หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 16

หัวข้อ: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。 ◎。

    。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。 ◎。



    +++++++ความเป็นมาของผญา ฮีตตำนานคำอีสาน ควรเฮียนฮักษาไว้+++++++


    สังคมอีสานในสมัยโบราณ เป็นสังคมสงบสุข ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว หน้าฝนทำไรทำนาหาปูหาปลามาเลี้ยงชีพ หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วจะพักผ่อนอยู่กับบ้านเรือน ตอนเย็นๆ สาวๆ จะไปหาเก็บหลัวเก็บฟืนตามป่าใกล้บ้าน กลาวคืนจะมีการลงข่วงเข็นฝ้าย กลางวันจะทำการต่ำหูก ส่วนหนุ่มๆ ก็จะไปหาอยู่หากิน คือ ไปหาปูหาปลาตามท้องนาห้วยหนองคลองบึงมาเป็นอาหาร

    การเป็นอยู่ของชาวบ้านอีสาน จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่อย่างนี้ คือ จะมีความอบอุ่น สงบสุข ทำให้เกิดวรรณกรรมที่มีคุณค่าทางสังคมในดินแดนแห่งนี้..... เช่น สังข์ศิลป์ชัย ผาแดงนางไอ่ กาฬเกษ และผญา เป็นต้น วรรณกรรมเหล่านี้ ได้สืบต่อกันมาตั้งแต่บรรกาล จึงทำให้เกิดเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวอีสานโดยแท้........

    การพูดผญา หรือการจ่ายผญา ได้สืบทอดกันมามากกว่า ๓,๐๐๐ ปี จึงกลายเป็นประเพณีวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาวอีสาน ผญาเป็นเพียงคำพูดที่ต่อเนื่องกันมา หรือจำกันต่อๆ มา ไม่มีการเรียนการสอนในสถานศึกษาอย่างจริงจัง ปล่อยให้วรรณกรรมส่วนนี้ค่อยๆ หมดไปจากสังคมชาวอีสาน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง จึงขอฝากให้ลูกอีสานทุกท่านได้ช่วยกันศึกษา จดจำและนำไปใช้หรือถ้าหากนำไปเป็นหลักสูตรเรียนในสถานศึกษาได้ ในนามของวรรณกรรมท้องถิ่น จะทำให้วรรณกรรมชิ้นนี้ได้คงอยู่คู่กับชาวอีสานสืบไป.....





    ขอขอบคุณ..........ผศ.สุระ อุณวงศ์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (พ่อของหมู่คะน้อยเอง)
    ที่ได้ให้ข้อมูลต่างๆ และชี้แนะในการเขียนคำผญา
    ..........พ่อ-แม่ ที่ให้ลูกเกิดมาเป็น "ลูกอีสาน"
    ...........ทุกกำลังใจ ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนคำผญา
    ...........ซุคู่ซุคน ที่เข้ามาเขียนคำผญา คำอีสานของเฮา หรือ ทั้งเข้ามาอ่านผ่านไปผ่านมาแถวๆ นี้ ค่ะ



    ((ไว้จะเอาผลงานที่อาจารย์เพิ่นเขียนรวบรวมไว้มาลงให้อ่านเด้อค่ะ รวมถึงผลงานของคะน้อยเอง(ซึ่งยังบ่ประสีประสา) ......))
    .................................โปรดติดตามและซ่อยตื่มคำนำกันเด้อค่ะ........................................


    [wma]http://wcs.hopto.org/up/file/Boonpeng_assajun.wma[/wma]
    ...........ลำล่อง : อัศจรรย์ // แม่บุญเพ็ง .........
    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。


    ซ่อยกัน อนุรักษ์ไว้ ฮีตเก่าโบราณ
    ซ่อยกัน สืบสาน ประเพณีเค้า
    ซ่อยกัน ตุ้มเข้า สามัคคีพร้อมพรั่ง
    ปราชญ์ ยอยกย่อง คุณค่า เมื่อลุน


    ผศ.สุระ อุณวงศ์
    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  3. #3
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ โป้ยก่าย
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    กระทู้
    1,603

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。

    ผมคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์ในคำผญา ผมชอบอ่านคำผญาแต่ผมไม่ค่อยจะได้ยินคำพูดผญาบ่อยนัก แต่ผมก็เข้าใจในทำนองการพูดผญาผมพยายามอ่านผญาเพื่อนสมาชิทุกๆท่านที่ตั้งกระทู้ในเวปคำผญา สุภาษิต ผมคิดที่จะแต่งคำผญาตอบกระทู้เพื่อนสมาชิก แต่ก็ยังไม่มีความมั่นใจ ใช้เวลาศึกษาอยู่พอสมควร จึงได้ทดลองแต่ง ตอบกระทู้เพื่อนๆ และตอนนี้ผมก็พอจะแต่งได้บ้าง
    นับว่าดีมากที่ แก้มแดงรแงใจ ได้นำเอาที่มาของผญา มาเป็นหัวข้อกระทู้ทำให้ได้เข้าใจในที่ไปที่มาของตำผญา และอยากฝากให้ท่านผู้มีความสามารถ ช่วยกันสืบสานวัฒนะธรรมอันเป็นวรรณที่ล้ำค่านี้ให้ลูกหลานชาวอี่สานได้สืบทอดต่อๆกันไป
    จงเอาชนะในความยาก มิฉะนั้นความยากจะชนะท่าน

  4. #4
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。


    ...ชื่นชมฝีมือในการเขียนของท่านหลายค่ะ อ.โป้ยก่าย
    แม้ว่าเพิ่นพึ่งจะหัดเขียนแต่ลีลาการเว่า เก่งคักบ่หน่อยเลย
    จั่งได๋กะคงได้ติดตามฝีมือท่านอีกเนาะค่ะ มาตื่มแต่งคำผญานำกัน แต่ก่อนคะน้อยเองกะเขียนบ่เป็นดอก เขียนกลอนไปตามเรื่องตามราวไป พอดีมีอ้ายทิดเพิ่นเขียน ม่วนหลายเนาะคำอีสานนี่ และกะเห็นพ่อของหมู่เพิ่นเขียนไว้ทำเป็นรูปเล่ม น่าติดตามทีเดียว อีกอย่างคำผญาเก่าๆ กะหาอ่านยากเหลือเกิน ไว้คะน้อย จะค่อยๆ เอามาลงให้อ่านเด้อ (ถ้าคะเจ้าบ่เบื่ออ่านสาก่อน)


    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。


    ............หมอลำ...........

    ก่อนที่จะกล่าวถึง ผญา จะขอกล่าวถึงความเป็นมาของหมอลำก่อน เพื่อให้ทราบเป็นเบื้องต้นไว้ เพราะหมอลำ หมอผญา เป็นวรรณศิลป์หรือวรรณกรรมของชายอีสานโดยเฉพาะ จึงควรที่จะทราบความเป็นมาควบคู่กันไป

    หมอ = คำว่าหมอ มีความหมายหลายอย่างแล้วแต่เราจะนำไปใช้ในทางไหน เช่น หมอ หมายถึงผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี จนสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ เช่น หมอลำ หมอมวย หมอยา หมอมอ หมอตำแย เป็นต้น

    ลำ = คำว่าลำ มีความหมายหลายอย่างเหมือนกัน แล้วแต่เราจะนำไปใช้ในฐานะใด เช่น ลำ ใช้เป็นนามเรียกชื่อ สิ่งที่มีลักษณะยาว เช่น ลำไม้ ลำไผ่ ลำต้น ลำคอ ลำแขน ลำน้ำ ลำคลอง เป็นต้น

    ลำ เป็นกิริยาวิเศษณ์ เช่น เรือ ๒ ลำ ไม้ไผ่ ๓ ลำ กลอนลำ เป็นต้น
    ลำ เป็นกริยา แปลว่า ขับ เช่น ขับร้อง ขับเสพา เป็นต้น
    ลำ แปลว่า การออกเสียงเป็นจังหวะ สูง ต่ำ ทำให้ไพเราะ เช่น ลำกลอน ลำยาว เป็นต้น

    ......หมอลำ.......

    หมอลำ หมายถึงผู้เชี่ยวชาญ มีความสามารถในการลำ จนยึดเป็นอาชีพได้ เหมือนหมอลำทั่วไปจะเป็นลำสั้น ลำยาว ลำเพลิน ลำเต้ย หรือ ลำผญา ก็ตาม เช่น หมอลำบุญเพ็ง ไฝผิวชัย หมอลำทองมาก จันทะลือ หมอลำคูณ ถาวรพงษ์ หรือ หมอลำผญา เช่นหมอลำผมหอม สกุลไทย หมอลำบริบูรณ์ ยืนยง เป็นต้น





    ใจประสงค์หน่วยแก้วเมือขอดแขนขวัญ
    ใจประสงค์องค์อวงจึงข่อยเดินมาพี้

    เฮียมนี้ปอดอ้อยซ่อยเสมอดังตองตัด
    ผัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีไผสิมาซ้อน

    น้องนี้เป็นดังผ้าแพรสใบผืนเก่า
    อ้ายหากตุ้มห่อแล้วสิไลถิ่มบ่แหนง


    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  6. #6
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。


    +++++++การจ่ายผญา หรือ การแก้ผญา +++++++


    การลำผญา หรือการลำผญาญ่อย ความจริงแล้วในชุมชนดอนตาล(จ.มุกดาหาร) ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดผญา ไม่ได้เรียกว่าลำผญา หรือผญาญ่อย แต่เรียกว่า จ่ายผญา แก้ผญา เว้าผญา หรือพูดผญา เพราะการแก้ผญาเป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียง ไม่มีทำนอง แต่เป็นจังหวะ วรรคตอนเท่านั้น การจ่ายผญา หรือการแก้ผญา ก็คือการตอบคำถาม ซึ่งมีผู้ถามมา แล้วก็ตอบไป ผู้ถามส่วนมาก จะเป็นหมอลำ คือ ลำเป็นคำถาม ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายตอบ คือการจ่ายผญาส่วนมากจะเป็นหญิง ส่วนผู้ถามจะเป็นชาย เช่น


    ชาย.......... อ้ายนี้อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวถึงปลา
    อยากถามข่าวนา ถามข้าวเถิงเล้า
    อ้ายอยากถามข่าวน้อง ว่ามีผัวแล้วหรือบ่
    หรือว่ามีแต่ชู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี


    หญิง......... น้องนี้ปอดอ้อยซ้อย เสมอดังตองตัด
    ผัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีชายมาเกี้ยว
    ผัดแต่ซอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม
    ผัดแต่เป็นพุ่มไม้ เครือสิเกี้ยวกะบ่มี


    หมอผญาที่ควรกล่าวไว้ในที่นี้ คือ แม่ดา ซามงค์ แม่สำอางค์ อุณวงศ์ แม่เป๋อ พลเพ็ง แม่บุญเหลี่ยม พลเพ็ง เป็นต้น

    ((พิมพ์เมื่อยแล้ว จั่งมาต่อใหม่ละกันเด้อพี่น้องเอ๊ย))
    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  7. #7
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ โป้ยก่าย
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    กระทู้
    1,603

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。

    ได้เห็นเพิ้นมากล่าวต้านนั้นบ่แม่นธรรมดา เป็นผู้มีการศึกษาเก่งหลายทางความฮู้
    อันว่าโตข้าน้อยนี้ยังบ่มีปัญญาป่อง ฟังแต่ครองเพิ่นว่าไว้ให้เป็นหม่องป่องสิไป
    สมแล้วน้อที่คิดไว้นักปราชญ์ใหม่ไทยอี่สาน แทนตำนานการศึกษากล่าวผญาให้คงไว้
    กาลต่อไปอีกทางหน้าคันบ่มีผู่นำพา ผญาจ้อยสิค่อยเซีอมเฮียมเป็นหว่งแท้แท้จึงขอเข้าฮ่วมขบวน
    เพื่อเชิญชวนน้องอ้ายเทิงหญิงชายให้สืบต่อ พอเป็นทางต่อเนื่องเผดียงข้อต่อแถลง


    นับถือเลยครับ แก้มแดงแรงใจ ข้อมูลระเอียดยิ๊บ ขอคาระวะ ขอรับ
    จงเอาชนะในความยาก มิฉะนั้นความยากจะชนะท่าน

  8. #8
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ตะวันนา
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    1,598

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。


    ...................ความหมายของผญา...................


    ปัญญา ปรัชญา หรือ ผญา เป็นกลุ่มภาษาเดียวกัน มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้เคียงกัน หรือบางครั้งใช้แทนกันได้ ซึ่งหมายถึงปัญญา ความรู้ ไหวพริบ สติปัญญา ความเฉลียวฉลาดปราชญ์เปรื่อง หรือบางทานบอกว่า ผญา มาจากปัญญา โดยเอา ป เป็น ผ เหมือนกับ เปรต เป็น เปรต โปรด เป็น โผด เป็นต้น ผญาเป็นลักษณะแห่งความคิด ที่แสดงออกมาทางคำพูด ซึ่งอาจจะมีสัมผัสหรือไม่ก็ได้

    ผญา คือคำนาม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบ ที่เป็นจริงและชัดเจน ว่านั่น หมายถึงอะไร

    ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะไพเราะสละสลวยและในการพูดนั้น จะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย

    ผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กิจใจความมาก



    ชื่อว่าโลกีย์กว้าง เมืองคนมันบ่เที่ยง
    มันหากเงี่ยงซ่อยง่อย คือค่อยตลิ่งของ
    ลางเทื่อแนวเด็กน้อย สอนคนหัวด่อน
    ลางเทื่อลูกไพร่บ้าน สอนท้าวพ่อพญาก็มี



    อาจารย์โป้ยก่าย............แก้มบ่ได้เขียนเองดอกค่ะ ข้อมูลเกี่ยวกับผญาทั้งหมด กะมาจาก ท่านผู้รู้ตามที่บอกข้างบนล่ะค่ะ
    :heart:~?*??*?~*... คื อ วั น ห นึ่ ง ที่ หั ว ใ จ....
    ................จ ะ ห อ บ รั ก ไ ป ซ บ อุ่ น ไ อ ดิ น... .....
    * ~?*??*?~:heart:

  9. #9
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ โป้ยก่าย
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    กระทู้
    1,603

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。

    เห็นว่าได้ขี่ซ้างกั้งฮ้มเป็นพญา อย่าสุลืมคนจนผู้ขี่ควายคอนกล้า
    เห็นว่าผักหมเหี่ยนกลางทาง อย่าสุฟ้าวเหยียบย้ำ
    ฮ่ามันถอดยอดขาว บัดมันทางยอดดั้ว ยังสีได้ก่ายเกิน
    ภูเขาสูงเจิ้นเทิ้นยังฮู้มุ่นทะลายหัก หลักอยู่เทิงจอมโพนปลวกกินกะยังล้ม
    บ่มีแนวสิยืนได้อานิจจังตั้งบ่เที่ยง มีแต่แนวเงี้ยงข้อยแปลปลิ้นอยู่บ่เซา
    ได้เป็นนายชั้นเจ้าอย่าลืมเผ่ากดุมภีร์บาดฮ่ากรรมเวรมีสินั่งลงซาวก้น นางเอ้ย ซู้เพิ่นเมียเขาเอ้ย
    จงเอาชนะในความยาก มิฉะนั้นความยากจะชนะท่าน

  10. #10
    บ่าวเต็งคนโก้
    Guest

    Re: 。◎。...ความเป็นมาของผญา...(มาอ่านเบิ่งเด้อพี่น้อง)。◎。

    ฝนตกรินไหลย้อย..อ้ายคอยนางใจวอนหวี่..จนหว่าเบิดเดือนสี่..เดือนห้ามาแล้วเด้อน้อง..อ้ายคองถ่าเจ้าแต่เหิง..เหลียวไปทางแก่วก้ำ..เขาใหญ่เมืองภูพาน..คึดฮอดเด้ตาหวานบ่าวผี่ชายเคยวอนเว้า..เจ้ามาไรลืมอ้ายบ่าวภูไทเสียงเหน่อๆ..หรือหว่าเธอบ่คึดง้อคราวกี้แต่หลัง..หรือหว่านางใจเลี้ยวเกี้ยวชายนอคนใหม่..ปล่อยให้ชายถ่าพ้อว้อ..โอ้ยนอเจ้าดอกส่างเป็น

    ขอบคุณ สำหรับข้อความดีๆ และเสียงลำหม่วนๆ ครับผม

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •