คอลัมน์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เมื่อวันก่อนอ่านแล้วเข้ากับกระทู้ขออนุญาตนำมาวางครับ
ในเนื้อหาชวนให้คนไทยมาทำธุรกิจกัน ใครคิดอะไรได้ทำเลยไม่ต้องรอ
ใช้สื่ออิเลคทรอนิคส์ให้เกิดประโยชน์ เฟสบุ๊ค เมลล์ ไลน์ เวบ ฯลฯ
ศึกษาให้ดีแล้วลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องเป็นนายทุน ใครๆ ก็ทำได้ประมาณนี้ ลองอ่านดูครับ
แรกที่รองนายกฯม.ร.ว.ปรีดิยาธรเปิดตัวเศรษฐกิจดิจิตอลโดนใจคนมากมายเลยท่าน มั่นใจจะเป็นมิติใหม่ของการพัฒนาธุรกิจทันยุคทันสมัยกับการแข่งขันทางการค้าที่นับวันรุนแรงแข็งกร้าว ผมคิดไปเองหรือเปล่าไม่ทราบผ่านไปพักใหญ่ยังดูเงียบๆ
ถ้าเพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนจัดตั้งเป็นกระทรวงดิจิตอลหรือกระทรวงเศรษฐกิจดิจิตอล ก็น่าเสียดาย กิจการบางอย่างควรทำได้เลยโดยไม่รอการชงแบบสำเร็จรูป
ในเมื่อเป็นความคิดที่ดี และรู้อยู่กระบวนการตั้งกระทรวงใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี ควรที่รัฐบาลจัดให้มีหน่วยงานเฉพาะเพื่อรับผิดชอบให้เศรษฐกิจดิจิตอลแจ้งเกิดพึ่งพาได้
พูดคุยกับคนแวดวงธุรกิจและสื่อด้วยกันประเด็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หัวข้อฮิตก็พวกเราชาวไทยจะรับมือกับประชาคมใหม่กำลังจะเกิดอย่างไร มีวิธีทำมาหากินทำธุรกิจแบบไหนน่าสนใจและทำได้จริง หมายถึงระดับชาวบ้านไม่ใช่การลงทุนใหญ่ร้อยล้านพันล้าน
ถูกครับ ทำอย่างไรให้พวกเราคนไทยสนใจทำธุรกิจของตัวเอง เป็นผู้ประกอบการเอง
ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ จะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจไม่ใช่กิจกรรมใหญ่โตทุนสูงคนมากอีกต่อไป ผมอ่านหนังสือ “ความคิดมีค่ากว่าเงิน” แปลจาก “Brain vs Capital” ของกุนเทอร์ ฟัลติน ศาสตราจารย์ชาวเยอรมันที่เทียวไปเทียวมาเมืองไทยเป็นประจำ อยากให้คนในรัฐบาลอ่านบ้าง วันนี้ “คิดเป็น” เป็นเจ้าของธุรกิจได้
เรามักใช้คำเรียกว่า “เถ้าแก่” ซึ่งฟังดูยากใครจะเป็นได้ง่ายๆ เอาใหม่ครับ ลบคำเถ้าแก่ทิ้งไปเลยเปลี่ยนเป็นคนทำธุรกิจเลี้ยงชีพธรรมดาๆคนหนึ่ง รับจ้างตัวเอง กินเงินเดือนตัวเอง
เล็กๆก็ทำได้ เพียงต้องมั่นใจโดยทำการบ้านมาอย่างดีลงมือปฏิบัติได้เลยผ่านช่องทางออนไลน์ สมมุติจะขายสบู่สูตรพิเศษ โรงงานรับจ้างผลิตมีอยู่ ทำฮี๋บห่อมีอยู่ จัดส่งสินค้ามีอยู่ รับทำบัญชีมีอยู่ ช่องทางเข้าถึงลูกค้ามีอยู่ ผู้ประกอบการยุคดิจิตอลนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ทำธุรกิจได้ เป็นร้านค้าออนไลน์
รัฐบาลแทบไม่ต้องสนับสนุนเงินกู้หรือเงินทุนอะไรเลย ที่ควรให้คือทักษะและสนับสนุนนักฝันตามให้ถึงฝัน
เชื่อเถอะ มีธุรกิจมากมายที่ตลาดคอยรองรับอยู่แล้ว ผู้ซื้อมี ผู้ต้องการใช้บริการมี
เศรษฐกิจดิจิตอลน่าจะตอบโจทย์ยากๆเรื้อรังของประเทศนั่นคือคนรุ่นใหม่ดาหน้าหางานทำในเมืองใหญ่ ด้วยเชื่อว่างานดีงานมั่นคงต้องไปแย่งชิงกันที่นั่น ยุคใหม่ไม่ต้องเลย รกรากอยู่ที่ไหนก็ปักหลักที่นั่นสามารถดำเนินธุรกิจได้ทั้งประเทศ ทั้งภูมิภาค
จึงอย่ารอการจัดตั้งกระทรวงใหม่ รวมทั้งไม่รอให้คนไทยพัฒนาภาษาอังกฤษก่อนถึงจะทำธุรกิจในประชาคมอาเซียนได้ ทุกอย่างมีมืออาชีพรับช่วงขอให้ “ไอเดีย” กระจ่าง
ย้ำครับ ไม่ควรให้ขั้นตอนตั้งกระทรวงหรือความอ่อนแอของภาษามาทำลายความคิดดีๆ
หลังฉลองปีใหม่ก็น่าที่ “หม่อมอุ๋ย” เจ้าของโปรเจคท์จะทำให้เกิดความชัดเจนเศรษฐกิจดิจิตอล เสนอโฟกัสไปที่ขนาดเล็กๆใครมีไอเดียบรรเจิด เริ่มได้เลย.
คอลัมน์ชื่อน่ากลัวแต่เนื้อหาน่าลองครับ
ก่อนปีใหม่กลับไปเอาข้าวใหม่ได้ข้าวเบญจพันธุ์รวมเจ็ดร้อยกิโลกรัม ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์ ข้าวหัก
ทยอยแพ็คขายและฝากหมดพอดีและมีสั่งเพิ่มเล็กน้อย ลูกค้าสิบกว่าคนเจ้าเดิมครับ
พี่น้องกลับบ้านปีใหม่เดินทางปลอดภัยและอย่าลืมสีข้าวหอมมาขายกันนะครับ
ขอบคุณครับพี่ Duangporn ขอบคุณพี่ Wirun ยินดีครับ
Bookmarks