ตังบาน

ตังบาน


เป็นเครืองมือหากินของคนสมัยก่อนสมัยยังน้อยเคยไปใส่ตั้งบานกับพ่อใส่ยามเดือนหงายสิได้พวกนกเค้าแมว ฮูง ถ้ากังเว็นกะสิได้พวกแหลว เหยี่ยว พวกได้มาเฮากะเอามาคั่วกิน สมัยก่อนผมเป็นคนไปขุดหนูซิงให้พ่อไปใส่ตั้งบาน พ่อเพิ่นสิมัดเชือกไว้ที่กกหางหนูแล้วกะปล่อยให้หนูวิ่งแล่นไปรอบๆพอพวกนกเห็นมันกะสิโฉบลงมากิน


ชื่อสามัญ แร้วดักนก

ประวัติความเป็นมา

พรานเป็นบุคคลฉลาดรู้จักสังเกตพฤติกรรมของนกที่หาอาหารชนิดต่าง ๆ เช่น หนู จิ้งหรีด เขียด กบ ดังนั้นจึงได้หาเหยื่อเหล่านี้มาล่อใส่ใว้ในลานของเครื่องมือเพื่อให้นกเห็นเหยื่อเคลื่อนไหวเด่นชัดขึ้น เมื่อนกบินมาโฉบเหยื่อ ปีกนกจะถูกสายใยที่ขึงไว้หลายเส้น จะทำให้ขาเก็ดหรือไม้ขาเข็ดที่ขัดกับพระเนียดหรือคางของตัวบานจะหลุดลงมาตะปบไว้ในตาข่ายทันที

วัสดุที่ใช้ผลิต

ขั้นที่ 1 นำไม้เนื้อแข็งมาทำคาน เสา ไม้แม่ตังบาน โดยเจาะที่ไม้แม่ตังบานนำคานสอดเข้าไป และเจาะที่ปลายสุดของไม้แม่ตังบาน ปากไม้หลักตังบานให้เป็นหยักไว้เพื่อใช้ขึ้น

ขั้นที่ 2 นำไม้ไผ่มาทำพะเนียดเป็นวงเพื่อขึงตาข่ายทั้งข้างบนและข้างล่าง ให้ขนาดของพะเนียดเท่า ๆ กัน เพื่อตะปบนก

ขั้นที่ 3 นำไม้ไผ่มาทำเป็นคาน ให้อ่อนโค้ง คล้ายไม้คาน แต่แข็งแรงมีสปริงใช้เชือกมัดที่ปลายคานทั้งสองข้างให้ติดกับปลายชุดของพะเนียดสองข้าง ส่วนปลายบนของพะเนียดสองข้างจะมัดด้วยเชือกกับคานตังบาน เมื่อขึ้นไม้คานแล้วจะทำให้เกิดแรงยึดเป็นสปริง ทำให้พะเนียดมีแรงตะปบนกได้

ขั้นที่ 4 ลานของตังบานสานด้วยไม้ไผ่เป็นแผ่นตัดแต่งให้เป็นครึ่งวงกลม มัดติดไว้กับไม้แม่ตังบาน แล้วใช้เชือกเอ็นมัดขอบลานติดโครงยึดไว้

ขั้นที่ 5 ที่กึงกลางของลานนำไม้ชิ้นเล็ก ๆ มาขัดไว้ เพื่อผูกเหยื่อติดไว้

ขั้นที่ 6 ทำสายใยด้วยด้ายเส้นเล็ก ๆ มัดรอบขอบลานเป็นระยะ ๆ ให้ปลายสายทั้งหมดมารวมกัน ขึงขึ้นข้างบนให้รับกับพะเนียดและไม้ขาเก็ด ปลายสุดของสายใยจะขนปีไก่ 1 อัน ปลายขนปีกไก่จะมัดติดกับสายใย โคนของขนปีกไก่จะทำเป็นรูปเอาไว้เพื่อสวมไม้ขาเก็ด เมื่อนกบินมาโฉบเหยื่อ ปีกนกจะถูกกับสายใยทำให้ขาเก็ดหลุด พะเนียดซึ่งขึงเปิดไว้จะหลุดมาตะปบนกไว้ในตาข่ายทันที

นกที่ติดตังบานได้แก่ นกเค้า นกกะเต็น นกขาบ เหยี่ยวนกเขา นกเค้าแมว ฯลฯ