หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 17

หัวข้อ: ลองทำ เครื่องทำความสะอาดคัดร่อนข้าว แบบเอนกประสงค์ที่ทำงานได้ไวและสะดวกกับผู้ใช้

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ลองทำ เครื่องทำความสะอาดคัดร่อนข้าว แบบเอนกประสงค์ที่ทำงานได้ไวและสะดวกกับผู้ใช้


    ห่างจากบ้านมหาไปนานบ่มีเรื่องมาเล่ามาเล่นนำ
    มื้อนี้สิเอาเรื่องการทำเครื่องทำความสะอาดข้าวเปลือกข้าสาร
    ที่ผมได้ทดลองทำขึ้นมาใช้เองมาเว้าสูฟังครับ
    ทำไปนำวิเคาะห์วิจัยไปนำถือเป็นการศึกษาเรียนรู้ไปในตัว

    ทำหรือสร้างข้นมาแล้วละครับโตหนึ่ง ทำการทดลองเบื้องต้นแล้วถือว่าใช้ได้
    ถือว่าตอบโจทย์ที่มีอยู่หลายข้อของผมได้ดีแต่ยังมีหลายจุดที่ต้องแก้ไข
    ซึ่งคงต้องไปแก้ไขในตัวต่อไปพุ้นละ
    ตัวแรกยกให้เป็นตัวต้นแบบลองทำใช้เฮ้ดใช้นำเพิ่นเบิ่งสิใช้ได้บ่
    เฮ้ดแล้วปรากฏว่าใช้ได้ ดีใจมากๆทีเดียวละครับและจะได้ปรับปรุงแก้ไข
    ให้ออกมาตอบโจทย์ทีตัวเองตั้งไว้ให้ครบทุกข้อ ซึ่งโจทย์หรือความต้องการกะหลายคักยุ่
    เช่นข้อแรกคือต้องถูก คือประหยัดเงินลงทุน

    ครับกะสิได้แสดงรายละเอียดแนวคิดหรือความต้องการการทำการสร้างให้พี่น้องเบิ่งไปเรื่อยๆ
    พี่น้องไสนใจกะลองเอาไปเฮ้ดนำเบิ่งมันคือกะมาเว้าสูกันฟังแชร์กันครับ



  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

















    ภาพเก่าๆ ที่ผมถ่ายเก็บไว้ ถ้าเรามีข้าวในยุ้งทำอย่างไรจึงจะได้ข้าวสารที่สวยๆ นึ่งหุงออกมาแล้วสาวยน่ากิน
    ตอบว่าต้องมีเครื่องมือมาใช้ในการจัดการในแต่ละขั้นตอนซึ่งหลักๆ ก็คือเครื่องสีข้าวแต่ลำพังเครื่องสีข้าวเล็กๆ
    ที่เราซื้อหามาใช้ในครัวเรือนได้นั้นมันยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมดจำเป็นต้องมีเครื่องมือตัวอื่นๆ เข้ามาเสริม
    นั่นก็คือเคื่องทำความสะอาดข้าวเปลือกก่อนทำการขัดสีและทำความสะอาดคัดขนาดข้าวสารหลังการขัดสี


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:47.

  3. #3
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558





    ขั้นตอนคร่าวๆ แสดงการสีข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสาร จะมีการทำความสะอาดข้าวเปลือกก่อนการขัดสีในขั้นตอน
    ที่ 1 และทำความสะอาดคัดร่อนขนาดข้าวสารในขั้นตอนที่ 4
    ถ้าเราสามารถทำขั้นตอนที่ 1 ถึงขั้นตอนที่ 4 ได้เราก็จะได้ข้าวสารที่เมล็ดสวยพร้อมนึ่งหุงแล้วครับยังคงเหลือ
    แต่จะมีเม็ดกรวดทรายปนอยู่บ้างไม่มากต้องมาซาวเก็บคัดด้วยมืออีกครั้งหรือจะผ่านเครื่องคัดแยกกรวดได้ยิ่งดี


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:38.

  4. #4
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ก่อนลงมือทำผมให้ดูภาพการทดลองที่เรียกว่าประสบผลสำเร็จตามที่ผมต้องการ











    จากภาพจะเห็นว่าเครื่องสามารถคัดแยกสิ่งเจือปนที่ไม่ต้องการออกมาจากข้าวเปลือกได้อย่างหมดจดทีเดียว
    ผมได้ผสมเมล็ดทานตะวัน แกลบ หญ้า ใบไม้ ลงไปในข้าวเปลือกแล้วเทลงใส่เครื่องร่อนเขย่าปรากฏว่าเครื่อง
    สามารถคัดแยกออกมาได้หมดหรือไม่หมดก็เหลือในปริมาณที่น้อยมากๆ ไม่มีผลต่อเครื่องขัดสีแน่นอน

    คำถามต่อไปคือเครื่องมันทำงานได้เร็ว สะดวกในการใช้งาน ปลอดภัย สิ้นเปลืองพลังงานมากน้อยแค่ไหน
    ต้นทุนการทำถูกหรือแพงมากไหม ครับผมจะค่อยๆ เล่าให้ฟังครับ อาจจะทำคลิปไปลงยูทุ้ปแต่ขอมาเล่า
    ให้พี่น้องบ้านมหาฟังก่อนก็แล้วกันครับ ถ้ามันใช้ได้ดีตอบโจทย์การใช้งานสมดังตั้งใจค่อยว่ากันต่อ


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:41.

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558











    ตัวอย่างเครื่องสีข้าวขนาดเล็กที่มีใช้มาหกเจ็ดปี มีข้อดีหลายอย่างข้อเสียมีอยู่ข้อเดียวคือสีข้าวได้วันละสามสี่
    กระสอบปุ๋ยตามขนาด มีค่าใช้จ่ายราวๆ สองบาทต่อหนึ่งกิโลกรัมข้าวเปลือกคือค่ากระแสไฟฟ้าค่าสึกหลอลูกยาง
    ค่าสึกหลออะไหล่ค่าเสื่อมราคาถ้าจะคิดทั้งหมด ข้าวเปลือกกระสอบปุ๋ยหนึ่งก็ตกห้าสิบบาทแบบไม่รวมค่าแรงครับ

    ภาพกลางข้าวที่สีได้จะมีข้าวเม็ดหักปนมาด้วยแม้จะมีตะแกรงคัดปลายข้าวแบบบิ้วอินแต่ก็คัดได้เพียงเล็กน้อย
    หากไม่คาดหวังจนเกินไปข้าวสารที่ได้จากเครื่องสีขนาดเล็กเหล่านี้ถือว่าสวยมากทีเดียวครับ

    ภาพตัวล่างคือเครื่องร่อนทำความสะอาดข้าวเปลือกข้าวสาร คัดร่อนได้ทุกอย่างแหละครับแค่เปลี่ยนรูตะแกรง
    ให้ตรงกับของที่จะมาคัด เม็ดถั่วเม็ดงา ข้อเสียสำหรับผมหลังใช้งานแล้วคือทำงานได้ช้าซึ่งก็ช้าตามขนาด
    และถาดด้านบนสำหรับรับของที่จะมาร่อนผมก็ว่ามันเล็กไป ถ้าร่อนข้าวเปลือกต้องคอยใช้ถ้วยตักข้าวเปลือก
    จากถุงหรือกระสอบใส่เรื่อยๆ จะยกกระสอบเทเหมือนโรงสีขนาดกลางขนาดใหญ่ไม่ได้คือต้องยืนคุมเข้ม
    และด้านล่างข้าวที่ผ่านการคัดแยกจะไหลลงมาปลายจมูกที่เราใช้กระป๋องกาละมังรองไว้ผมก็ว่ามันอยู่ต่ำไป
    ถ้าจะคัดข้าวเปลือกเพื่อทำพันธุ์สักสิบกระสอบปุ๋ยต้องตักออกและยกกระแป๋งข้าวมาเทกลับเข้าถุงกันทั้งวัน

    นั่นเป็นข้อจำกัดของเครื่องใช้ที่เรามี เราต้องไปซื้อรุ่นที่ตอบโจทย์เรามาใช้ แต่รุ่นที่ตอบโจทย์ตามไล่หาดูในเน็ต
    ในตลาดก็ไม่ไหวเรื่องราคาอีกครับ เครื่องร่อนทำความสะอาดแบบที่ผมต้องการราคาอยู่ที่สี่ห้าหมื่นขึ้นไป


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:43.

  6. #6
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558





    ได้รับรู้ข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มีใช้บ้างแล้วก็มาคิดออกแบบให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการครับโดยอาศัยของที่ซื้อมา
    นั่นแหละเป็นแบบและต้องขอขอบคุณมากๆสำหรับคนที่คิดก่อนทำทำก่อนให้ผมได้เป็นแบบอย่างได้มาต่อยอดโดย
    ไม่ต้องกลับไปคิดใหม่ทั้งหมด

    ผมออกแบบทำถาดเทข้าวให้มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับเทข้าวได้ราว 30-50 กิโลกรัมข้าวเปลือกหรือราว
    หนึ่งถึงสองกระสอบปุ๋ยเพื่อไม่ต้องตักข้าวใส่บ่อยๆ ตักข้าวเปลือกออกจากกระสอบปุ๋ยไม่ง่ายครับทำเหงื่อตกได้

    ยกชุดตะแกรงร่อนให้อยู่สูงเพื่อจะสามารถเอาถุงเข้าไปรองได้เลยไม่ต้องใช้กระป๋องกาละมังไปรองและยกมาเท
    ซึ่งต้องทำงานหลายรอบ

    ตะแกรงร่อน ทำให้ใหญ่มีพื้นที่มากจะร่อนคัดแยกข้าวหรือเมล็ดพืชได้ไวๆ

    ชุดขับเคลื่อน ออกแบบให้เป็นสองพูลเล่เพื่อเลี่ยงการใช้พูลเล่ตัวใหญ่กินพื้นที่แต่ก็ต้องแลกกับการใช้เพลาและลูกปืน
    ตุ๊กตาสองชุดเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มเวลาทำขึ้นมาเล็กน้อย

    โบรเว่อร์เป่าดูดลม ทำเองไม่ได้ต้องซื้อแบบสำเร็จมาติดตั้ง

    รูปล่อยข้าวลง ออกแบบให้เป็นฟันคล้ายลูกมะเฟืองหรือเรียกว่าแบบโรตารี่เพื่อการกระจายข้าวให้เป็นแพ
    ลงไปยังตะแกรงที่รอร่อนคัดอยู่ด้านล่าง

    แผ่นตะแกรงร่อน ก็เป็นเหล็กแผ่นเจาะรูกลมหรือรูรีเหมือนที่คนอื่นๆ เขาทำกันครับ

    ชุดดักแกลบ ก็ออกแบบเป็นห้องขั้นบันไดสโลปเหมือนที่คนอื่นเขาทำกัน

    โครงแท่นเครื่องเห็นหลายคนทำมีทั้งใช้เหล็กขนาดใหญ่ที่ดูมั่นคงแข็งแรงมากๆ และมีทั้งใช้เหล็กโครงที่ไม่ใหญ่มาก
    ผมเลือกใช้เหล็กที่เล็กมีน้ำหนักเบากว่าเพื่อง่ายต่อการยกขึ้นท้ายรถยามขนย้าย

    สนนราคาเนื่องจากเป็นตัวแรกตัวเองตัดเหล็กอ้อกเหล็กไม่เป็นแต่ด้วยความที่ทำงานร่วมกับช่างเหล็กช่างไฟ
    ในโรงงานซึ่งหลายคนเป็นช่างฝีมือดี ทำงานให้นายจ้างได้ทุกอย่างที่เขาสั่งแล้วทำไมจะทำให้ตัวเองบางไม่ได้
    เรามาลองดูกันไหมผมออกทุนพี่ๆ ออกแรงนะผมจ้างพี่ราคาครึ่งหนึ่งของค่าแรงในโรงงานก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ
    ถ้าสำเร็จขึ้นมาใครจะไปทำขายก็แล้วแต่สะดวก


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:37.

  7. #7
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558


    ต้องขอโทษกับปัญหาเดิมๆ ที่ผมแก้ยังไม่ได้ รูปไม่โชว์ครับ ในเครื่องที่ผมโพสท์ก็ขึ้นดีปกติแต่พอไปเปิดใน
    เครื่องอื่นในโทรศัพท์กลับไม่มีภาพ ในหลายๆ กระทู้ภาพหายต้องมาลองลบและใส่เข้าไปใหม่ซึ่งก็ทำแบบเดิม
    นั่นแหละครับ บางภาพลบแก้ไปเที่ยวเดียวได้บางภาพลบใส่สามสี่เที่ยว ต้องขออภัยผู้ที่เข้ามาอ่านเด้อครับ
    ปัญหาหลายๆ อย่างผมแก้ได้ แต่เรื่องไอทีนี่ผมไม่จับไม่บายไม่เป็นมันเลยจริงๆ
    ผมเก็บภาพไว้ในไดรฟ์และในรูปภาพของกูเกิ้ลครับแล้วก็ก้อปแอ้ดเดรสมาวางแต่ในไดรฟ์ลองแล้ววางไม่ได้
    และเครื่องโน๊ตบุ๊คผมก็ไม่ดี แป้นพิมพ์เสียหลายแป้นพิมพ์ผิดพิมพ์หลุด เครื่องเอซุสไอสามแต่ปีน้ำท่วมใหญ่














    ครับพอได้แบบแล้วก็วิ่งซื้อของเริ่มต้นเงินหมื่นบาทก็หายไปจากกระเป๋าเพราะอุปกรณ์หลายรายการพอสมควร
    เริ่มตัดเหล็กขึ้นโครง พับถาดเทข้าวที่ออกแบบให้ยกสวมถอดได้ ประกอบแผ่นตะแกรงร่อนที่มีทั้งหมดสามชั้น
    ให้เป็นชิ้นเดียวกันเสร็จแล้วทาสีกันสนิมและนำมาประกอบเข้ากับชุดโครง ตำแหน่งถาดเทข้าวดูจะอยู่สูงไปหน่อย
    เพราะเว้นด้านล่างไว้ติดตั้งชุดดักแยกแกลบฟาง ใช้เชือก safety Belt ผูกรั้งไว้ก่อนและทดลองโยกหาระยะ
    งานช่วงแรกกินเวลาอยู่สองสัปดาห์เพราะยากตรงพับเหล็กแผ่นทำถาดเทตัวบน เป็นงานแฮนด์เมดเกือบทั้งหมด


    Attached Images Attached Images  
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:51.

  8. #8
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558


    ทำงานเฉพาะสาร์อาทิตย์ครับเพราะโควิดเข้าวันหยุดช่างไม่มีงานพิเศษที่ไหนจะพาลูกเมียไปกินไปเที่ยว
    ก็ติดขัด รถไม่ติดแต่มันติดที่กระเป๋าเลยหางานทำแก้เซ็ง จะทำอะไรดีคิดอยู่นานสุดท้ายทำนี่แหละอุปกรณ์
    ที่มันเกี่ยวกับปัจจัยสี่นี่แหละ เกี่ยวกับข้าวน้ำอาหารน่าจะดูไม่เบื่อง่าย




    ประกอบไปทีละอย่างทดลองไปทีละขั้น ก่อนอื่นทดสอบระบบฟีดเดอร์หรือชุดปล่อยข้าวที่ออกแบบแบบโรตารี่
    Rotary Feeder ใครคิดไม่ออกก็ให้นึกถึงภาพลูกบวบเหลี่ยมหรือลูกมะเฟืองเอาไม้แทงทะลุตามยาวแล้วใส่เข้า
    ไปในท่อหรือกระบอกไม้ไผ่ ที่กระบอกเจาะรูตามยาวทั้งด้านบนและด้านล่าง เราปล่อยข้าวลงที่รูด้านบนของ
    กระบอกแล้วหมุนลูกบวบ ข้าวก็จะร่วงลงไปในแต่ละร่องพูของบวบและเคลื่อนตามร่องลูกบวบไปเรื่อยๆ จนถึง
    รูที่เจาะไว้ด้านล่างของกระบอก พอถึงตรงนั้นเมล็ดข้าวก็จะร่วงลงไปยังตะแกรงร่อนด้านล่าง เข้าใจนะครับฮ่าๆ
    ที่ออกแบบแบบนี้เพื่อหนีปัญหาการอุดตันในช่องปล่อยข้าวหรือ Shutter แบบสี่เหลี่ยมและต้องการให้ข้าวร่วง
    ลงไปแบบกระจายเต็มหน้าตะแกรงที่รอรับด้านล่าง
    Rotary ปล่อยข้าวจะหมุนตามสายพานซึ่งถูกขับมาจากมอเตอร์ที่ด้านล่างและทดความเร็วโดยพูลเล่อีกครั้ง
    ทดรอบลงมาให้หมุนช้าๆ ครับ ทำบ่าตุ๊กตาขึ้นไปรับเพลาเพิ่มขั้นตอนแต่เพราะความต้องการเป็นแบบนั้น
    ก็ต้องทำตามที่ออกแบบไว้ ในโรงงานที่มีการขนถ่ายหรือเทจำพวกผงแป้งอาหารสัตว์หรืออะไรที่เป็นเม็ดใช้ลิ้น
    หรือวาล์วแบบนี้เสีย่วนใหญ่ครับผมก็ลอกแบบมาจากในโรงงานที่ผมทำงาน





    เมื่อคว่ำถาดลงจะเห็นตำแหน่งติดตั้ง Rotary โดยเชื่อมแผ่นเหล็กขึ้นมาเป็นช่องหรือห้องรับลูกบวบ





    Rotary ชนิดลูกบวบของผมเมื่อมองจากด้านบนหลังการติดตั้ง ช่างใช้เวลาทำลูกบวบตัวนี้อยู่ทั้งวันยันเย็นครับ
    เอาท่อเหล็กขนาดที่พอหาได้มาเชื่อมปีกเหมือนพวงมาลัยเรือสีแดงนั้นเลย ขนาดความยาวเท่ากับช่องที่ทำรับไว้
    และมีท่ออีกอันที่ใหญ่กว่ามาสวมด้านนอกทำเป็นเสื้อเหมือนเสื้อสูบเครื่องยนต์ ท่อตัวนอกเจาะรูบนล่าง
    รูด้านบนเอาเหล็กแผ่นเชื่อมเพื่อเสียบเข้าไปในช่องใต้ถาดดังภาพแรกครับ ส่วนรูด้านล่างเพื่อให้ข้าวไหลออก
    และปิดหัวสองด้านของท่อตัวนอกด้วยตลับลูกปืนเพื่อจะได้เสียบร้อยเพลาขับเข้าไป

    ประกอบเสร็จแล้วลองหมุนด้วยมือ มีติดขัดเนื่องจากปีกมะเฟืองขนาดสูงต่ำต้องรื้ออกมาขัดเจียกันหลายเที่ยว
    ทำมือไม่ได้ขึ้นแท่นกลึงอะไรกันเลยจะมีก็พูลเล่ซื้อมาแล้วต้องเข้าร้านกลึงล้างรู มีรูมิลรูนิ้วต้องกลึงเข้าหากัน
    แก้เสร็จสวมประกอบเข้ากันอีกครั้ง ที่นี้ลองมือหมุนดูปรากฏว่าหมุนคล่องลองหยอดเมล็ดข้าวลงไป อึ่มเสียงดี
    หมุนได้เมล็ดข้าวทะยอยร่วงลงยังตะแกรงด้านล่างอย่างตั้งใจเดี่ยวจะได้ใส่สายพานขับจริงกันละทีนี้


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 17:13.

  9. #9
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558

    ถ้าใครไม่เห็นภาพหรือภาพไม่โชว์ค่อยว่ากันผมขอเล่ารายละเอียดการถ่ายทำไปเรื่อยๆ ก่อนละกันครับ





    ทีนี้มาประกอบมอเตอร์ มู่เล่ สายพาน ครับ มอเตอร์ขนาดเล็ก 1/4 แรงม้าก็น่าจะเพียงพอในการเหวี่ยงโยกชุด
    ตะแกรง เลือกมอเตอร์ตัวเล็กเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า มู่เล่หรือพูลเล่ใช้ขนาด 2 นิ้วและ 12 นิ้วจะทำให้ได้ความเร็ว
    ในการโยกอยู่ที่ 240 รอบต่อนาที ระยะชักข้อเหวี่ยงที่อยู่ด้านใต้ชุดตะแกรงคือ 5 เซ็นติเมตร ความเร็วรอบการ
    โยกเหวี่ยงระยะชักก็ดูมาจากของท่านอื่นๆ ครับว่าประมาณนี้แต่พยายายามหลบตัวเลขไม่ให้ซ้ำกับของคนอื่น





    ประกอบใส่สายพานเสร็จสรรพต่อสายมอเตอร์เรียบร้อย เช็คทิศทางหมุนมอเตอร์มู่เล่เรียบร้อยกลั้นใจเสียบปลั๊ก
    โอ้ทุกคนกระโดดถอย กระโดดตามครับ กระโดตามตะครุบรีบจับทันควัน ชุดตะแกรงร่อนมันโยกและทั้งตัวมันก็
    โยกขยับตามโดยสังเกตุจากตำแหน่งขาตั้งเครื่องดังในภาพครับ อ้าวทำไมเป็นแบบนี้สามช่างใหญ่มองหน้ากัน
    จะว่ามันเร็วไปดูของคนอื่นดูมู่เล่เขาแล้วก็เร็วพอๆกันนะ ถ้าจะว่าระยะชักมันกว้างไปของคนอื่นโยกมากกว่าเราก็มี
    ช่างคนหนึ่งบอกว่าโครงมันเล็กไป ผมเอาเท่ากับเจ้าที่ใช้เหล็กโครงเล็กที่สุดนะ ช่างคนหนึ่งบอกเป็นที่สายพาน
    สายพานมันเบี้ยว กลับไปนอนดูคลิปในยูทูปปรากฏว่าระบบการห้อยแขวนมีทั้งใช้สายพานใช้เหล็กแท่งเหล็กบาร์
    ใช้สลิงใช้โซ่แขวนมีครบทุกแนว ช่างคนหนึ่งบอกผมเคยไปทำให้ที่โรงสีใหญ่เขาใช้เหล็กแผ่นสี่นิ้วแขวนเลยนะ





    อ้าวลองดูรื้อสายพานออกติดตั้งชุดแขวนแบบเหล็กแท่งเพื่อบังคับการดิ้นกระโดด เสียเวลาไปอีกวันสองวันทั้งวิ่ง
    ซื้อของเพิ่ม แก้ไขเสร็จเสียบปลั๊กโยกใหม่ยังกระโดดดีเหมือนเดิม





    เอผมว่าแบบของเฮียเขาเหล็กแท่งพออ้อกเชื่อมเข้าไปแล้วมันฟิกแน่นปรับระยะไม่ได้ ต้องทำให้มันปรับได้ด้วย
    ผมวิ่งไปร้านเหล็กเก่ากิโลสิบห้าบาทแถวเวิร์คพ้อยขากลับแวะไทวัสดุเดินไปเจอน็อตแขวนหรือ eye bolt และ
    เกลียวเร่ง เอานี่ไปแขวนใช้เกลียวเร่งจะได้ปรับระยะตึงหย่อนแต่ละด้านได้ ไปร้านขายมู่เล่สายพานที่รังสิตได้
    เหล็กบูชเหล็กรองแหวนอีแปะมาอีกหลายขนาด ตัวแรกไม่รู้ว่างบจะจบอยู่ตรงไหนไม่เป็นไรเพราะเพิ่งออกสตาร์ท
    และก็ประกอบระบบเกลียวเร่งอีกด้านดังภาพบนผลก็คือยังรักษาการกระโดดได้ดีเท่าเดิม อึ่มเป็นไปได้อย่างไรหรือ
    ขาตั้งพื้นมันไม่มั่นคงงั้นเชื่อมแผ่นเหล็กทำเป็นฟู๊ตเตอร์ตีนเป็ด อึ่มก็ยังขยับเหมือนกบไขลานต้องคอยดึงไว้





    หรือว่าเป็นเพราะระบบข้อเหวี่ยงลูกเบี้ยวที่ทำขึ้นมาเองมันไม่ได้มาตรฐานแต่ดูหลายๆเจ้าก็เหมือนเขาทำเองนะ
    ข้อเหวี่ยงหนีศูนย์ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรมาก โมดิฟายชุดข้อเหวี่ยงด้านล่างอยู่อีกวันสองวันเวลาผ่านไปเป็นเดือน
    หลายเสาร์อาทิตย์แล้ว ซื้อลูกปืนตาโล่แบบต่างๆมาลองใส่ เสียบปลั๊กทีไรก็ยังกระโดไม่หยุด ช่างเครื่องคนอื่น
    มาเห็นเขาก็ว่าโครงมันเล็กเหล็กฉากแค่ 3x3 เซ็นต์ติเมตรมันเล็กไป หรือจะดามขาใส่สเตย์หูช้างเสริมดีไหม





    หรือว่ารอบมันเร็วไปถ้าจะลดรอบต้องเปลี่ยนมู่เล่ตัวหลังให้ใหญ่ขึ้น 14,16,หรือ 18 นิ้ว มู่เล่ตัวใหญ่รูเพลาก็ใหญ่
    ซื้อมู่เล่ตัวละเกือบพันบาทเพิ่มไม่พอต้องเปลี่ยนเพลาเปลี่ยนลูกปืนตุ๊กตา มาถึงขั้นนี้แล้วต้องทำต่อครับ
    ซื้อมู่เล่ทดรอบและสายพานไล่ขนาดมาสามระยะเอาแบบค่อยๆช้าลงๆ ประกอบมู่เล่ทีละเบอร์ทดรอบลงเรื่อยๆ
    ที่ความเร็ว 200 รอบยังกระโดด มาเลิกกระโดดที่ความเร็วรอบ 180 รอบต่อนาทีที่อัตราทดมู่เล่ 2 นิ้วคู่กับ 4 นิ้ว
    และ 3 นิ้วคู่กับ 12 นิ้ว อึ่มเกือบจะเก็บเครื่องมือจ่ายตังค์กันแล้วเชียว แล้วทำไมของคนอื่นเขาสองร้อยกว่ารอบ
    และก็ใช้สายพานเหมือนกันนี่นะทำไมของเขานิ่งไม่ขยับเขยื้อน ดูแล้วน่าจะมาจากชุดตะแกรงที่หนักเกินไป
    ผมซื้อเหล็กนิ้วมาทำโครงของตะแกรงแต่ช่างมองว่ามันเล็กไปเลยเอาเหล็กสี่เซ็นติเมตรทำโครงตะแกรง
    โครงตะแกรงซ้อนกันสามชั้นและมีแผ่นเหล็กเจาะรูที่เป็นแผ่นร่อนวางทับอีกทำให้มีน้ำหนักมากพอเจอแรงเหวี่ยงที่
    ความเร็ว 240 รอบต่อนาทีเลยโย้ตาม ประกอบกับโครงที่น้ำหนักเบาทำให้ขยับไปด้วยกัน แต่พอลดความเร็วลงมา
    โครงก็ค่อยๆ ขยับน้อยลงจนไม่ขยับที่ความเร็ว 180 รอบต่อนาที และที่ความเร็วต่ำกว่านี้ก็ดูเหมือนเขย่าเบาไป

    ครับออกสตาร์ทก็สดุดเจอปัญหาใหญ่ปั้บทำเอาแทบถอดใจแต่เพราะเสียดายเงินที่จ่ายไปเป็นหมื่นเลยตื้อต่อ
    และถ้าใครมองเห็นภาพก็จะเห็นว่าภาพมันมีหลากหลายอารมณ์ เวลา อากาศ แดดร่มแดดออกแตกต่างกันใน
    แต่ละวัน สถานที่ถ่ายทำฉากก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือช่างจึงมีการเบลอหรือลบแบล็คกราวน์เพื่อดึงชิ้นงาน
    ขึ้นมาจากมุมมืดเล็กน้อยครับ ฮ่าๆๆ ดูเอาความสาระที่มีพออยู่บ้างก็แล้วกันครับ


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:56.

  10. #10
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มลาวสาวขะแมร์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    รังสิต
    กระทู้
    558


    พอระบบโยกเขย่าทำงานได้แล้วก็มาลองทำการร่อนกันเลยเพราะแผ่นตะแกรงร่อนด้านล่างติดตั้งพร้อมแล้ว
    ตัวลิ้นปล่อยข้าวหรือโรตารี่ลูกบวบก็ติดตั้งพร้อมแล้ว ระบบขับเคลื่อนทดรอบว่าจะให้โรตารี่หมุนที่ความเร็วเท่าไหร่
    ค่อยๆ ทดลองปรับไปพร้อมกับการไหลของข้าว ส่วนชุดดักฝุ่นฟางแกลบค่อยทำเป็นขั้นตอนต่อไป ทำไปทีละชุด
    ทดลองไปทีละอย่าง เกิดทำจนเสร็จสรรพค่อยมาทดลองผลออกมาปรากฏว่าใช้ไม่ได้พาลจะทำให้ลมจับได้ง่าย
    เพราะไม่รู้ว่าใช้ไม่ได้ตรงไหนเหมือนตามรอยโคในคอก ฮ่าๆๆ คำของหลวงพ่อยังก้องอยู่เสมอ ครับทำการเดิน
    เครื่องแล้วค่อยๆ เทข้าวเปลือกลงในกระบะให้ข้าวไหลไปยังชุดร่องลิ้นโรตารี่ โอ้เสียงออกมาดีมากครับ เสียงดี
    ข้าวก็ไหลลงช้าๆ แต่พอมองดูใกล้ๆ ไฉนมีเม็ดข้าวสาร ข้าวสารมาจากไหนร่อนข้าวเปลือกได้ข้าวสารแปลกแต่จริง
    สังเกตุดูดีๆ ปรากฏว่าเมล็ดข้าวเปลือกเข้าไปติดขัดในช่องระหว่างฟันหรือใบของโรตารี่กับท่อเหล็กที่เป็นตัวเสื้อ
    และด้วยแรงของมอเตอร์มู่เล่ที่ขับทำให้เมล็ดข้าวถูกบี้บดจนเปลือกหลุดออกมาเป็นข้าวกล้อง อึ่มทำไมเป็น
    อย่างนั้นไปได้ เป็นไปในสิ่งที่ไม่ได้คิดเผื่อไว้เลย





    ลักษณะการติดขัดดังในภาพครับคือระหว่างใบกวาดของโรตารี่กับกระบอกเสื้อจะมีระยะห่างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้
    เหล็กมันเบียดสีกัน แต่ระยะห่างเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ปลายหางหรือโคนของเมล็ดข้าวเปลือกแยงเข้าไปได้
    และก็หมุนไปด้วยกันเม็ดข้าวค่อยๆเสียบลึกเข้าจนเปลือกแตก ถ้าติดเมล็ดเดียวไม่เป็นไรนี่มันติดตลอดความยาว
    ของใบโรตารี่จนกลายเป็นแรงฉุดแรงฝืนหรือแรง friction คงจะอย่างนั้น แต่เพราะเป็นชิ้นงานที่ต้องทำให้เป๊ะ
    แต่เราทำกันด้วยมือความเป๊ะค่อนข้างมีน้อยจงเกิดปัญหานี้ขึ้น สามช่างคุยวิเคราะห์จิบกาแฟพอแก้อายสุดท้าย
    สรุปว่าการปล่อยข้าวด้วยวิธีใช้ Rotary Feeder เข้าช่วยนี้ดูจะไม่เหมาะกับโปรดักส์หรือวัตถุที่เป็นเมล็ดข้าว
    ถ้าเป็นผง แป้ง เมล็ดถั่ว หรือของแข็งที่มีรูปทรงค่อนข้างกลมไม่มีปลายแหลมเล็กยื่นออกมาแบบนั้นคงพอได้
    หรือถ้าจะใช้ได้จริงก็ต้องเป็นสินค้าที่ผลิตที่ได้คุณภาพมีแก็บหรือช่องห่างของตัวใบกวาดกับตัวเสื้อน้อยๆ

    สุดจะแก้ไข พักไว้ก่อนค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ ไปทำตัวอื่นที่ยังไม่ลงมือทั้งห้องคัดแยกฟางแกลบทั้งโบรเวอร์


    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุ่มลาวสาวขะแมร์; 07-09-2020 at 18:48.

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •