โฮเซ มูจีกา
โฮเซ มูจีกา


เผยชีวิตสุดทึ่งของโฮเซ มูจีกา ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก

หากจะพูดถึงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว คนเกือบทุกคนบนโลกใบนี้คงจะคิดถึงผู้นำประเทศที่มีหน้ามีตาในสังคม มีบ้านพักหรูโอ่อ่าสมกับตำแหน่ง และไปไหนมาไหนก็ต้องมีคนขับรถอารักขากันเป็นขบวน แต่หากใครได้เห็นวิถีชีวิตของประธานาธิบดีอุรุกวัยคนนี้แล้ว รับรองว่าต้องอึ้ง เพราะแม้ว่าตำแหน่งของเขาจะใหญ่โตที่สุดในประเทศ แต่เขาก็ยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบชาวไร่ชาวนา อยู่ในบ้านหลังซอมซ่อ พอมีพอกินเฉกเช่นเกษตรกรคนหนึ่ง

และนี่คือภาพวิถีชีวิตของ โฮเซ มูจีกา ประธานาธิบดีแห่งอุรุกวัยวัย 77 ปี ที่ได้รับการขนานนามว่า "ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก" จากการที่เขามีแนวคิดการใช้ชีวิตที่แปลก แตกต่างจากนักการเมืองคนอื่น ๆ นั่นคือ ปฏิเสธบ้านพักหรูที่ทางการจัดให้ ปฏิเสธการใช้ชีวิตหรูหรา แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตกับภรรยาอย่างสมถะอยู่ในบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่งในชนบทนอกเมืองมอนเตวิเดโอ อยู่อย่างพอเพียง ทำสวน สูบน้ำขึ้นมาใช้เอง โดยมีสุนัขพิการ 3 ขา เป็นคู่หู คอยติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยเสมอ


โฮเซ มูจีกา
โฮเซ มูจีกา


มูจีกา ใช้ชีวิตเฉกเช่นชาวไร่ชาวนาคนหนึ่ง เขาลงมือทำสวน ปลูกผักไว้กินกับภรรยา น้ำที่ใช้ในแต่ละวันก็สูบขึ้นมาจากบ่อ มีรถไถไว้ใช้ทำสวนทำไร่ และรถเต่าเก่า ๆ อีก 1 คันไว้ขับไปไหนมาไหน ส่วนเงินเดือนที่ได้รับกว่า 360,000 บาทในแต่ละเดือนนั้น เขาก็เก็บไว้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์ มูจีกาก็นำไปบริจาคช่วยเหลือคนยากจน หรือโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งนั่นทำให้เขามีเงินใช้เดือนละประมาณ 23,000 บาทเท่านั้น และกลายเป็นประธานาธิบดีที่ยากจนที่สุดในโลก

สำหรับแนวคิดที่ทำให้มูจีกาเลือกใช้ชีวิตอย่างทีเป็นเช่นนี้ มูจีกาได้เปิดเผยว่า "แม้ว่าผมจะได้รับฉายาว่า ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก แต่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองจนเลยนะ คนจนสำหรับผมน่ะ คือคนที่เอาแต่ทำงานงก ๆ เพื่อยกระดับชีวิตตัวเองให้ร่ำรวย และมีความต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่ผมเป็นนี่แหละคืออิสรภาพอย่างแท้จริง ถ้าหากคนเราไม่มีความต้องการอะไรมาก เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานเยี่ยงทาสเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการเหล่านั้น และเราก็จะมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น ผมอาจดูเป็นคนแก่ที่แปลกนะ แต่นี่คืออิสรภาพสำหรับผม"

ทั้งนี้ กว่าที่มูจีกาจะมีความคิดพอเพียงเช่นนี้ ชีวิตของเขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขาเคยถูกยิง 6 ครั้ง ขณะเป็นสมาชิกกลุ่มกองโจรทูปามารอส กองกำลังติดอาวุธฝ่ายซ้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการปฏิวัติในคิวบา และเคยถูกจำคุก 14 ปี ซึ่งระหว่างจำคุกนี้เองทำให้เขาตกผลึกความคิดบางอย่าง และมีมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้น


โฮเซ มูจีกา

อย่างไรก็ดี มูจีกาเปิดเผยว่า ด้วยวัยที่มาก และเป็นผู้สูงอายุแล้ว เขาคงจะครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยสุดท้าย ก่อนที่จะไปใช้ชีวิตเฉกเช่นผู้สูงอายุคนหนึ่งที่อาศัยสวัสดิการจากรัฐเท่านั้น ซึ่งเขาไม่มีปัญหากับรายได้ที่น้อยลงแต่อย่างใด เพราะเขาใช้ชีวิตด้วยรายได้จำนวนน้อย ๆ แบบนี้มาทั้งชีวิตแล้ว




http://hilight.kapook.com/view/78595