-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
วิถีทางแห่งการสร้างสุข
ใจที่แคบลงย่อมหมายถึงโอกาส
ที่จะได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ น้อยลงไปด้วย
ทำให้ชีวิตจมจ่อมอยู่กับสิ่ง
ที่ตัวเองคิดแต่เพียงฝ่ายเดียว
แม้จะมีสิ่งดีงามผ่านเข้ามา
ก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสสิ่งนั้นได้
เมื่อมองโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะค้นให้ทั่วและเห็นประจักษ์แจ้งในทุกเรื่องราวได้ แต่โลกทางวัตถุที่ว่ากว้างนั้นเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับใจของคนเราแล้ว กลับมิอาจเทียบได้กับความซับซ้อนของใจ
เป็นความซับซ้อนที่ยากจะหาคำตอบได้ด้วยการรับรู้จากวัตถุภายนอก แต่ต้องปรับความรู้สึกให้เรียนรู้และเข้าใจความละเอียดที่มีอยู่ด้วยความอ่อนโยน เพราะโลกแห่งวัตถุภายนอกนั้น เมื่อวิทยาการสมัยใหม่เจริญขึ้น ก็สามารถตอบข้อสงสัยที่ต้องการรู้ได้ในชั่วข้ามคืน
ทว่าพอหันกลับมาดูจิตใจที่ซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตของคนเรา ซึ่งดูเหมือนใกล้แต่กลับไกลเกินกว่าที่จะเอื้อมดึงมาอยู่ใกล้ตัว เป็นภาวะที่ซับซ้อนเกินกว่าหลักวิทยาการสมัยใหม่จะตอบได้ ด้วยเหตุนี้คนเราจึงเริ่มมีปัญหากับจิตใจที่ใกล้ตัว เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับภาวะที่แอบอิงในชีวิตของตนให้รู้เท่าทันได้อย่างไร
แต่ก็ใช่ว่าจิตใจที่ดูเป็นสิ่งไกลเกินที่โลกแห่งวัตถุพิสูจน์ไม่ได้นั้น จะไม่สามารถปรากฏชัดได้เสียทีเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างล้วนมีทางออกในตัวของมันเอง รวมทั้งการแสวงหาภาวะของจิตใจที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในชีวิตด้วย
ทว่าก็ต้องอาศัยหลักในการค้นหาคำตอบมากพอสมควร จึงจะสามารถค้นใจนั้นให้เป็นภาพที่ปรากฏแก่ชีวิตได้ และวิธีที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดโลกแห่งใจให้ใสสว่าง และปรากฏเป็นภาพที่จับต้องได้ก็คือ การเปิดใจของตัวเราเอง
เพราะการเปิดใจให้มองเห็นความจริงในชีวิต เป็นการสร้างทัศน
คติที่ถูกต้องดีงามให้เกิดขึ้นในตนเอง ซึ่งภาษาพระเรียกว่าสัมมาทิฏฐิอันหมายถึงการมีความเห็นชอบ เพราะเมื่อใดที่เรามีความเห็นที่ชอบธรรม และถูกต้องจากครรลองที่ควรจะเป็น ก็จะทำให้ชีวิตมีกรอบในการจัดสรรตัวเองได้ง่ายขึ้น เป็นการปรับวิถีแห่งใจให้ใกล้กับความจริง ที่สำคัญการมีสัมมาทิฏฐิถือว่าเป็นการเปิดใจที่อยู่ภายในให้กว้างขึ้น เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ซ่อนเร้นให้กระจ่างชัด
อนึ่งหากคราใดชีวิตไร้ความเห็นที่ถูกต้องดีงาม อันเนื่องมา
จากถูกความหลงเข้ามาครอบงำใจตน ย่อมทำให้มองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยมุมมองที่ผิดพลาด ถึงจะพยายามค้นหาคำตอบที่สงสัยอย่างไรก็ย่อมไร้ผล เพราะวิธีการตอบโจทย์นั้นเพี้ยนจากความถูกต้องไป รังแต่จะเหน็ดเหนื่อยเพราะวิธีการเหล่านั้นโดยสูญเปล่า
สิ่งที่ตามมาจึงครอบงำใจให้หมองเศร้าและแคบลง หมองเศร้าเพราะถูกครอบงำจากความไม่รู้แจ้ง แคบลงจากโอกาสที่จะได้เรียนรู้สรรพสิ่งที่มีอยู่ จึงทำให้ภาวะของความลวงก่อตัวเป็นความเขลาของชีวิตอยู่ร่ำไป
เพราะใจที่แคบลงย่อมหมายถึงโอกาสที่จะได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ น้อยลงไปด้วย ทำให้ชีวิตจมจ่อมอยู่กับสิ่งที่ตัวเองคิดแต่เพียงฝ่ายเดียว แม้จะมีสิ่งดีงามผ่านเข้ามาก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสสิ่งนั้นได้
ดังนั้น ปราชญ์ทั้งหลายจึงเตือนอยู่เสมอว่า เมื่อจะเรียนรู้ชีวิตให้มีความดีงามเกิดขึ้น จงเบิกตาที่จะมองสิ่งต่างๆ ให้ไกล เปิดใจที่จะรับรู้ด้วยความอ่อนโยน และเรียนรู้สรรพสิ่งอย่างรู้เท่าทันด้วยปัญญา เพื่อเป็นมูลค่าเพิ่มของชีวิตอันนำไปสู่ความสุขที่กำลังงอกเงย ณ ปลาย
ทางข้างหน้าต่อไป
เพียงเปิดตาและใจให้กว้างไกล ความสดใสแห่งชีวีย่อมปรากฏมีแก่เราเสมอ
มีการนำเรื่องมาเล่าเปรียบเทียบระหว่างผู้มีใจเปิดรับและเรียนรู้สิ่งต่างๆกับผู้ที่ปิดใจตนเองว่า ทั้งสองนั้นมีวิธีคิดและความเป็นอยู่ที่ต่างกันอย่างไรไว้ว่า มีกบน้อยตัวหนึ่งมีนิสัยชอบโอ้อวดในเรื่องที่อยู่อาศัยของตน ไม่ยอมเปิดใจให้กว้างที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าที่อยู่ของตนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลกว่าใครเขา
วันหนึ่งเจ้ากบน้อยได้เห็นเต่าทะเลผ่านมา จึงทักทายและชวนคุย และด้วยความที่เป็นผู้ชอบโอ้อวด กบน้อยจึงมิวายที่จะกล่าวอวดบารมีของตนให้เต่าฟัง
ท่านเต่า ท่านเชื่อไหมว่าข้าอาศัยอยู่บ่อนี้มีความสุขมาก วันๆ ข้าก็จะกระโดดและแหวกว่ายน้ำอย่างอิสระ เมื่อถึงเวลาพักผ่อน ข้าก็นอนพักอยู่ในโพรงข้างกำแพงบ่อ ข้ามีความสุขมาก แม้แต่พวกเจ้าหนอน ปู และลูกอ๊อดก็ไม่มีใครเทียบกับข้าได้ ข้านี่แหละคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ่อนี้ ข้าดูสูงศักดิ์มากที่สุดเมื่ออยู่ในบ่อนี้ ข้ามีความสุขใจยิ่ง ท่านไม่มาเยี่ยมชมที่อยู่ของข้าหน่อยหรือ
ฝ่ายเต่าทะเลเมื่อได้รับฟังกบน้อยเล่าให้ฟัง และเชื้อเชิญให้ไปชมที่อยู่ของตน จึงตัดสินใจที่จะลงไปในบ่อนั้น ทว่าเมื่อยื่นขาลงไปก็ไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากบ่อตื้นและเล็กมาก เต่าทะเลจึงต้องเลิกล้มความพยายามที่จะลงไปในที่อยู่ของกบ
หลังจากนั้นเพื่อเป็นการเตือนสติ และเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้กับกบน้อย เต่าทะเลจึงเล่าเรื่องที่อยู่ในทะเลของตนให้กบฟัง
ความกว้างใหญ่ของทะเลนั้นยิ่งใหญ่มาก แม้ระยะทางจะกี่พันกิโลก็ไม่ทำให้รู้ถึงความกว้างของทะเล แม้ความสูงกี่พันศอกก็เทียบไม่ได้กับความลึกของทะเล ในทะเลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่เคยเห็นน้ำทะเลแห้งหรือลดลงแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ความสุขที่ยิ่งใหญ่ของข้า ก็คือการได้แหวกว่ายอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่นั้น
หลังจากที่กบได้ฟังเรื่องดังกล่าว ก็รู้สึกละอายในความหยิ่งยโสของตัวเองยิ่งนัก ทำให้กบน้อยตาสว่างขึ้น และได้รู้ถึงความไม่สำคัญของตน ตลอดถึงรู้จักตระหนักในความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่ตัวเองยังไม่รู้จักอีกมากมาย
เช่นเดียวกับชีวิตของคนเราที่บางครั้งก็ไม่ต่างอะไรกับกบน้อยที่ลอยคออยู่แต่ในที่อยู่ของตน และจมอยู่กับความคิดเห็นของตัวเองฝ่ายเดียว คิดว่าสิ่งที่คิดและทำนั้นถูกต้องที่สุด ไม่ยอมที่จะค้นคว้าสิ่งที่ลึกเข้าไปในอีกหลายๆเรื่อง
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ใจปิดตัวลงในการรับรู้สิ่งดีงามที่รออยู่อีกมากมาย จึงทำให้พลาดการเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ถ้าเราเปิดตาให้ไกลและเปิดใจให้กว้าง ที่จะเรียนรู้และรองรับสิ่งดีๆ ที่โลกมอบให้ด้วยจิตใจที่เบิกบาน และอ่อนโยนต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น เราย่อมมีโอกาสที่จะตอบโจทย์ของชีวิตได้ชัดเจนมากขึ้น ตอบความสงสัยที่คาใจด้วยความเข้าใจที่แท้จริง กระทั่งว่าไม่มีความสงสัยต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เพราะเนื่องมาจากการเรียนรู้ด้วยสติปัญญาที่แท้จริง ทำให้ชีวิตมีวิธีการแก้ไขตนเองโดยอัตโนมัติ เมื่อนั้นความสุขอันเกิดจากใจที่เบิกบาน ย่อมปรากฏมีแก่เราตลอดกาลนาน
-
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
อืห์มม.. เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ เวลาทุกนาทีที่ผันผ่านคือการเรียนรู้เพื่อที่จะ..อยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด..ภายในช่วงชีวิตอันน้อยนิดของมนุษย์เมื่อเทียบกับจักรวาล..รักกัน ..ทำดีต่อกันไว้เถิด..ปองเพื่อนมนุษย์..
มองต่าง..อย่างปลง
-
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks