-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
ลองคำนวณกันเล่นๆ ณ วันนี้
ถ้าปลูกข้าวได้ 10 ตัน ข้าวดีไม่มีปนขายได้กิโลกรัมละ 15 บาท เป็นเงิน 150,000 (แสนห้าหมื่นบาท)
ข้าวมีปน ขายได้ราคากิโลกรัมละ 13 บาท เป็นเงิน 130,000 (แสนสามหมื่นบาท)
เงินหายไปเฉยๆ 20,000 สองหมื่นบาท
ถ้าข้าวปนมากตามตัวอย่างข้างต้น โรงสีให้ราคา 5 บาทครับ หายไป 10 บาท หรือ 100,000 บาท
ลองอีกกรณี สมมติทำนา 30 ไร่ หว่านด้วยพันธุ์ข้าว 105 แท้จากศูนย์ฯ
คร่าวๆ
1) ค่าไถดะไถหว่านสองเที่ยว 500 บาทต่อไร่ เป็นเงิน = 30ไร่ x 500บ-ไร่ = 15,000 บาท
2) ค่าพันธุ์ข้าวประมาณที่ 40 กก/ไร่ กก.ละ 29 บาท เป็นเงิน = 40กก x 29บ-กก x 30ไร่ =34,800 บาท
3) ค่าจ้างหว่าน สมมติไม่เสียเงินเช่นลงแขก ญาติพี่น้องช่วยกัน มีค่าเหล้ายาอาหาร ประมาณ 2,000 บาท
4) ค่าปุ๋ยเคมี 40 กก ต่อไร่ กก.ละ 15 บาท เป็นเงิน = 40กก x 15บ-กก x 30ไร่ = 18,000 บาท
5) ค่าจ้างรถเกี่ยว ไร่ละ 650 บาท เป็นเงิน = 650บ-ไร่ x 30ไร่ = 19,500 บาท
ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ไม่มีฮอร์โมนฉีดพ่น
รวมต้นทุนเป็นเงิน = 15,000+34,800+2,000+18,000+19500 = 89,300 บาท
หรือต้นทุน 3,000 บาทต่อไร่
สมมติผลผลิตที่ 400 กก ต่อไร่ ได้ข้าวทั้งหมด = 400กก-ไร่ x 30 ไร่ = 12,000 กก
ราคาขายข้าวช่วงต้นปีเฉลี่ยที่ 13 บาท ต่อ กก
เป็นเงิน = 12,000 กก x 13 บ-กก = 156,000 บาท
หักลบต้นทุน = 156,000 - 89,300 = 66,700 บาท
คิดเป็นกำไร 2,200 บาทต่อไร่ โดยประมาณ ถือว่าต่ำไม่น่าสนใจสำหรับผู้มีที่นาน้อยไร่
ถ้าใช้พันธุ์ข้าวของตัวเอง คิดที่ราคาข้าวในยุ้ง ที่ 15 บาท-กก เป็นเงิน = 40กก-ไร่ x 15 บ-กก x 30 ไร่ = 18,000 บาท
สามารคลดต้นทุนที่ค่าพันธุ์ข้าวหรือคิดเป็นกำไรเพิ่มได้ = 34,800 - 18,000 = 16,800 บาท
คิดเป็นกำไร 2,800 บาทต่อไร่ หรือ 84,000 บาทต่อปีต่อที่นา 30 ไร่
ถ้าสามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพเองได้และช่วยลดค่าปุ๋ยเคมีลงมาสักครึ่งหนึ่งจาก 18,000 เหลือ 10,000 บาท
จะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น = 84,000+8000 = 92,000 บาท
และยิ่งถ้าขายข้าวได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท จะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาเป็น 92,000+24,000 = 116,000 บาท
ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง fix หมด มีค่าเมล็ดพันธุ์กับค่าปุ๋ยที่พอเปลี่ยนราคาเปลี่ยนวิธีด้วยตัวเองได้
ค่าเมล็ดพันธุ์จึงเป็นตัวแปรซึ่งเกษตรกรเองสามารถเปลี่ยนค่าที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นหรือลดลงได้
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเมล็ดพันธุ์เป็นตัวสร้างมูลค่าของข้าวที่เราผลิตได้ให้สูงตามที่ควรจะเป็นหรือต่ำลงไปได้อีก
ตัวเลขคร่าวๆ ผิดพลาดบวกลบแล้วแต่ละพื้นที่ แต่ละราคา ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดยรวมแล้วผมว่าก็น่าจะออกมาแนวๆ นี้
กำไรสุดๆ ถ้าเราเพิ่มผลผลิตข้าวได้ถึง 600 กกต่อไร่
ขายได้ในราคา 15 บ-กก เป็นเงิน 9,000 บาทต่อไร่
จัดการต้นทุนการผลิตไม่ให้เกิน 3,000 บาทต่อไร่ คิดเป็นกำไร 6,000 บาทต่อไร่
เป็นกำไร 60,000 บาทต่อ 10 ไร่
และเป็นกำไร 600,000 บาทต่อ 100 ไร่
มีที่นาร้อยไร่ตั้งใจทำสองปีสามารถเป็นเศรษฐีชาวนาเงินล้านได้ครับ
และเมื่อสองวันที่ผ่านมา จากหน้าหนังสือพิมพ์ กรมการข้าวได้ประกาศลดราคาพันธุ์ข้าวหลายสายพันธุ์
แต่เมล็ดพันธุ์กลุ่มข้าวหอมมะลิ ยังไม่ลดครับ ยังคง 29 บาทต่อกิโลกรัมเท่าเดิม คงจะลดในเร็ววันนี้ละมั้ง
และวันนี้ 5 มิถุนายน ก็เป็นวัน "วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ"
อดไปเที่ยวงานวันข้าว "ข้าวและชาวนาไทย….หัวใจแห่งแผ่นดิน" ที่กรมการข้าวบางเขน
ที่นวนครก็มีเสาร์อาทิตย์นี้ ไปเที่ยวชมกันนะครับ
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ศึกษาหาความรู้
สอบถามครับ
เครื่องสีข้าวที่เห็นในรูปราคาเท่าไหร่ครับ
-
ฝ่ายบริหารระดับสูง
รู้ลึกรู้จริงอิหลีครับ ถือว่าเป็นบุคคลคุณภาพครับ มีหยังดี ๆ กะมานำเสนออีกเด้อครับผม
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks