วรรณคดี มาจากภาษาบาลีว่า วรรณคติ วรรณ แปลว่า เพศ สีสัน ตัวอักษร หรือหนังสือ คติหรือคดี แปลว่า การไป เมื่อรวมความกันแล้ว แปลว่า ทางของหนังสือ
วรรณคดี หมายถึง หนังสือที่ให้ความรู้ ความสะเทือนใจ ไพเราะ โศกเศร้า เช่นหนังสือชาดกต่างๆ หนังสือวรรณคดีไม่ได้หมายเฉพาะเท่าที่เป็นกาพย์กลอนเพียงเท่านั้น ความเรียงธรรมดาที่ใช้ภาษาสำนวนให้เกิดความไพเราะก็นับว่าเป็นวรรณคดี ดังนั้นวรรณคดีจึงมี 2 ประเภท คือ
1. ประเภทแต่งเป็นคำธรรมดา เรียกว่า ประเภทคำร้อยแก้ว
2. ประเภทที่แต่งเป็นกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ เรียกว่าประเภทคำประพันธ์
ประเภทคำร้อยแก้ว
หนังสือที่แต่งขึ้นธรรมดาไม่มีสัมผัส เรียกว่า ร้อยแก้ว หนังสือร้อยแก้วเป็นหนังสือโบราณของลาวส่วนมากเกี่ยวข้องในทางศาสนา ซึ่งแปลมาจากภาษาบาลี การแปลนั้นยกคำบาลีขั้นมาแปลทีละคำ เรียก แปลยกศัพท์ จึงมีคำบาลีสับกับคำลาว หนังสือร้อยแก้ว แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ
1.วิทยานิพนธ์ คือหนังสือแบบเรียน บันทึกเหตุการณ์ โดยไม่มีจุดมุ่งหมายให้ไพเราะ เช่น วิชาเลข กฎหมาย ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น
2. ศิลปะนิพนธ์ คือ แต่งด้วยร้อยแก้วธรรมดาแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความไพเราะ ไม่ได้มุ่งหมายให้เกิดความรู้โดยตรง แต่มีแนวทางในการสั่งสอนศีลธรรม และวัฒนธรรม จัดเป็นวรรณคดีประเภทร้อยแก้ว หนังสือวรรณคดีลาวส่วนมากเป็นนิทานในทางศาสนา เช่น เรื่องพระเจ้าห้าสิบชาติ นิทานเสียวสวาด นิทานนางตันไต เป็นต้น
ประเภทคำประพันธ์ (ร้อยกรอง)
หนังสือวรรณคดีประเภทคำประพันธ์ คือ หนังสือที่ผู้แต่งได้เรียบเรียงคำให้มีระเบียบกฎเกณฑ์ มีข้อบังคับ หรือที่เรียกว่า คำกลอน นั่นเอง คำประพันธ์ลาวมี 4 อย่าง คือ
1. กาพย์
2. กลอน
3. โคลง
4. สาสน์
รวมทั้งหมดเรียกว่า สันทะ แปลว่า ความพอใจ
1. กาพย์ มาจากภาษาบาลีว่า กาเวยยัง แปลว่า ถ้อยคำของนักปราชญ์ มีในบทของไวยากรณ์บาลี แปลงตัว ว เป็นตัว พ จึงเขียนเป็น กาพย์ แต่ลาวเขียนตามเสียงเป็น กาบ อาจรวมความถึงกาบดอกไม้ที่ซ้อนกันสวยงามอ่อนช้อยด้วย ในภาษาบาลี แบ่งกาพย์เป็นหลายอย่าง เช่น
กาพย์วิชชุมาลี วิจิตระ เลขะ ปาทะ
มุนินทะ ชะเน หิเต
อภิวันทา ถันตุ
มัยหังวะ สิเส สะทา
แปลเป็นลาว ข้าแต่เจ้าตนประเสริฐ มุนี
ปาทาลักเลิศงาม คนไหว้
แลงงานตั้งเป็นศรี สุนเกศ
หัวแห่งข้าทูลไว้ ซู่ยาม
กาพย์ในภาษาลาวบทหนึ่งมี 7 คำ และส่วนหลายมีแต่กาพย์เซิ้ง ตัวอย่าง
นักสนม ทังหลายหกหมื่น
นอนบ่ตื่น ขาก่ายเกาะกัน
นอนซันขา เกาโตเกาท้อง
สิ้นคี่ค้อง คออยู่เตเซ
ลางคนโกน ลางคนอ้าปาก
น้ำลายหาก ไหลออกเป็นสาย
คือผีตาย อยู่ในป่าซ้า
Bookmarks