“สร้างบ้านแปงเมือง ฮุ่งเฮือง เมืองแห่งดอกบัวบาน”

ยุคกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย ก็ได้จัดตั้งราชธานีแห่งใหม่ที่ธนบุรี โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้เจ้าพระยาจักรี ยกทัพไปยึดนครจำปาสักเวียงจันทร์ และได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระบาง กลับคืนประเทศไทย พระเจ้าสิริบุญสาร กล่าวหาว่า” พระตา พระวอ เจ้าคำผง” แข็งเมือง จึงขับไล่จากกรุงเวียงจันทร์ และได้มาตั้งเมืองอยู่หนองบัวลำภู พระยาเมืองจันทร์ยกทัพมาปราบอยู่ 3 ปี จน พระตา เสียชีวิตในสนามรบ เจ้าคำผงจึงตีฝ่าวงล้อมไปตั้งเมืองใหม่ อยู่ ตำบลแจระแม ขึ้นต่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กบฏอ้ายเชียงแก้วคิดการใหญ่จะเข้ามายึดนครจำปาสัก และจะเข้าตีเมืองไทย เจ้าคำผง จึงอาสาเป็นตัวแทนทัพไทยไปปราบกบฏอ้ายเชียงแก้ว

“ราชธานีศรีวนาลัย”

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระราชทานนาม “อุบลราชธานีศรีวนาลัย” คำว่า “ศรีวนาลัย” หมายถึง ดงอู่ผึ้ง เมื่อครั้งก่อตั้งสร้างเมืองซึ่งประกอบด้วยธรรมชาติทั่วๆ ไป มีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง และสามเหลี่ยมมรกตเชียวชอุ่มที่เลื่องชื่อ อุบลราชธานีจึงเป็น “ธานีแห่งราชะ ศรีสง่าแห่งไพรพฤกษ์”

อุบลราชธานีตั้งเมืองที่ “ดงอู่ผึ้ง” ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในการทำเทียนพรรษา รวงผึ้งอุดมสมบูรณ์มาจนปัจจุบัน สำนักพระราชวัง ได้นำขี้ผึ้งที่จังหวัดอุบลราชธานีไปเพื่อทำเทียนพระราชทาน และที่ “ภูจองนายอย” ก็เป็น”ดงอู่ผึ้ง”อีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดอุบลราชธานี

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ปูนบำเหน็จให้ พระประทุมราชวงศา ขึ้นครองเมืองโดยสถาปนาจาก พระประทุมราชวงศาเจ้าเมืองอุบล เป็น ”พระปทุมวรราชสุริยวงศ์”ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย เมื่อ พุทธศักราช 2335 และถึงอนิจกรรม ปีพุทธศักราช 2338

อุบลราชธานีเป็นอู่ อารยวัฒนธรรม เป็นเมืองพระพุทธศาสนาที่มีวัดมากที่สุดในประเทศไทย มีพระสงฆ์ชั้นสมเด็จถึง ๔ องค์ คือ สมเด็จพระมหาวีระวงษ์(ติสโส อ้วน) สมเด็จพระมหาวีรวงษ์(พิมพ์ ธม มธโร) สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จน๐ทปช๐โชโต) สมเด็จพระมหาวีระวงษ์(มานิต ถาวโร)

“วีรบุรษแห่งลุ่มน้ำโขง ชี มูล”

ผ่านหลายรัชกาล มีการสืบสานวัฒนธรรม ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ มีการอัญเชิญ พระแก้วบุษราคัม จากหนองบัวลำภูสูวัดศรีอุบลรัตนาราม สร้างวัดมหาวนารามประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินแปง นักรบบุญเพ็งอาสาไปรบปราบฮ่อ ในสมัยรัชการที่ 5 ณ เมืองหนองคาย และกลายเป็นวีรบุรุษของคุนอุบลราชธานีเพื่อปกป้องปฐพีถิ่นไทย

“ถิ่นไทยดี”

กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เป็นพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่ 5 พระปิยมหาราช ซึ่งมีชายาคือ หม่อมเจียงคำ ได้ทำนุบำรุงศิลปวัฒธรรม การศึกษา การปกครอง นำความเจริญสู่เมืองอุบลราชธานี ได้บริจาคที่ดินสร้างสารณกุศล ได้แก่ โรงเรียนนารีนุกูล โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี โรงเรียนอุบลวิทยาคม สนามทุ่งศรีเมือง ที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และริเริ่ม “งานแห่เทียนพรรษา ทอผ้าไหม ผ้าเยียรบับ ถวายในหลวง” จนได้รับการยกย่อง

ที่มา: หนังสืองานแห่เทียนประจำปี 2550good