ประวัติพระครูโกวิทวัชรสาร (หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร)
อดีตเจ้าอาวาส วัดหนองข้าวเหนียว ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์


หลวงพ่อเมี้ยน วัดหนองข้าวเหนียว

อดีตพระเกจิอาจารย์จองขมังเวทย์เชี่ยวชาญในไสยเวทย์พุทธาคม ทั้งลงอักขระเลขยันต์ ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน มีสมาธิจิตแก่กล้า เป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคม จากพระครูพินิจสุตคุณ (หลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต) วัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และสืบสายไสยเวทย์พุทธาคมจากพระครูวชิรรังษี (หลวงพ่อจันทร์ ธมฺมสโร) วัดมฤคทายวัน พระครูชาณาพิรัตน์ (หลวงพ่อฉิน จนฺทสโร) วัดชะอำคีรี วัตถุมงคลหลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร มีพุทธคุณเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้ เน้นหนักทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี และมหาอุด

ชาติภูมิ หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร มีนามเดิมว่า เมี้ยน แดงเลือด ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2477 เป็นบุตรที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 8 คนด้วยคือ 1.นายเหมือน 2.นายม้วน 3.หลวงพ่อเมี้ยน 4.นางประภัย 5.นายสมพร 6.นายพัน 7.นายยุพิณ 8.นายประมง ของโยมพ่อเหลี่ยม โยมแม่แม้น แดงเลือด ณ บ้านหนองข้าวเหนียว ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จบการศึกษาชั้น ป.2 ที่โรงเรียนบ้านหุบตาโครต อาชีพกสิกรรม

อุปสมบท อายุได้ครบ 20 ปีบริบูรณ์ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดโตนดหลวง เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2497 โดยมีพระครูพินิจสุตคุณ (หลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต) วัดโตนดหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูชาณาพิรัตน์ (หลวงพ่อฉิน จนฺทสโร) วัดชะอำคีรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวชิรรังษี (หลวงพ่อจันทร์ ธมฺมสโร) วัดมฤคทายวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อเมี้ยน ได้รับฉายานามว่า ปญฺญาสาโร เมื่ออุปสมบทแล้วหลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร ได้จำพรรษาอยู่ วัดโตนดหลวง ปฏิบัติดูแลรับใช้หลวงพ่อทองสุข ศึกษานักธรรม ฝึกนั่งเจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน เรียนวิชาคาถาอาคมลงอักขระเลขยันต์ หลวงพ่อทองสุขได้ถ่ายทอดให้จนจบสิ้นอยู่กับหลวงพ่อทองสุข 3 พรรษา

พรรษาที่ 1 ปีพ.ศ.2497
หลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต ได้สอนสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานให้ สอนเขียนลงอักขระเลขยันต์ สอนวิชาขับคูณไสยไล่ผี ทำน้ำมนต์ นั่งปรก หนุนธาตุ

พรรษาที่ 2 ปีพ.ศ.2498
หลวงพ่อจันทร์ ธมฺมสโร ซึ่งเป็นหลานหลวงพ่อทองสุข ได้สร้างเหรียญรุ่น2 ปีพ.ศ.2498 หลวงพ่อทองสุข ได้มีพิธีนั่งปรกปลุกเสกเหรียญหลวงพ่อทองสุข พ.ศ.2498 ซึ่งหลวงพ่อทองสุข ได้ให้หลวงพ่อเมี้ยนร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย พิธีนี้ได้มีพระนั่งปรกทั้งหมด 5 รูป มีหลวงพ่อทองสุข หลวงพ่อจันทร์ หลวงพ่อฉิน หลวงพ่อแผ่ว และหลวงพ่อเมี้ยน และในพรรษาที่ 2 นี้หลวงพ่อเมี้ยน สอบได้นักธรรมชั้นโท หลวงพ่อทองสุข ตั้งให้เป็นครูสอนนักธรรมแก่พระภิกษุ และหลวงพ่อเมี้ยนแสดงพระปาฏิโมกข์ได้ในพรรษาที่ 2 หลวงพ่อทองสุข ได้สอนพระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ พระคาถาพระพุทธคุณถอยหลัง พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า พระคาถาหัวใจ 108 ให้หลวงพ่อเมี้ยน

พรรษาที่ 3 ปีพ.ศ.2499
หลวงพ่อเมี้ยน จะออกเดินธุดงค์วัตร ได้เข้าขอพระคาถากันควายไล่ขวิด เพราะควายเห็นสีเหลืองมักชอบไล่ขวิด หลวงพ่อเมี้ยน ถูกหลวงพ่อทองสุขกล่าวว่า “น้อยวานรคาบแก้ว” หลวงพ่อเมี้ยน ได้เข้าไปจับเข่าขออภัยหลวงพ่อทองสุขแล้วว่า ผมผู้น้อยไม่เข้าใจความหมายต้องกราบขออภัย แล้วหลวงพ่อทองสุขก็สอนให้ท่องคำว่า “อะระหัง” หลวงพ่อทองสุข ได้เรียกให้หลวงพ่อเมี้ยนมาทำการสักยันต์ หลวงพ่อทองสุข ได้ทำการสักยันต์ครูให้ไว้ที่หน้าอกหลวงพ่อเมี้ยนได้มอบกลดและเป็นประธานขึ้นลูกขมูลให้ หลวงพ่อทองสุขได้สั่งสอนไว้ว่า หลักเกณฑ์พระลูกขมูล ห้ามปักกลดข้างทางสี่แยก ข้างหนองน้ำใหญ่กลางป่า โคนต้นไม้ใหญ่ เพราะนางไม้อยู่ ส่วนทางสี่แยก สัตว์ร้าย และ สัมภาวาสีจะเดินมาทางแยกทางนั้นจะเป็นอันตรายแก่เรา ข้างหนองน้ำใหญ่กลางป่าเวลากวาดใบไม้สุมไฟจะมีกบกระโดดเข้ากองไฟ และหลวงพ่อเมี้ยนได้ออกเดินธุดงค์วัตร มุ่งสู่ภาคใต้ โดยมีพระร่วมคณะไปด้วยกันรวม 4 รูปมี 1.หลวงพ่อหวย วัดห้วยทรายใต้ 2.หลวงพ่อย้อน วัดโตนดหลวง 3.สามเณรทองเจือ วัดโตนดหลวง 4. หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร

การออกธุดงค์วัตร จุดเริ่มต้นเดินไปตามทางรถไฟ ผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี ได้ปักกลดพักที่พระธาตุไชยา เข้านมัสการพระธาตุไชยา เดินมุ่งสู่ จ.ภูเก็ต ได้เข้านมัสการพระธาตุเกาะแก้วพิสดาร แล้วได้มาปักกลดที่หาดราไวย์ สามเณรทองเจือได้ถูกทำคูณไสย ถ่ายท้องไม่หยุด หลวงพ่อเมี้ยน ต้องเข้าช่วยสวดพระคาถาขับคูณไสยไล่เวทย์มนต์อยู่เป็นเวลานานจนสามเณรทองเจือหายเป็นปกติ ปักกลดพักอยู่หาดราไวย์ 4 วัน มีอยู่คืนหนึ่งที่หาดราไวย์ ได้เกิดอาเพศ เกิดลมแรงลูกใหญ่ ปักกลดได้แต่มุ้งต้องผูกขึ้นกางไม่ได้ คืนนั้นหลวงพ่อเมี้ยนเพลียมาก ไม่ได้สวยมนต์ภาวนา หลับไป ฝันเห็นบุรุษ 4 ท่าน มานั่งอยู่ข้างตัวท่านและบอกว่าท่านที่ 1 ชื่อหมื่นเพชรเจ้าดง ท่านที่ 2 ชื่อหมื่นคงเจ้าป่า ท่านที 3 ชื่อหมื่นกล้าเจ้าพราย ท่านที่ 4 ชื่อหมื่นไกรเจ้าทุ่ง หลวงพ่อเมี้ยนได้เห็นท่านทั้ง 4 วิญญาณ 1 ใน 4 ท่านนั้นได้เอาเรื่องและเล่นงานหลวงพ่อเมี้ยน โดยตีศีรษะหลวงพ่อและตรงชายโครงอีกที่หนึ่ง ในความฝันหลวงพ่อได้ตอบโต้ด้วยขวานน้อย (ขวานเล็ก ๆ ที่หลวงพ่อทองสุข ได้ปลุกเสกและมอบให้หลวงพ่อเมี้ยน ติดตัวไว้ใช้สอยในการเดินธุดงค์) ได้ฟันไปที่ร่างวิญญาณนั้นโดนที่ชายโครงเหมือนกัน วิญญาณนั้นก็กลัวและถอยหนีหลวงพ่อเมี้ยนไป ตอนเช้าวันใหม่ หลวงพ่อเมี้ยนและคณะได้ออกบิณฑบาต ไม่ได้ข้าวเลยได้ขนมข้าวต้มมารูปละ 4-5 มัด พักอยู่หาดราไวย์ 4 วัน บิณฑบาตไม่ได้ข้าวเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่จะกินข้าวตอนเที่ยง ไม่ได้กินข้าวเช้า วันที่ 3 ได้นั่งเรือไปเกาะแก้วพิสดาร แล้วกลับมาพักที่หาดราไวอีก 1 คืน จากหาดราไวย์ เดินทางกลับสู่อำเภอกันตัง ได้ปักกลดพักอยู่กันตัง ตอนเช้าออกบิณฑบาต ก็ไม่ได้ข้าวอีก ได้มีนักเรียนนำกล้วยไข่มาถวาย 1 หวี หลวงพ่อเมี้ยนได้หักแบ่งกันได้ฉันท์กล้วยรูปละ 4 ลูก กลับจากกันตังเดินทางถึงป้ายสวนมัน ได้มีโยมโกจงมานิมนต์ให้ไปพักที่สวนยางของเขา เพราะว่าในสวนยางได้มีวิญญาณร่างใหญ่ดำทมึน ปรากฏให้โกจงเห็นอยู่เสมอ โยมโกจงประสงค์ให้พระธุดงค์ไปนั่งกรรมฐานแผ่เมตตาให้วิญญาณนั้น ในคืนนั้นหลวงพ่อเมี้ยนและคณะพระลูกขมูลอีก 3 รูปได้สวดมนต์แผ่เมตตา และนั่งกรรมฐานให้วิญญาณนั้นได้หายไป ในตอนเช้าโกจงได้มาดู คิดว่าพระสงฆ์คงถูกไอ้ดำเล่นงานจนมรณภาพหมดแล้ว ในคืนต่อมา สามีของคุณนายเข็ม ซึ่งเป็นนายตำรวจนั้นได้เสียชีวิต คุณนายเข็มฝั่งไว้ในสวนยาง คุณนายเข็ม จึงได้นิมนต์หลวงพ่อให้พักธุดงค์ที่สวนยางใกล้กับบริเวณที่ฝั่งศพของสามี เพื่อให้หลวงพ่อช่วยสวดแผ่เมตตาให้กับดวงวิญญาณของสามีคุณนายเข็มให้ไปสู่สุขติ ในตอนเช้านั้นเมื่อฉันท์เช้า แล้วนั้น หลวงพ่อได้มาติกาชักบังสุกุลให้ผู้ล่วงลับ ซึ่งมีชาวบ้านมากันมาก เช้านั้นหลวงพ่อและพระร่วมคณะฉันไม่หวัดไม่ไหว ผู้คนนำอาหารมาถวายกันจำนวนมาก
วันต่อมา ได้มีคนจีนชื่อ โกเป๊ก ได้มานิมนต์ให้ไปสวดมนต์ที่หน้าบ้าน เพราะที่หน้าบ้านเคยมีรถคว่ำมีคนตายเป็นจำนวนมาก ได้มีวิญญาณผีตายโหงมารบกวนปรากฏให้เห็นอยู่เรื่อย หลวงพ่อและคณะได้ไปสวดมนต์เย็นและฉันเช้า ที่บ้านโกเป๊ก คุณนายเข็ม โกจง และโกเป๊ก ได้ร่วมกันซื้อตั๋วรถไฟถวายหลวงพ่อและคณะเดินทางกลับทางรถไฟจาก อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถึง สถานีกุยบุรี แล้วเดินทางกลับสู่วัด


ออกธุดงค์วัตร ครั้งที่ 2 ในปีพ.ศ.2500 สู่ภาคเหนือ

หลวงพ่อทองสุข มอบกลด เป็นประธานลูกขมูลมีพระสงฆ์รวมเดินธุดงค์วัตร ไปด้วย 4 รูป มี 1.พระประยงค์ วัดห้วยเสือ 2.พระสมาน วัดท่าไชย 3.พระโสภณ วัดเขาทโมน 4.หลวงพ่อเมี้ยน เดินธุดงค์ถึง เขาพระงาม จ.สระบุรี ปักกลดที่พระพุทธบาทสระบุรี นมัสการพระพุทธบาท มุ่งสู่เขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี ผ่านจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก ปักกลดพักที่วัดศรีรัตนมหาธาตุ นมัสการพระพุทธชินราช ผ่านเข้าศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อุตรดิตถ์ พระแท่นศิลาอาสน์ ถึง จุดหมายปลายทางที่พระพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เข้าลำพูน นมัสการพระพุทธบาทตากผ้าและวัดมหาวัน แล้วก็เดินทางกลับ

ออกธุดงค์วัตร ครั้งที่ 3 ในปีพ.ศ.2507 สู่ภาคอีสาน
หลวงพ่อจันทร์ ธมฺมสโร มอบกลด เป็นประธานขึ้นลูกขมูลให้ มีพระสงฆ์และสามเณรร่วมเดินทางไปด้วยรวม 2 รูปมี หลวงพ่อเมี้ยน และสามเณรเสนาะ มุ่งดี วัดโตนดหลวง โดยนั่งรถไฟไปลงที่สถานีนครราชสีมา (โคราช) แล้วเดินไปดูอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เดินมุ่งสู่ปราสาทหินพิมาย ปักกลดที่พิมาย ในยามค่ำคืนได้มีบรรดาสัมภวาสีมาขอสวนบุญมากมาย มีวิญญาณต่างมาขอส่วนบุญหลวงพ่อเมี้ยน ได้สวดมนต์ภาวนาและแผ่เมตตาไปให้และก็จากหายไป วันต่อมาได้เดินจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงปราสาทเขาพนมรุ้ง ปักกลดที่เขาพนมรุ้ง เข้าจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ เข้าสกลนคร และจังหวัดนครพนม นมัสการพระธาตุพนม แล้วก็เดินทางกลับ

เป็นเจ้าอาวาสวัดช้างแทงกระจาด ปีพ.ศ.2500
หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร จำพรรษาและศึกษาวิชาต่าง ๆ อยู่กับหลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต อยู่ 3 พรรษา หลวงพ่อทองสุข ได้มอบหมายให้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างแทงกระจาด แทนหลวงพ่อจันทร์ ธมฺมสโร ซึ่งท่านได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่บ้านเกิดของท่าน จึงทำให้วัดช้างแทงกระจาดขาดพระสงฆ์ปกครองดูแลวัด เมื่อต้นปีพ.ศ.2500 หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโรได้มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดช้างแทงกระจาด ตลอดมาเป็นเวลา 35 ปี

พุทธศาสนสถาน ได้สร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาหอฉันท์ โรงเรียน
สร้างสาธารณะประโยชน์ ช่วยเหลือชาวบ้าน สนับสนุนให้การช่วยเหลือการศึกษาต่าง ๆ มากมาย เช่น
- ได้สร้างโรงเรียนวัดช้างแทงกระจาด จันจำนงค์ ขุดสระน้ำเนื้อที่ 7 ไร่ให้ประชาชน 3 ตำบลได้กินได้ใช้
- ในปีพ.ศ.2521 ได้สร้างโรงเรียนห้วยทรายประชาสรรค์ พร้อมในเนื้อที่ดิน 35 ไร่ให้เป็นโรงเรียนมัธยมประจำตำบลห้วยทรายเหนือ
- ได้สร้างถนนจากทางแยกวิทยาลัยเกษตร ถึง วัดช้างแทงกระจาดระยะทาง 3 กม. และจากวัดช้างแทงกระจาดถึงบ้านทุ่งหลวงระยะทาง 4 กม.
- สร้างถนนจากบ้านช้างแทงกระจาด ถึง บ้านพุหวาย ระยะทางอีก 4 กม.
- สร้างโรงเรียนดอนมะกอก, สร้างโรงเรียนบ้านไร่ใหม่พัฒนา, สร้างโรงเรียนบ้านทุ่งขาม
- สร้างโรงเรียนบ้านบ่อหลวง, สร้างโรงเรียนบ้านพุหวาย, สร้างโรงเรียนบ้านอ่างหิน
- เป็นวิทยากรอบรมนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรกรรมเพชรบุรี
- เป็นวิทยากรอบรมนักศึกษาโรงเรียนสงเคราะห์เพชรบุรี
- ส่งเสริมการศึกษา อนุเคราะห์ช่วยสงเคราะห์การศึกษาจำนวน 50 คน ในปัจจุบันนักศึกษาเหล่านั้น ได้เป็นครู เป็นนายแพทย์ และแพทย์แผนโบราณ จำนวนมาก
ปีพ.ศ.2514 รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี
ปีพ.ศ.2524 รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

เรียนไสยเวทย์พุทธาคม

ด้านไสยเวทย์พุทธาคม นอกจากได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง แล้ว ยังได้มีหลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน ที่หลวงพ่อเมี้ยน ได้ศึกษา รับการถ่ายทอดไสยเวทย์พุทธาคม จากหลวงพ่อจัน องค์นี้จริง ๆ แล้วเก่งเข้มขลังเป็นที่สุด เพราะนอกจากเป็นหลานหลวงพ่อทองสุขแล้ว หลวงพ่อจันทร์ ยังได้วิชาจากอาจารย์ไสยเวทย์ชาวกระเหรี่ยง ชาวเขมร และหมอไสยศาสตร์ดัง ๆ อีกจำนวนมาก มีพลังจิตสูง เรื่องคงกระพันชาตรี(เหนียว) เป็นหนึ่งไม่รองใคร หลวงพ่อเมี้ยน ได้รับการถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดไม้ลวกยอดตอ คือต้องเอาไม้ลวกที่ขึ้นอยู่บนตอไม้จึงจะทำได้ ซึ่งหายาก และมีเดชวิชา และอักขระเลขยันต์ที่ลง วิชากำบังภัย วิชามหาอุด ยันต์โสฬส ยันต์ติดเสาร์บ้าน ขับคูณไสย ไล่ผี คาถาถอนพิษต่าง ๆ น้ำมนต์มหาจินดา เป็นต้น หลวงพ่อเมี้ยน ยังได้ขอเรียนวิชาไสยเวทย์พุทธาคมจากหลวงพ่อฉิน จนฺทสโร วัดชะอำคีรี หลวงพ่อฉิน ก็เป็นสุดยอดพระเกจิอาจารย์ด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีพลังจิตที่เข้มแข็งแก่กล้า ท่านสำเร็จธาตุลม (วายุ) นั่งปรกเสกวัตถุมงคลเคลื่อนที่ หลวงพ่อฉินนั่งทำสมาธิประมาณ 10-15 นาที จะได้ยินเสียงดัง “ซีด” ละก็วัตถุที่ท่านเสกก็จะเคลื่อนที่โครมครามทันที เป็นอนุภาพของพลังจิตที่แก่งกล้ามาก และเป็นพลังอำนาจ ความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งมีน้อยองค์นักที่สามารถทำได้ และท่านได้ยันต์พญาคางคกไว้ที่หลังหลวงพ่อเมี้ยน แสดงถึงว่าเป็นศิษย์ที่ได้เรียนวิชาจากท่าน

วัตถุมงคล หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร
หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร ได้สร้างวัตถุมงคลเหรียญรูปของท่านขึ้นเป็นครั้งแรกเหรียญพระครูโกวิทวัชรสาร วัดช้างแทงกระจาด ๒๕๑๕ เป็นเหรียญรูปไข่กว้าง 2.6 ซม. สูง 3.4 ซม. หน้าเหรียญมีรูปหลวงพ่อ 2 องค์ หลวงพ่อเมี้ยน และหลวงพ่อจันทร์ ด้านหลังเหรียญเต็มไปด้วยยันต์ครู และต่อมาในปีพ.ศ.2537 ได้สร้างเหรียญรูปไข่รุ่นพิเศษขึ้น เพื่อแจกในงานผูกพัทธสีมา วัดหนองข้าวเหนียว จำนวน 100,000 เหรียญ เหรียญรุ่นนี้ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก มีเกจิอาจารย์ร่วมนั่งปรกปลุกเสกจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทั้งนี้จะมาจากสาเหตุที่มีการสร้างจำนวนมากเกินไป และเหรียญที่ปั๊มมาด้อยคุณภาพจนเกินไป ส่วนใหญ่จะปั๊มจมูกไม่ขึ้น ตัดกินขอบ ขอบแตกเป็นต้น ต่อมาในปีพ.ศ.2552 ได้สร้างเหรียญรูปไข่รุ่น๑ ขึ้นเพื่อหารายได้สร้างวิหารพระ เป็นเหรียญรูปไข่ขนาดกว้าง 2.7 ซม.สูง 3.4 ซม. ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์หลวงพ่อทองสุข ที่ใต้ยันต์มีคำว่า รุ่น๑ สร้างจำนวน 4 เนื้อด้วยกัน มีเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 4 เหรียญ เนื้อเงิน สร้างจำนวน 320 เหรียญ เหรียญเนื้อนวะ สร้างจำนวน 431 เหรียญ เหรียญเนื้ออัลปาก้า สร้างจำนวน 7,042 เหรียญ นับว่าเหรียญรุ่นนี้ได้รับค่านิยมสูงสุด จากนั้นยังมีเหรียญรูปไข่รุ่นเสาร์๕ อายุ ๖๗ ปี ล็อกเก็ตรุ่น๑ ฉากทอง ฉากส้ม และฉากฟ้า พระรูปเหมือนหล่อโบราณรุ่น๑ พ.ศ.2553 พระรูปเหมือนปั๊มรุ่น๑ เหรียญโภคทรัพย์ พระผงปิตตา เหรียญเสมา และ พระยอดธง ตะกรุดต่าง ๆ ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่นมีพุทธคุณเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์มากมาย ไม่สามารถนำมาเขียนลงได้หมด วัตถุมงคลของหลวงพ่อเมี้ยน มีอนาคต ที่คู่ควรแก่การสะสมและสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง และได้นำเอาภาพวัตถุมงคลมาลงแต่เพียงบางรุ่นเท่านั้น ไม่สามารถนำมาลงได้ทั้งหมด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

หลวงพ่อเมี้ยน วัดหนองข้าวเหนียว

หลวงพ่อเมี้ยน วัดหนองข้าวเหนียว
หลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร อธิษฐานจิตปลุกเสก เหรียญรุ่น๑ ปีพ.ศ.2552

สร้างวัดหนองข้าวเหนียว ปีพ.ศ.2532

หลวงพ่อเมี้ยน มาสร้างวัดหนองข้าวเหนียวเพราะเป็นบ้านเกิด ถิ่นกำเนิดของท่าน ได้มีชาวบ้านมานิมนต์หลวงพ่อให้มาช่วยสร้างวัดหนองข้าวเหนียวบนเนื้อที่ ทีแรกมี 10 ไร่ ได้มีนายเอก ผาสุก เจ้าของโรงเลื่อย ซื้อถวายและวัดซื้อ 5 ไร่ หลวงพ่อเมี้ยน ได้ซื้อเพิ่มเติมอีก 7 ไร่ 2 งาน รวมเนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน หลวงพ่อได้สร้าง ศาลากุฏิสงฆ์หลังใหญ่และอุโบสถ์ วิหารพระ ทั้งกฏิสงฆ์ไม้ ห้องสุขาหลายห้อง ทั้งหมดใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก จึงนับได้ว่าหลวงพ่อเมี้ยนเป็นทั้งพระเกจิอาจารย์ที่เรืองเวทย์พุทธาคม อีกทั้งเป็นพระนักพัฒนาที่น่าศรัทธาเลื่อมใสอย่างยิ่ง เป็นที่เศร้าโศกและอาลัย ของศิษย์ยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน

เมื่อหลวงพ่อเมี้ยน ปญฺญาสาโร ได้อาพาธและละสังขารมรณภาพลงเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 รวมสิริอายุได้ 76 ปี 2 เดือน 18 วัน

ที่มา http://www.pnt19.com/biography/26