เอานี่ไปยี่สิบบาท
    เอาไปหว่านเจอข้าวเก่าไม่งอกบ้าง ข้าวปนเยอะ หรือเป็นข้าวดอ กข15 มีให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ ครับ
    ถ้าผมไม่เชื่อผมไปถึงศูนย์ ใกล้สุดปราสาท สุรินทร์ มันก็จริงอย่างว่าอีก พันธุ์ข้าวกิโลกรัมละ 29 บาทถือว่าแพงเกิน
    ผมมีกำลังแค่ซื้อไปให้ทางบ้านสารคามหว่านกล้าทำนาดำ สี่ถุง หนึ่งร้อยกิโลกรัม 3000 บาท ไม่รวมค่าน้ำมันรถ
    นาพ่อตาปีนี้ก็ปนเยอะ ขายไม่ได้ราคา และจะต้องเอาข้าวในยุ้งที่ปนนี้หว่านซ้ำลงไปอีก สิ้นปีนี้คงได้แค่ 10 บาท

    ผมเคยขนพันธุ์ข้าวมะลิจากศูนย์โคกตูมลพบุรี เมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นราคากิโลกรัมละ 22 บาท ถุงละ 550 บาท
    หว่านครึ่งแปลงนา ปีถัดมาก็ปนอีกเหมือนเดิมครับ ทางบ้านผมสารคามมีแค่ข้าวเหนียวปน ทางเขาพนมรุ้งมีข้าวเมล็ดสั้น
    เยอะมาก ทั้งสั้นเมล็ดแดง แมล็ดขาว เมล็ดยาวแดง ยาวขาว (พูดตามที่เห็นดังตัวอย่างไม่ได้หวังกล่าวให้เสียหาย)



    เพราะต้องใช้พันธุ์ข้าวจำนวนมากจึงจัดการเรื่องพันธุ์ข้าวได้ยาก



    เพราะต้องใช้พันธุ์ข้าวจำนวนมากจึงจัดการเรื่องพันธุ์ข้าวได้ยาก



    การทำนาดำแก้ปัญหาเรื่องพันธุ์ข้าวราคาแพงได้ แต่ก็ต้องเพิ่มค่าจ้างดำหาคนยาก ทำให้ผลต่างไม่โดดเด่นพอจะตัดสินใจได้
    ทำนาหว่านเนื่องจากนาปีทางอีสานบางพื้นที่จัดการเรื่องน้ำไม่ได้ จำเป็นต้องหว่านข้าวให้หนาเข้าไว้ เป็นการคลุมหญ้าไปในตัว
    เช่นนาพ่อตาผมว่าเกือบ 50 กิโลกรัมต่อไร่มั้ง ผมได้แต่เฝ้าสังเกตุดู รำพึงในใจแบบนี้บ้านผมเขาเรียกหว่านกล้า
    เดินดูละแวกนั้น ดังในภาพไม่ได้ต่างกันเลยครับ ทางบ้านผมเรียกอีกว่าหนาเป็นไต
    เจ้าของนาให้เหตุผลว่าเคยหว่านบางกว่านี้ เจอแล้งหญ้าขึ้นไม่เห็นข้าว แทบไม่ได้ข้าวเลย จำเป็นต้องทำแบบนี้
    แล้วหมดค่าพันธุ์ข้าวไปเท่าไหร่ครับ ไม่รู้ไม่มีเงินซื้อหรอก ก็ข้าวในยุ้งนั่นแหละ

    นอกจากจะใช้เมล็ดพันธุ์จำนวนมากแล้ว เมล็ดพันธุ์ที่มากนั้น คุณภาพกับไม่ได้ดีเท่าจำนวน
    ในเมล็ดพันธุ์นอกจากมีข้าวพันธุ์อื่นที่เราไม่ต้องการแล้ว ยังมีเมล็ดหญ้านานาพันธุ์แถมมาอีก
    ในรูปสีดำนั้น เมล็ดหญ้าที่ผมร่อนได้จากข้าวเปลือกสามสิบกิโลกรัม เมล็ดหญ้าเกือบครึ่งกิโลครับ
    ฝนดีฝนมาไม่เป็นไร แล้งเมื่อไหร่จะเป็นโอกาสของหญ้า

    เราต้องจัดการเรื่องเมล็ดพันธุ์ให้ได้ คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจและก็ตรงกับที่มีคนหนึ่งมักพูดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ
    คือโจน จันได หรือพี่โจน จันได นั่นเองครับ เมล็ดพันธุ์พืชทุกชนิดพี่เขาบอกว่าสำคัญต่อมนุษย์ชาติมาก

    ขายข้าวได้ราคาต่ำ ปุ๋ยราคาแพง น้ำมันที่จำเป็นต้องใช้ในการเกษตรก็ถือว่าแพง ค่าไถค่ารถเกี่ยวล้วนแต่แพง
    พันธุ์ข้าวราคานี้ถ้าผมทำนาเองผมก็ว่าแพง จะจ้างดำก็ยิ่งแพง อาชีพการทำนาหันไปทางไหนล้วนติดขัดไปหมด
    เราจะปลดล็อคปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้กับตัวเองได้อย่างไร
    (ทุกอย่างที่ว่าแพงเมื่อเทียบกับปริมาณผลผลิตที่ได้ และราคาขายสินค้านะครับ ถ้าข้าวราคาดีก็ไม่ถือว่าแพง)

    ลดค่าปุ๋ย ลดค่ายา ลดค่าเกี่ยว ลดค่าดำ ลดค่าไถ ลดค่าพันธุ์ข้าว เพิ่มราคาข้าย
    ปัจจัยทั้งหลายนี้ ที่ลดต้นทุนได้บ้างก็อย่างที่พี่คนของหัวใจพูดคือลดค่าปุ๋ย และลดค่าพันธุ์ข้าว
    ทำปุ๋ยและทำข้าวพันธุ์เองครับ ส่วนปัจจัยอื่นๆ เป็นเรื่องที่ชาวนาจัดการไม่ได้เลย ได้แค่ลุ้น
    ถ้าทำข้าวพันธุ์เองได้ ราคาพันธุ์ข้าวที่ 29 บาท ก็จะเหลือเพียง 14-15 บาท ตามราคาข้าวในยุ้ง
    ถ้าทำขายจะได้ถึง 20-25 บาท เป็นมูลค่าเพิ่ม
    ถ้าไม่ใส่ใจเลยข้าวที่รอทั้งปีก็จะมีมูลค่าติดลบดังตัวอย่างข้างต้นนั้น

    การใช้พันธุ์ข้าวที่ดีนอกจากจะได้ข้าวคุณภาพดีไม่มีปนมาสีขายแล้ว ก็ยังขายเป็นข้าวพันธุ์ได้อีก

    มีพี่คนของหัวใจนำหน้าทำพันธุ์ขายแจกสบายไปแล้ว
    มาเริ่มด้วยช่วยกันครับ เพื่อรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิของไทยเราเอาไว้
    เราเน้นขายคุณภาพไม่ใช่ขายปริมาณ
    เมื่อเราปลูกข้าวพันธุ์ที่มีปริมาณผลผลิตต่อไร่น้อย ข้าวต้องคุณภาพดีจึงจะขายได้ราคาดี ได้เงินเยอะ

    รอแต่ให้คนอื่นมาช่วยปรับปรุงพันธุ์ข้าวในนาของเราคงเป็นเรื่องยาก

    ผมซื้อพันธุ์ข้าวไปให้ทางบ้านให้ช่วยปลูกข้าวคุณภาพดีไว้ ปีหน้าผมจะไปซื้อมาให้พ่อตาทำพันธุ์ทางพนมรุ้ง
    ถ้าพ่อตาเปลี่ยนพันธุ์ปีนี้เลย เงินสี่หมื่นไม่รู้จะไปหากู้เงินที่ไหน ทั้งทีรู้ว่าทำแล้วดี


    ทุกหัวข้อที่ว่ามาไม่ได้ว่าใครถูกใครผิดนะครับ ผมเล่าถึงเรื่องที่ผมสังเกตุเห็นและกำลังเรียนรู้ก่อนตัดสินใจ
    และมีอีกหลายอย่างที่เห็นและคิดว่ามันน่าจะถูกปรับปรุงด้วยตัวเราเองเพื่อความอยู่รอดของอาชีพนี้
    และข้าวหอมมะลิก็เป็นข้าวที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ชอบเท่านั้นนะครับ

    มีผู้เขียนผู้วิเคราะห์คำนวณไว้มากมาย อ่านเล่นๆ เปรียบเทียบกันไป คงไม่ถูกหรือผิดทั้งหมด


    และขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นครับ
    (ต้องขอโทษที่ใช้พื้นที่มากไปนิด)



    เพราะต้องใช้พันธุ์ข้าวจำนวนมากจึงจัดการเรื่องพันธุ์ข้าวได้ยาก

  5. #15
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558


    ลองคำนวณกันเล่นๆ ณ วันนี้

    ถ้าปลูกข้าวได้ 10 ตัน ข้าวดีไม่มีปนขายได้กิโลกรัมละ 15 บาท เป็นเงิน 150,000 (แสนห้าหมื่นบาท)
    ข้าวมีปน ขายได้ราคากิโลกรัมละ 13 บาท เป็นเงิน 130,000 (แสนสามหมื่นบาท)
    เงินหายไปเฉยๆ 20,000 สองหมื่นบาท
    ถ้าข้าวปนมากตามตัวอย่างข้างต้น โรงสีให้ราคา 5 บาทครับ หายไป 10 บาท หรือ 100,000 บาท


    ลองอีกกรณี สมมติทำนา 30 ไร่ หว่านด้วยพันธุ์ข้าว 105 แท้จากศูนย์ฯ
    คร่าวๆ
    1) ค่าไถดะไถหว่านสองเที่ยว 500 บาทต่อไร่ เป็นเงิน = 30ไร่ x 500บ-ไร่ = 15,000 บาท
    2) ค่าพันธุ์ข้าวประมาณที่ 40 กก/ไร่ กก.ละ 29 บาท เป็นเงิน = 40กก x 29บ-กก x 30ไร่ =34,800 บาท
    3) ค่าจ้างหว่าน สมมติไม่เสียเงินเช่นลงแขก ญาติพี่น้องช่วยกัน มีค่าเหล้ายาอาหาร ประมาณ 2,000 บาท
    4) ค่าปุ๋ยเคมี 40 กก ต่อไร่ กก.ละ 15 บาท เป็นเงิน = 40กก x 15บ-กก x 30ไร่ = 18,000 บาท
    5) ค่าจ้างรถเกี่ยว ไร่ละ 650 บาท เป็นเงิน = 650บ-ไร่ x 30ไร่ = 19,500 บาท
    ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ไม่มีฮอร์โมนฉีดพ่น

    รวมต้นทุนเป็นเงิน = 15,000+34,800+2,000+18,000+19500 = 89,300 บาท

    หรือต้นทุน 3,000 บาทต่อไร่

    สมมติผลผลิตที่ 400 กก ต่อไร่ ได้ข้าวทั้งหมด = 400กก-ไร่ x 30 ไร่ = 12,000 กก
    ราคาขายข้าวช่วงต้นปีเฉลี่ยที่ 13 บาท ต่อ กก
    เป็นเงิน = 12,000 กก x 13 บ-กก = 156,000 บาท
    หักลบต้นทุน = 156,000 - 89,300 = 66,700 บาท

    คิดเป็นกำไร 2,200 บาทต่อไร่ โดยประมาณ ถือว่าต่ำไม่น่าสนใจสำหรับผู้มีที่นาน้อยไร่

    ถ้าใช้พันธุ์ข้าวของตัวเอง คิดที่ราคาข้าวในยุ้ง ที่ 15 บาท-กก เป็นเงิน = 40กก-ไร่ x 15 บ-กก x 30 ไร่ = 18,000 บาท
    สามารคลดต้นทุนที่ค่าพันธุ์ข้าวหรือคิดเป็นกำไรเพิ่มได้ = 34,800 - 18,000 = 16,800 บาท

    คิดเป็นกำไร 2,800 บาทต่อไร่ หรือ 84,000 บาทต่อปีต่อที่นา 30 ไร่

    ถ้าสามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพเองได้และช่วยลดค่าปุ๋ยเคมีลงมาสักครึ่งหนึ่งจาก 18,000 เหลือ 10,000 บาท
    จะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น = 84,000+8000 = 92,000 บาท
    และยิ่งถ้าขายข้าวได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท จะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาเป็น 92,000+24,000 = 116,000 บาท

    ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง fix หมด มีค่าเมล็ดพันธุ์กับค่าปุ๋ยที่พอเปลี่ยนราคาเปลี่ยนวิธีด้วยตัวเองได้

    ค่าเมล็ดพันธุ์จึงเป็นตัวแปรซึ่งเกษตรกรเองสามารถเปลี่ยนค่าที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นหรือลดลงได้
    ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเมล็ดพันธุ์เป็นตัวสร้างมูลค่าของข้าวที่เราผลิตได้ให้สูงตามที่ควรจะเป็นหรือต่ำลงไปได้อีก

    ตัวเลขคร่าวๆ ผิดพลาดบวกลบแล้วแต่ละพื้นที่ แต่ละราคา ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดยรวมแล้วผมว่าก็น่าจะออกมาแนวๆ นี้

    กำไรสุดๆ ถ้าเราเพิ่มผลผลิตข้าวได้ถึง 600 กกต่อไร่
    ขายได้ในราคา 15 บ-กก เป็นเงิน 9,000 บาทต่อไร่
    จัดการต้นทุนการผลิตไม่ให้เกิน 3,000 บาทต่อไร่ คิดเป็นกำไร 6,000 บาทต่อไร่

    เป็นกำไร 60,000 บาทต่อ 10 ไร่
    และเป็นกำไร 600,000 บาทต่อ 100 ไร่

    มีที่นาร้อยไร่ตั้งใจทำสองปีสามารถเป็นเศรษฐีชาวนาเงินล้านได้ครับ




    และเมื่อสองวันที่ผ่านมา จากหน้าหนังสือพิมพ์ กรมการข้าวได้ประกาศลดราคาพันธุ์ข้าวหลายสายพันธุ์
    แต่เมล็ดพันธุ์กลุ่มข้าวหอมมะลิ ยังไม่ลดครับ ยังคง 29 บาทต่อกิโลกรัมเท่าเดิม คงจะลดในเร็ววันนี้ละมั้ง





    และวันนี้ 5 มิถุนายน ก็เป็นวัน "วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ"

    อดไปเที่ยวงานวันข้าว "ข้าวและชาวนาไทย….หัวใจแห่งแผ่นดิน" ที่กรมการข้าวบางเขน
    ที่นวนครก็มีเสาร์อาทิตย์นี้ ไปเที่ยวชมกันนะครับ




  6. #16
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557


    กลับไปดูนาข้าวเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ขออัพเดทข้อมูลนาข้าวทางสารคามเขาพนมรุ้งเล็กน้อยครับ
    ปีนี้ทางสารคามก็ยังแล้ง รอบเขาพนมรุ้งเรียกว่าแล้งมากเนื่องจากฝนทิ้งช่วงนาน ผ่านทางทุ่งกุลาข้าวงามดี



    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557

    นาข้าวใกล้เขาพนมรุ้งแปลงนี้ใช้วิธีตัดต้นข้าวเมื่อปลายมิถุนา ตัดแล้วฝนทิ้งช่วงต่ออีกสองเดือนเต็มกลายเป็นนาหญ้า
    บางแปลงหญ้าอายุสั้นกว่าข้าว เกิดแซมมาแล้วก็แก่ก่อนตายก่อน ข้าวขึ้นตามหลัง บางแปลงต้องยอมทิ้ง



    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557

    ปลายฤดูยังมีชาวนาหลายคนถอนต้นกล้ามาปักดำ ขณะที่หลายคนโชคดีเอาชนะความแห้งแล้งได้
    เช่นแปลงในภาพล่างนี้หว่านข้าวตั้งแต่หลังสงกรานต์ หว่านแบบถี่ยิบคาดว่าถึง 60 กิโลกรัมต่อไร่
    ผลออกมาดี ไม่มีช่องว่างให้หญ้าเกิด พอได้น้ำได้ปุ๋ยก็เขียวงามพร้อมให้ผลผลิต



    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557

    บางคนก็หนีการปลูกข้าวหันไปปลูกพืชไร่ทดแทนด้วยหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
    ที่ดินแปลงไกลโน้นไม่อยากประสบเหตุการณ์ต้องมาตัดข้าวเหมือนนาแปลงใกล้ที่เห็น หนีการปลูกข้าวเปลี่ยนไปปลูกอ้อย
    บ้างก็หันไปปลูกข้าวอายุสั้นข้าวนาปรังข้าวไม่ไวแสงพันธุ์ต่างๆ เจอฝนทิ้งช่วงทั้งพืชทดแทนและพันธุ์ข้าวนาปรังก็ไปไม่รอด
    ซ้ำยังข้าวสุกก่อนนกมารุมกินก่อน นาข้าวเปลี่ยนเป็นแปลงหญ้าเช่นกัน



    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557

    สองแปลงในรูปนี้เป็นนาดอนอยู่ตีนโคก(ป่า)อยู่สูงกว่านาคนอื่น ฝนหนักฝนมากจึงจะมีน้ำ เคยเห็นหลายๆ ปีที่ทำนาหว่าน
    ฝนมาช้ากลายเป็นนาหญ้าเสียส่วนใหญ่ มาปีนี้เลือกทำนาดำ เพิ่มทุนจ้างปักดำแต่ก็งามดีครับ
    หรือในกรณีเช่นนี้เกษตรกรบางคนก็จะเลือกปลูกข้าวเหนียวดอ เจ้าดอหรือพวก กข 15 ที่เก็บเกี่ยวเร็ว



    นาข้าวหอมมะลิ ปี 2557

    ที่ผมเคยกล่าวในหัวข้อก่อนๆ เรื่องพันธุ์ข้าวในกลุ่มข้าวหอมมะลิ มีบางพันธุ์ที่ออกรวงก่อน เก็บเกี่ยวก่อน
    ภาพล่างในกลางเดือนกันยายน ข้าวแปลงนี้เริ่มออกรวงแล้วครับ ขณะที่แปลงอื่นๆ พึ่งจะเริ่มเขียวงามขึ้นมาบางแปลงพึ่งปักดำ




  7. #17
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    นาข้าวอินทรีย์


    นาข้าวอินทรีย์

    แปลงนาข้าวหอมกึ่งอินทรีย์ที่เราพยายามเดินตามทฤษฎีตั้งแต่ไร่นาสวนผสม อยู่แบบพอเพียงจนถึงเกษตรอินทรีย์ในวันนี้
    ทุกปีจะเตรียมดินด้วยการใส่ปุ๋ยคอกทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านไปสองสามเดือนข้าวงามดี



    นาข้าวอินทรีย์

    จากพันธุ์ข้าวที่ซื้อมา ทำนาดำ ข้าวกอใหญ่บ้างเล็กไม่แตกกอก็เยอะ หว่านปุ๋ยเคมีสองครั้ง ครั้งละสิบกิโลกรัมต่อไร่
    แปลงล่างยังไม่มีการจัดการเรื่องน้ำ ปักดำด้วยต้นกล้าจากเมล็ดพันธุ์ชุดเดียวกัน
    ตั้งแต่หว่านกล้า ปักดำ ผ่านไป 90 วัน พึ่งจะมีน้ำให้สูบและพึ่งจะหว่านปุ๋ยคั้งแรก ลุ้นให้โตไวไว



    นาข้าวอินทรีย์



    นาข้าวอินทรีย์

    ปีนี้ถึงจะแล้งมากอีกครั้งโดยรวมข้าวก็ยังงามดีครับ รวมต้นทุนต่อไร่ของนาแปลงนี้ในวันนี้สองพันต้นๆ


    ทำนาปลูกข้าวเองก็มีปัญหามากมายดังที่แสดงด้วยภาพมาแต่ต้น สู้อดทนและค่อยๆ ศึกษาหาทางออกทางแก้กันไปครับ
    เช่นข้าวในแปลงที่เตรียมทุกอย่างพร้อม น้ำ ดิน ปุ๋ย การดูแล ข้าวก็เขียวงามโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม
    ต้นข้าวแข็งแรงต้านทานโรคเพลี้ยแมลงต่างๆ ได้ดี ผลผลิตคาดว่าไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มา พอได้แบ่งกินแบ่งขาย


    และขอบคุณพี่ๆ สมาชิกบ้านมหาที่ให้ความสนใจ ไม่ได้แอบใช้พื้นที่เจรจาซื้อขายแต่ขอใช้ตอบคำถามหน่อยนะครับ
    ข้าวหอมนำมาสีคัดด้วยมืออย่างที่ผมทำ 35-40 บาทต่อกิโลกรัมทำสองสามเที่ยวถือว่าเหนื่อย ราคาที่ต้องขายคือ 45-50 สิบบาท
    ถ้าเป็นข้าวอินทรีย์ 100% ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ผลผลิตต่อไร่จะลดลงมาก ราคาขาย 60 บาทครับ ทั้งนี้ผมก็ไม่มีข้าวที่ว่านั้นนะครับ
    ถ้าต้องการก็ต้องไปพูดคุยทำข้อตกลงกับชาวนารายนั้นๆ เป็นกรณีไป ส่วนที่ผมจะมีขายในปลายปีนี้มีแต่ข้าวที่ใส่ปุ๋ยเคมีบ้างเล็กน้อยเท่านั้นครับ
    คงจะมีชาวนาที่สีข้าวขายในราคาถูกกว่านี้ ส่วนผมคำนวณแล้วคงขายที่ราคานี้ครับ ราคาชดเชยการเจ็บป่วยจากการแบกของหนักไว้ด้วย
    และผมเขียนกระทู้นี้เพื่อเชิญชวนพี่น้องลูกหลานชาวนาให้มาสีข้าวขายเองเป็นรายได้เสริมครับ ไม่ได้ตั้งใจจะทำเกินกว่านั้น
    ขอบคุณมากๆ ที่ให้ความสนใจ ต้องขอโทษจริงๆ ครับ หวังว่าชาวนาข้าวหอมจะได้มีโอกาสได้รับใช้พี่ๆ ครับ


    ขอบคุณพี่ๆ ที่รักอาชีพทำนาหรือกำลังทำนา นาข้าวงามๆเอามาแบ่งกันดูครับ


    ขอบคุณเวบเพจสวยๆ บ้านมหา


    ขอบคุณครับ



  8. #18
    ศึกษาหาความรู้
    วันที่สมัคร
    Dec 2014
    กระทู้
    2

    สอบถามครับ

    เครื่องสีข้าวที่เห็นในรูปราคาเท่าไหร่ครับ

  9. #19
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    รู้ลึกรู้จริงอิหลีครับ ถือว่าเป็นบุคคลคุณภาพครับ มีหยังดี ๆ กะมานำเสนออีกเด้อครับผม

  10. #20
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ข้าวใหม่


    กลับไปเอาข้าวใหม่ครับ


    ข้าวใหม่

    ข้าวสารเจ้าหอมมะลิสีไม่ขัดขาวมาก มีจมูกข้าวติดมาด้วย



    ข้าวใหม่

    ข้าวกล้องหอมมะลิ



    ข้าวใหม่

    ข้าวเหนียว กข6



    ข้าวใหม่

    ข้าวไรซ์เบอร์รี่



    ข้าวใหม่

    ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ

    เที่ยวนี้ได้ข้าวไรซ์เบอร์รี่เล็กน้อยจากเพื่อนที่ปลูกแบบนาอินทรีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์มาฝากที่ทำงาน
    ข้าวขาว ข้าวเหนียว สีแบบไม่ขัดขาวมากเผื่อคนชอบครับ



    ข้าวใหม่

    ลองหุงข้าวใหม่ ซาวน้ำขัดข้าวด้วยฝ่ามือสองสามครั้งให้ข้าวขาว จมูกข้าววิตามินเหมือนจะไม่เหลือ
    ข้าวใหม่หุงเองกลัวแฉะผลน้ำน้อยเม็ดข้าวยังไม่แตกเหมือนข้าวเหนียว หอมนุ่มสวยครับคราวหน้าต้องเพิ่มน้ำอีกนิด



    ข้าวใหม่

    หุงหม้อที่สองดีขึ้นมาหน่อย ขาวสวยมีร่องรอยของจมูกข้าว



    ข้าวใหม่

    เทียบกับข้าวเก่าปีที่ผ่านมาสีขัดจนขาวจมูกข้าวหลุดหมด หุงมีกลิ่นหอมน้อยแต่เมล็ดข้าวสุกขาวยาวสวย



    ขอบคุณและตอบพี่น้องทางเฟซบุ๊ค ถามต้นปีหาคำตอบมาตอบท้ายปี

    ขอบคุณมากครับพี่ Tamn. ปีที่ผ่านมาผมสีข้าวขายโดยไม่ได้ตั้งใจประกอบกับข้าวเปลือกมีน้อยจึงไม่พอขาย ปีนี้ข้าวมีเยอะครับ
    ปลอดสารพิษหรือไม่เราเองก็ไม่มีเครื่องมืออะใรจะมาวัด มีเพียงความสุขสบายใจเมื่อกินเข้าไปแล้วที่พอบอกได้


    ข้าวใหม่

    ในนาเราเต็มไปด้วยรูหอยปูใยแมงมุมขาวโพลนเมื่อโดนหมอกน้ำค้างยามเช้า พอช่วยตอบว่าในนาไม่มีสารที่เป็นพิษ


    ขอให้ขายได้เยอะๆ ครับคุณพิรุณรัตน์
    ตามที่ผมลองสีข้าวกล้องมีความยุ่งยากพอสมควร สีแล้วต้องมาเสียเวลาเก็บกากฝัดคัดร่อนข้าวกล้องจึงจะออกมาสวย
    ปัญหาแก้ได้โดยต้องมีเครื่องสีข้าวกล้องแบบดีมากๆ ครับ สีออกมาแล้วข้าวเมล็ดสวยไม่มีแกลบเมล็ดลีบฝุ่นผงเมล็ดหญ้าข้าวหักตามมา
    ถ้าทำมากๆ ผมว่าซื้อเครื่องสีข้าวกล้องแบบดีดีสีได้ชั่วโมงละมากๆ จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับการสีข้าวที่ผมเคยเจอมาแล้ว
    ถ้าต้องการจะทำจริงจังมียอดขายจำนวนมากควรจะมีเครื่องคัดข้าวหักข้าวท่อนด้วยครับ

    เบื้องต้นสำหรับผม ถ้าจะสีข้าวกล้องในปริมาณมากหลายร้อยกิโลกรัมอุปกรณ์หลักที่จำเป็นที่ควรจะมี คือ
    เครื่องคัดร่อนทำความสะอาดข้าวเปลือกแบบมีพัดลมเป่าแกลบเมล็ดลีบด้วยจะดีมาก
    กรณีสีเองต้องมีเครื่องสีข้าวกล้องที่สีได้ชั่วโมงละมากๆ สีได้ข้าวเมล็ดสวย
    เครื่องคัดข้าวหักข้าวท่อน แบบกระบอกหลุมหมุนหรือแบบอื่นๆ
    เครื่องบรรจุหรือเครื่องซีลถุง
    เครื่องชั่งแบบดิจิตอลจานกว้างจะดี
    อื่นๆ ก็แล้วแต่ชอบหาดูได้ตามหน้าเวบครับ กรณีทำปริมาณน้อยจ้างเขาสีอุปกรณ์ก็เท่าที่จำเป็นครับ


    ขอบคุณพี่ณรงค์ ดีใจด้วยครับมีที่นาทำนาข้าวหอมมะลิเป็นร้อยไร่ ขายข้าวเปลือกก็รวยได้ครับ
    หาตลาดไปเรื่อยๆ ให้ลูกค้าไปลองหุงกินก่อนเลยครับ ผมลองซื้อข้าวจากอาจสามารถร้อยเอ็ดที่ตลาดนัด ข้าวงามหุงแล้วสวยมาก
    ข้าวเปลือกหอมมะลิได้หมื่นห้าถือว่าดีครับ ถ้าไม่ถึงก็รอมาทั้งปีนะ... แพงกว่านี้ก็ลำบากคนซื้อข้าวสารกินอีกแหละ ต้องไปด้วยกันได้
    พยายามลดต้นทุนการผลิตให้ได้ เอาใจช่วยครับ

    ขอบคุณพี่ Saman ลองดูครับค่อยๆ ทำไป
    ขอบคุณพี่ เล็ก ก็ถือว่าไม่ง่ายครับ ขอเอาใจช่วยครับ

    ขอบคุณครับอ้ายพล เล่าให้ฟังในสิ่งที่อ่านที่เห็นมาครับ ที่พอทำเองได้แล้วก็นั่งเก็บกากและแพ็คข้าวใส่ถุงครับ
    ขอบคุณหนุ่มภูธร อินดี้ 39,500 ครับ แถมลูกยางสามลูกและสกรูขัดขาวหนึ่งอัน ซื้อที่งานเกษตร ม.เกษตรบางเขนครับ




    Bump:
    ข้าวใหม่

    ข้าวพันธุ์อื่นที่ปนในนาข้าวยังมีให้เห็นอยู่ทุกปี



    ข้าวใหม่


    ข้าวใหม่

    ผมเดินในนาเพื่อหาขุดหอยขุดปูและชื่นชมกับใยแมงมุมที่ขาวโพลนเต็มตอซังข้าวยามเช้าย่างฤดูหนาว
    เขี่ยฟางขุดรูปูแล้วก็ได้เห็นสาเหตุของปัญหาข้าวปนอีกปัญหาหนึ่ง คือข้าวที่ร่วงในนาตอนทำการเก็บเกี่ยว
    เขี่ยดูใต้กองฟางหลายๆ จุดถือว่าร่วงเยอะมากครับ



    ข้าวใหม่

    ถึงฤดูหว่านไถถ้าไม่รีบร้อนให้ฝนตกดินชุ่มเมล็ดข้าวในนาเกิดขึ้นมาแล้วค่อยไถดะไถพรวนให้ข้าวพวกนี้ตาย
    ไถหว่านข้าวพันธุ์อีกครั้งก็จะช่วยแก้หรือลดปัญหานี้ได้
    ที่เห็นในภาพ ต้นข้าวเกิดจากเมล็ดข้าวที่ร่วงหล่น ความหนาของต้นข้าวกะประมาณเท่ากับหว่านสองถึงสามถังต่อไร่
    คิดย้อนกลับไปที่ที่นาสามสิบสี่สิบไร่ก็เป็นจำนวนข้าวเปลือกที่เราต้องสูญเสียไปเป็นตันและข้าวบางเมล็ดคือข้าวพันธุ์ที่เราไม่ต้องการ
    ถ้าไม่ถูกกำจัดข้าวนั้นจะกลับมาทำลายคุณภาพข้าวในฤดูกาลต่อไปของเราซ้ำอีกครั้ง


    แล้วจะจัดการกำจัดกันอย่างไรเป็นปัญหาที่ต้องตามแก้กันต่อไป
    ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเพื่อการผลิตข้าวหอมคุณภาพดีมาสีขายนะครับ


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 27-12-2014 at 20:26.

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •