[MEDIA]http://www.freewebs.com/themjai/ThanTaWan.wma[/MEDIA]
เพียงลมโบก..พัดเบา..ให้เหงาจิต
ใบไม้ปลิด..ปลิวร่อน..ลงจากก้าน
ไผ่ต้นน้อย..ลู่ตาม..อย่างสุดทาน
เอนเอียงตาม..ลมผ่าน..ทุกคราไป
บางครั้งก่อ..กำเนิด..ให้เกิดเสียง
สายลมเพียง..พัดใบ..ให้โบกไหว
ชวนใจเศร้า..โศกศัลย์..ถึงคนไกล
ว่าวันใด..จึงได้..เธอกลับคืน
พายุพัด..กระหน่ำ..ซ้ำลมซัด
ต้นไผ่ฤๅ..ยืนหยัด..ไม่อาจฝืน
หักลงมา..สู่ดิน..ดั่งกองฟืน
ก้มหยิบไม้..จากพื้น..ทั้งน้ำตา
นำมาเหลา..ให้เรียบ..ดูงามสวย
เจาะรูด้วย..ความคิด..คำนึงหา
เสียงจากไม้..เคยเศร้า..เหงาอุรา
วันนี้มา..เถิดฉัน..จะเป่าแทน
หวังให้เสียง..ขลุ่ยครวญ..ลอยไปถึง
ใครคนหนึ่ง..ซึ่งฉัน..เฝ้าหวงแหน
เมื่อเราอยู่..ต่างภพ..จบดินแดน
ปรารถนา..เหลือแสน..จะพบกัน
หากวันใด..ได้ยิน..เพลงขลุ่ยผิว
แว่วข้ามทิว..เขาสูง..ดุจความฝัน
นั่นคือความ..ในใจ..นับร้อยพัน
ที่ตัวฉัน..ส่งผ่าน..มากับลม
[MEDIA]http://www.freewebs.com/themjai/ThanTaWan.wma[/MEDIA]
เสียงขลุ่ยแผ่ว..แว่วหวาน..สะท้านจิต
ครวญครุ่นคิด..ถึงอดีต..แห่งความหลัง
เคยมีใคร..ตนหนึ่ง..เป่าให้ฟัง
สำเนียงยัง..ติดหู..มิรู้ลืม
เพลงลอยล่อง..ผ่านป่า ..ทิวไม้ใหญ่
ยอกย้อนใจ..ถึงใคร..เธอหวงแหน
ถึงต่างภพ..ต่างเวลา..ต่างดินแดน
เป็นตัวแทน..ลอยผ่าน..ตามสายลม
ถ้าวันไหน..เขากลับมา..ช่วยวานบอก
มิย้อนยอก..แอบฟัง..ให้กังขา
แต่ถ้าหาก..ตัวเขา..ไม่กลับมา
จะขอฟัง..ทุกเวลา..ถ้าเต็มใจ
:)
แว่วลำนำ สำนวน ครวญลำไผ่
เป็นเสียงที่ ประทับใจ หาใดเหมือน
เมื่อวันเก่า ยังคงเฝ้า คอยย้ำเตือน
ไม่อาจเลือน ดนตรีไทย ในห้องเรียน
เสียงขลุ่ยครวญ เหมือนได้ทวน ถึงความหลัง
นึกถึงบั้ง ไม้ไผ่ ลงลายเขียน
เป็นอีกหนึ่ง วิชา ที่พากเพียร
คือบทเรียน ชิ้นแรก ดนตรีไทย
แม้นวันนี้ เสียงดนตรี ที่ขับกล่อม
จะห้อมล้อม เพลงสากล ชนชาติไหน
แต่จะบอก หัวใจคุณ ทุกครั้งไป
ดนตรีไทย คือเสียงขลุ่ย คุ้ยลำนำ
ใจสั่นไหวเหมือนมีใครมาเรียกหา
เสียงจากฟ้าลอยลงมาพาก้องหู
ได้ไตรตรองนั่งมองพิจารณาดู
ก้อพอรู้ว่าเสียงกู่เรียกร้องหาใคร
พระอภัยมนีได้หนีไปหรือไรเล่า
จึงได้เป่าปี่ขุ่ยตามคอยถามไถ่
เจ็บและช้ำใจถลำเพราะคำใคร
ถึงรองให้เศร้าเสียใจในน้ำคำ
หากว่ารักถลำช้ำใจจากใครเขา
อย่าได้เศร้าทุกข์ล้นจากคนใจดำ
อย่าเสียใจอย่าได้ง้อขอบอกย้ำ
ให้ยื่นคำบอกอำลา..อาลัยเธอ
เพลง ทานตะวัน
..........ตะวันส่องใส.... แดดฉายลงมา.... ทาบทาทิวทุ่ง
แผ่วลมผ่านโรย.... เหมือนโปรยกลิ่นปรุง.... ดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาว.... วับวาวทางเกลื่อน.... เหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อย.... ราวมณีร่วงพรู.... พัดพรายลงดิน
..........จะอยู่แดนไหน.... สุดฟ้าแสนไกล.... คะนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดิน.... ที่เราจากมา.... เนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างาม.... งดงามดังก่อน.... หรือร่อนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้ง.... ลมระงมแผ้วพาน.... บ้านนาป่าเขา
..........ทุ่มกายทุ่มใจ.... เข้าโหมแรงไฟ.... หัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทำ.... ระกำหนักเบา.... ดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญ.... ยิ่งวันยิ่งเดือน.... ยิ่งเลือนยิ่งราง
ทอดทิ้งทุ่งร้าง.... วันและวันผ่านเยือน.... เหมือนเดินทางไกล
..........ตะวันส่องแสง.... สาดแสงลงมา.... ทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจ.... ก้าวไปก้าวไป.... ฝ่าภัยร้อยพัน
มิ่งขวัญเอ๋ย.... หัวใจเรามั่น.... เหมือนทานตะวัน
เฉิดแสงแรงฝัน.... กลางรวีตะวัน... สีทองส่องใส
เพลง ทานตะวัน
ในชุด ลมไผ่
เนื้อร้อง โดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ทำนอง อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
เป็นบทเพลงที่ ไพเราะ ทั้งเนื้อหา และ ดนตรี
ด้วยฝีมือชั้นครู ของทั้ง อาจารย์ทั้ง สองท่าน
ผสมผสานเป็นเป็นผลงานที่ดีเยี่ยม
******************
แว่วลำนำ..........เสียงขลุ่ยหวาน......ผ่านลมหนาว
เหม่อมองดาว.....อยู่เดียวดาย..........ใจหม่นหมอง
ฟ้ามืดหม่น.........เหมือนใจคน.........ที่เคยครอง
พี่จากน้อง.........ไปอยู่ไหน............ใยไม่มา
****************
ยินเสียงขลุ่ย.....เหมือนเสียงพี่.....ที่เคยอ้อน
เคยร่ายกลอน.....ร้อยหัวใจ.........ใยหนีหน้า
เสียงขลุ่ยครวญ...ชวนให้น้อง........นองน้ำตา
โอ้พี่จ๋า.............รู้บ้างไหม..........ใครเค้า.....คอย
****************
เสียงขลุ่ยครวญ...หวลมากลางลมหนาว
ในคืนเหงา ฟ้าแซมดาว วับวาวไหว
ฝากใจกับจันทร์ ฝากฝัน กับดาวไกล
คิดถึง...พี่บ้างไหม...เจ้ากลอยจันทร์
เฝ้าชะเง้อ มองหา แม่หน้านวล
ใจกำศรวญ โศกเศร้า ราวอาสัญ
ฝากเพียงขลุ่ย แผ่วหวน ครวญรำพัน
ข้ามฟ้าฝัน..ดาวไกล ไปหาเธอ...